รีวิวหนังเทพๆ "The Social Network" ตัวแทนหนังยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษนี้
The Social Network (2010), David Fincher
อยากเขียนถึงมานานแล้วสำหรับ The Social Network อีกหนึ่งหนังในดวงใจและเป็นหนังที่มีอิทธิพลและเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตการดูหนังสูงมาก เป็นอีกคนที่ดูหนังเพื่อความบันเทิงเหมือนกับหลายๆคนแต่บันเทิงในที่นี้คือหลายๆรูปแบบ สนุก เศร้า เหงา รัก ตลอดไปจนถึงการได้ดูความโดดเด่นหรือเอกลักษณ์ของหนังนั้นๆ ล้วนแล้วแต่เป็นความบันเทิงหมด The Social Network นี่บอกไม่ถูกว่ามันเป็นความบันเทิงแบบไหนคือมันไม่ใช่แบบที่แตกต่างอะไรหรอกแต่มันมีความเฉพาะตัวโคตรๆซึ่งตัวเราเองก็หลงใหลในจุดนี้มากจริงๆ
เริ่มจากความที่เป็นชีวประวัติของเด็กเนิร์ดในสังคมเด็กเนิร์ด ถ่ายทอดชีวิตของเด็กเนิร์ดที่ประสบความสำเร็จ คือก่อนดูคิดว่ามันคงไม่ได้ผิดไปจากหนังแบบ A Beautiful Mind สักเท่าไหร่แต่พอได้ดูมันไม่ใช่สุดๆ มันเป็นหนังเนิร์ดที่ดุดันมีพลังงานสูงมาก องค์ประกอบรวมถึงการเล่าเรื่องให้ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวไม่น่าไว้วางใจทั้งเรื่องไล่ตั้งแต่งานภาพของ Jeff Cronenweth กับการตัดต่อแพรวพราวกระฉับกระเฉงบวกกับดนตรีประกอบของ Trent Reznor, Atticus Ross ไปอีก ทุกองค์ประกอบทำหน้าที่ของตัวเองได้แบบยอดเยี่ยม คุมมู้ดกับโทนเรื่องไปในทางเดียวกันได้แบบไร้ที่ติ
มาจนถึงบทหนังระดับขึ้นหิ้งของ Aaron Sorkin น่าจะเป็นบทหนังดัดแปลงจากหนังสือที่ส่วนตัวชอบมากที่สุดแล้ว บทหนังมีการกระชากอารมณ์น้อยมากมีแต่การขับเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ถึงดูแล้วจะรู้เลยว่าดัดแปลงจากเรื่องจริงมามากพอสมควรแต่พอมันผสมกับองค์ประกอบหนังที่กล่าวไปข้างต้นมันไปด้วยกันได้น่าทึ่งมากๆตั้งแต่เนื้อหาหนังที่มีเรื่องราวของความทะเยอทะยานและความคลั่งไคล้ในความสมบูรณ์แบบของมาร์ค เรื่องราวการอิจฉา-ทรยศกันของเพื่อนบวกกับบรรยากาศไม่น่าไว้วางใจเช่นเดียวกับบุคลิกนิสัยของมาร์คในเรื่อง บทพูดสุดฉลาดและยังเร็วไฟแลบก็ไปกันได้ดีกับการตัดต่อหรือลำดับภาพที่แทบไม่มีการแช่กล้องตลอดไปจนดนตรีประกอบที่ใช้เป็นสิ่งขับเคลื่อนตัวหนังอย่างยอดเยี่ยม เรียกว่ามันมีความเป็น Cinematic ในแบบที่ส่วนตัวรู้สึกว่าแม่งเท่และน่าหลงใหลมากๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้นที่กล่าวทุกสิ่งอย่างอยู่ในความควบคุมของผู้กำกับ David Fincher สไตล์การกำกับเฮียแกเข้ากันได้ดีกับหนังเรื่องนี้มาก สไตล์การเล่าเรื่องใช้ความบ้าพลังเยอะๆ+การสร้างบรรยากาศอึดอัดไม่น่าไว้วางใจ ไปได้ด้วยดีกับบทหนังของ Sorkin มาก มันผสมออกมาเป็นความบันเทิงที่ไม่ค่อยได้ประสบนักจากการดูหนังมา อย่างที่บอกไปย่อหน้าแรกว่ามันมีความเฉพาะตัวสูงมาก ชอบความสมบูรณ์แบบที่ไม่เหมือนใครของหนังนี่ที่สุดเลย จนถึงตอนนี้พยายามจะมองหาหนังที่สมบูรณ์แบบในองค์ประกอบของตัวหนังเองแถมยังเป็นความสมบูรณ์แบบเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร มองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอหรืออาจจะมีนะแต่ยังไม่มีที่เรียกว่าโคตรจะชอบมากแบบเรื่องนี้
อวยอีกนิด(ไม่เวอร์กว่าความเป็นจริง)คือ The Social Network นอกจากมีความยอดเยี่ยมในตัวแล้วยังเป็นหนังที่พูดถึงสังคมออนไลน์สิ่งที่มีอิทธิพลที่สุดอีกสิ่งหนึ่งของมนุษย์ยุคนี้ เนื้อหามันบันทึกยุคสมัยมากๆ ไล่ดูแต่ละทศวรรษที่ผ่านมายกตัวอย่าง ปี 70-79 มี The Godfather , 80-89 มี Blade Runner , 90-99 มี Pulp Fiction จนมาถึงทศวรรษที่เพิ่งผ่านมาคือไตรภาค The Lord of the Rings ก็ไม่เกินไปเลยถ้า The Social Network จะเป็นตัวแทนหนังยอดเยี่ยมของทศวรรษนี้