คณะกรรมการกลางกำหนดวันที่ 11 ก.พ.59 เป็นวันเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมเปิดทางให้ทุกคนที่สนใจลงสมัคร แต่คุณสมบัติต้องไม่ขัดกับข้อบังคับ ขณะที่ 30 เสียงจาก ด.2 ต้องโหวตใหม่ โดยอาจให้ทั้ง 6 โซนมาโหวตพร้อมกัน

“เสธ.โต” พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ประธานคณะกรรมการกลาง ซึ่งแต่งตั้งโดย ฟีฟ่า นัดคณะกรรมการฯ ประชุมการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประจำสัปดาห์ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ตึกการกีฬาแห่งประเทศไทย

“เสธ.โต” กล่าวหลังการประชุมว่ามีข้อสรุปเกี่ยวกับการเปิดรับสมัครและวันเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแล้ว โดยเดือน ธ.ค. – 11 ม.ค.59 จะเปิดรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ และวันที่ 11 ก.พ.59 เป็นวันเลือกตั้งนายกสมาคมฯ

“การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ จะใช้ 72 เสียงตามเดิม ประกอบไปด้วย ไทยพรีเมียร์ลีก จำนวน 18 เสียง, ดิวิชั่น 1 จำนวน 18 เสียง (อันดับ 1-18 หลังสิ้นสุดฤดูกาล 2558), ดิวิชั่น 2 จำนวน 30 เสียง (แต่ละโซนโหวตกันเองใหม่) และถ้วยพระราชทาน ประเภท ข ค ง 6 เสียง (ถ้วยละ 2 เสียง)”

“ในส่วนของดิวิชั่น 1 จากเดิมใช้อันดับ 1-18 ของตาราง โดยสิ้นสุดวันที่ 13 ก.ย. แต่เมื่อมันผ่านมาแล้วก็ต้องเปลี่ยนใหม่มาเป็นอันดับ 1-18 โดยนับจากสิ้นสุดฤดูกาล 2015 ขณะที่ดิวิชั่น 2 จากการที่ได้ศึกษากฎหมายต่างๆ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าการโหวตกันเองที่ผ่านมาถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามถือว่าขัดต่อข้อกฎหมายเพราะตอนที่เลือก 30 เสียงมาครั้งก่อนนั้น ใช้ระเบียบข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลฯ พ.ศ.2556 แต่การเลือกตั้งในครั้งนี้ จะใช้ข้อบังคับสมาคมฟุตบอลฯ พ.ศ.2558 จึงจำเป็นต้องเลือกใหม่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสที่สุด ซึ่งหากมองว่าการเลือกตัวแทนในครั้งก่อนนั้นทำอย่างถูกต้องแล้วก็ไม่จำเป็นต้องวิตกอะไร เพราะสามารถเลือกตัวแทนเดิมเข้ามาเลือกตั้งได้เช่นกัน”

“เราได้ส่งแนวความคิดนี้ไปให้ทางฟีฟ่า และ กกท.พิจารณา คาดว่าจะได้รับคำตอบภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ทันตามปฏิทินที่วางไว้ ซึ่งจะให้เลือกตัวแทนจาก 6 โซน โซนละ 5 ทีมเช่นเดิม แต่อาจจะเชิญทุกสโมสร ทุกโซน มาจัดการเลือกตั้งพร้อมกัน และต้องเสร็จภายในเดือน ธ.ค. ส่วนการมอบอำนาจให้ผู้มาโหวตจะต้องมีการกำหนดให้ดี เพื่อป้องกันการซื้อเสียงหรือสวมสิทธิ ซึ่งที่วางไว้อาจจะกำหนดให้นิติบุคคลของสโมสรเป็นตัวแทนเท่านั้น และจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนการเลือกตั้ง”

“เสธ.โต” กล่าวปิดท้ายว่าตนทำงานโดยไม่เข้าใครออกใคร หรือว่าเป็นพวกของใครทั้งสิ้น ซึ่งทุกคนสามารถลงสมัครได้หากคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนตามที่ข้อบังคับกำหนด

ใครเข้ามาก็ได้ ขอให้มาแบบขาวสะอาด

จะบังยี หรือ หอย หรือใครก็ได้

ขอแค่เข้ามาโดยสุจริต ยุติธรรม ก็พอ

ไม่มีนอกไม่มีใน สาธุ

ไม่เอาทั้ง ยี ทั้ง หอย อ่ะครับ แดกงบพอกันทั้งคู่ ผลงานก็ห่วยพอกัน อยากได้หน้าใหม่ไฟแรง


ทำงานรวดเร็ว ตรวจสอบได้ ผมเข็ดกับพวกหน้าเก่าๆ อยากได้คนนอก ที่รู้เรื่องฟุตบอล


หรือ มาดามแป้ง ก้ได้ ผู้หญิงคนนี้ถ้ามีงบประมาณให้ใช้ น่าจะพาทีมชาติไปได้ไกล


และ คงไม่แดกงบภาษีโดยไม่จำเป็น แม้ว่าจะยังใหม่ ทำงานเรื่อยๆ เด่วก็เก่งขึ้นเอง


แรกๆ คงมึนๆ คงมีผู้ช้วยคนเก่าๆมาช้วยสอนบ้างนิดหน่อย อีกคนก็ คุณ เนวิน ชิดชอบ


การบริหารไม่ต้องโม้อะไรมาก การพาบุรีรัมย์เป็นสโมสรระดับแนวหน้าของเมืองไทย


และอันดับต้นๆของเอเชีย น่าจะรู้ผีมือกันดีอยู่แล้ว แต่คิดว่า บิ๊กเน คงไม่รับงานนี้


ส่วนพวก คนในกองทัพ อย่าให้เห็นมาสมัครจะด่าให้ สรุปผมเชียร์ มาดามแป้ง นี้แหละ


ความคิดเขาดี บ้าบอลเหมือนผู้ชาย ที่แน่ๆ ไม่คิดจะโกงเงินภาษี ข้อนี้สำคัญสุด

เฮียมั๊ยล่ะ พ้นแบนพอดี

สมเจ็ดไหมละ