ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 17 May 2010
ตอบ: 4572
ที่อยู่: Associazione Calcio Milan
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 5:50 pm
ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..
คือหนังมันดีมากนะ บอกความรู้สึกไม่ถูก แต่ดูจบแล้วมันเศร้า ความเหงามันโหดร้ายจริงๆ
ขนาดเจ้าของมู้มีแฟนแล้วนะ แล้วคนที่อยู่คนเดียวดูเรื่องนี้แล้วจะขนาดไหน



รีวิว+สปอย หนังเรื่องนี้จากคุณ ไทเลอร์

Spoil
ไทเลอร์ พิมพ์ว่า:

ไม่ได้ดูหนังที่ประทับใจโคตรๆขนาดนี้มานานมากๆ จนกระทั่งได้มาดูเรื่องนี้..
ก็เลยอยากจะเขียนรีวิวบรรยายความรู้สึกส่วนตัวที่มีต่อหนังเรื่องนี้สักหน่อยครับ
ลองอ่านแล้วติชมได้ครับ


เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่องนะครับ



มันสมบูรณ์แบบยังไง ?
- เนื้อเรื่อง
- ตัวละคร
- บทสนทนา
- ภาพ
- เพลง
มันล้วนแล้วแต่เป็นประเด็นไปซะหมด เป็นรายละเอียดของหนังทุกอย่าง ผมจะขออธิบายยาวๆช่วงแรกๆนะครับว่ารายละเอียดกับ
องค์ประกอบมันยอดเยี่ยมขนาดไหนแล้วเดี๋ยวจะเขียนให้รวบรัดน่าอ่านขึ้นครับ


- ธีโอดอร์ ทวัมบลีย์ (วาคิน ฟีนิคซ์) ผู้ที่มีกิจวัตรประจำวันวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องเดิมๆ ทำงานเขียนจดหมายให้กับลูกค้า กลับบ้าน
และคิดถึงเมียเก่าที่รอการเซ็นใบหย่า บางครั้งก็เซ็กส์โฟนกับสาวที่ไม่เคยเห็นหน้า


เป็นตัวละครที่น่าสนใจมากแค่งานอย่างเดียวก็ทำเอาอึ้ง เขียนจดหมายให้กับคนไม่รู้จัก..เห้ย! ในอนาคตคนอื่นจะรู้ความรู้สึกเรา
ดีกว่าตัวเราเองงั้นหรอ คือแบบอยากจะเขียนจดหมายหาแฟนต้องให้มันเขียนให้เลยหรอเนี่ย แล้วธีโอดอร์ทำหน้าที่ได้ดีมากๆด้วยสิ ประดิดประดอยคำศัพท์สวยๆหรูๆจนเจ้านายหรือเพื่อนรวมงานชมกันตลอดแต่เหมือนธีโอดอร์จะไม่รู้สึกภูมิใจเท่าไหร่
เพราะเค้ามักจะ
ปฏิเสธเสมอว่ามันก็แค่จดหมายเท่านั้น
แล้วผมสัมผัสได้ถึงการจิกกัดสังคมในยุคปัจจุบันนิดๆหน่อยๆนะลองมองรอบๆตัวเรา
ทุกวันนี้คนในสังคมก้มหน้าก้มตาอยู่กับสมาร์ทโฟนอยู่กับโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆนาๆ จะกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง มีความสุข
เศร้าน้ำตาเล็ดน้ำตาไหลยังถ่ายรูปโชว์ คือต้องแชร์ไปหมด จนบางทีคนรอบข้างรับรู้ไปหมดว่าเราทำอะไรบ้าง เราทำอะไรอยู่
แล้วนึกดูในหนังเรื่องนี้เดินเรื่องอยู่ในโลกอนาคตที่เทคโนโลยีพัฒนาไปกว่าเดิมขนาดไหน คนในสังคมเป็นอย่างไร ที่ถึงขนาดให้คนอื่น
ที่ไม่รู้จักเขียนจดหมายแทนความรู้สึกของตัวเองให้

แล้วยังสื่อประเด็นนี้ให้เห็นผ่านภาพซึ่งผมจะขอเอ่ยถึงภาพที่ปรากฏอยู่บนจอหนังเลยนะครับ..สื่ออย่างไร?


เช่นภาพนี้ ในปัจจุบันนะคนในลิฟต์ที่ผมเห็นส่วนใหญ่จะยืนเงียบๆไม่ก็คุยกับคนรู้จัก แต่ในภาพนี้คนคุยกับไอ...คอมพิวเตอร์พกพานั่นอะ รวมทั้งธีโอดอร์ก็ด้วย แล้วในฉากนี้พี่ธีโอแกเข้าลิฟต์ปุ๊ปสั่งการให้คอมพิวเตอร์เปิดเพลงเศร้าทันที แหม่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชีวิตพี่เป็นยังไง


ต่อมาภาพนี้ ผู้คนในภาพเดินคนเดียวไม่มีเพื่อนไม่มีฝูงรอบข้างเต็มไปด้วยตึกสูงแสดงให้เห็นถึงผู้คนที่มีอยู่มากมาย
แต่คนกลับเดินคุยกับคอมพิวเตอร์
ธีโอดอร์เองก็ด้วย สั่งให้คอมพิวเตอร์เช็คอีเมลล์ หนึ่งในนั้นคืออีเมลล์ของเพื่อนที่ชวนไปเที่ยวมั้งผมลืมแต่มีการบอกกับธีโอดอร์ว่าอย่าทำตัวให้เศร้านัก กับการที่ธีโอดอร์ปฏิเสธที่จะตอบอีเมลล์ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธีโอดอร์เบื่อที่จะเข้าสังคม



คุยกับคอมอีกภาพ

ในช่วงแรกมีฉากหนึ่งที่น่าสนใจอีกคือฉากธีโอดอร์นอนคิดถึงแฟนเก่า ที่มีการตัดภาพธีโอดอร์ไปเป็นภาพวันวานของเค้ากับอดีตเมีย
ซึ่งมันทำให้รู้ได้ถึงความเจ็บปวดจากความรักของธีโอดอร์กับคนรักเก่า

บางครั้งธีโอดอร์ก็แก้เซ็งโดยการเซ็กส์โฟนกับหญิงสาวที่ไม่เคยเห็นหน้า
ตรงนี้ผมอยากให้สังเกตภาพที่หนังจะสื่อ
การที่ธีโอดอร์เอื้อมมือไปหยิบที่เสียบหู...


แล้วทำแว่นตก แต่ธีโอดอร์กลับไม่สนใจแว่นตาเนี่ย มันเหมือนกับว่าธีโอดอร์สนใจที่เสียบหูมากกว่าสิ่งที่สำคัญกับตัวเองมากๆอย่างแว่นที่มีความจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน

ถ้าให้เล่าเป็นช็อตๆเป็นฉากๆคงไม่หมด เอาเป็นว่าอยากให้สังเกตทุกสิ่งทุกอย่างในหนังทุกวินาทีครับ
หลังจากนี้จะเขียนแบบเข้าเรื่องรวบรัดขึ้นมาหน่อยแล้วกันครับ แต่ผมจะพยายามอธิบายถึงรายละเอียดให้มากที่สุด
_________________________________________________________________________________________

- ซาแมนธา (สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน)

เมื่อวันหนึ่งธีโอดอร์ได้พบกับซาแมนธาที่เป็นปัญญาประดิฐ์(AI)ที่สามารถพัฒนาการเรียนรู้ไปได้อย่างไม่รู้จบจากประสบการณ์ใหม่ๆ
มาตรงนี้ พล็อดหนังโรแมนติกชัดๆ เจอกันครั้งแรกก็คุยกันถูกคอแล้ว เพลงประกอบที่เริ่มเปลี่ยนไปจากเหงากลายเป็นอบอุ่น
ภาพเช้าอันสดใส ตัวธีโอดอร์เองก็ดูเปลี่ยนไปเพราะมีเพื่อนคุยอย่างที่ไม่เคยมี และัในฉากที่ได้เจอกับเพื่อนของเค้า เอมี่(เอมี่ อดัมส์)กับแฟนหนุ่มชาลส์(แมตต์ เล็ทส์เชอร์) เค้าก็เข้าไปทักทายพูดคุยปกติทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นตัวเองก็ปฏิเสธแม้กระทั่งการตอบอีเมลล์เธอ
เห็นได้ชัดว่าการมีซาแมนธาโผล่เข้ามาแปปเดียวทำให้ธีโอดอร์รู้สึกมีความสุขมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


- บรรยากาศหนังเปลี่ยนอีกอย่างรวดเร็วเพราะอีเมลล์เรื่องการเซ็นใบหย่าจากแคธเทอรีนอดีตคนรักของธีโอดอร์ คืนวันนั้นธีโอดอร์ระบายความในใจและความรู้สึกที่มีต่อแคธเทอรีนและความรู้สึกของแคธเทอรีนที่มีต่อเค้าให้กับซาแมนธาฟังและปัญาหาที่ทำให้ต้องแยกทางกัน

เป็นฉากที่ดีมากครับ บทสนทนาโดนใจมาก นอกจากการได้รับรู้ถึงความรู้สึกของธีโอดอร์แล้วยังอินกับความรู้สึกของซาแมนธาอีกด้วย
มีช่วงหนึ่งของบทสนทนาที่ธีโอดอร์พูดกับซาแมนธาประมาณว่าซาแมนธาเนี่ย ไม่รู้จักความรู้สึกของจริงหรอก ผมว่ามันโดนต่อมสะอึกของซาแมนธามาก แต่เราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่พัฒนาขึ้นไปอีก มันเหมือนกับซาแมนธาเป็นเพื่อนที่ไม่ได้แค่รับฟังธีโอดอร์ระบายอย่างเดียว ทั้งคู่ร่วมทุกข์ร่วมเศร้าไปด้วยกัน และคำปลอบใจของเธอที่ทำให้ธีโอดอร์ยิ้มออกมาได้ทั้งน้ำตา...
บรรยากาศหนังเปลี่ยนไปอีกแล้ว เพลงที่สนุกแบบอบอุ่น รอยยิ้มของธีโอดอร์ที่เกิดจากน้ำเสียงของซาแมนธา และการที่ธีโอดอร์คุยเรื่องส่วนตัวกับซาแมนธาทั้งๆที่ไม่เคยคุยกับใครมาก่อนเลย สิ่งที่น่าสนใจคือซาแมนธาพูดถึงการที่เธอจินตนาการว่าเธอมีร่างกาย เธอสัมผัสได้ถึงน้ำหนักตัว และเหมือนเสแสร้งตลกๆว่ามันเหมือนไม่ใช่การที่เธอนั้นถูกตั้งโปรแกรมขึ้นมา แต่เธอรู้สึกถึงมันได้จริงๆ...


- เดทครั้งแรกหลังจากอกหัก

ธีโอดอร์ได้รับอีเมลล์จากลูว์แมนที่เตือนให้ธีโอดอร์ไปงานวันเกิดหลานสาวและก็ได้แนะนำสาวมั่นมีเสน่คนหนึ่งให้ธีโอดอร์ได้รู้จัก
และธีโอดอร์ก็ชวนเธอคนนั้นออกเดท ผมรู้สึกแปลกใจนิดๆนะว่าทำไมธีโอดอร์ถึงอยากจะออกเดททั้งๆที่เป็นคนเก็บตัว
แต่ลองคิดๆดูเหมือนธีโอดอร์ไม่ใช่คนที่ต่อต้านการเข้าสังคม แต่เค้ากลัวการที่จะต้องรักใครสักคนมากกว่า เพราะมันอาจจะทำให้เค้าเจ็บเมื่อต้องเลิกรากันเหมือนกับความรักของเค้าที่ผ่านมา...และการที่ธีโอดอร์ได้มีเพื่อนที่คุยได้ทุกเรื่องอย่างซาแมนธา มันเหมือนกับเป็นการเพิ่มความกล้าให้เค้าได้เปิดใจเข้าสังคม ทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ อาจจะเพราะเหตุนี้ทำให้ธีโอดอร์ตัดสินใจออกเดทอีกครั้ง...แต่สุดท้าย
ธีโอดอร์ก็ทำไม่ได้ที่จะจริงจัง เค้าไม่สามารถเปิดใจให้กับใครได้อาจจะเพราะเค้ายังกลัวการจะรักใครแบบจริงจังซึ่งมันอาจทำให้เค้าเจ็บแบบที่เคยเจ็บมาแล้ว...

- รักครั้งใหม่ของธีโอดอร์

ฉากที่โคตรดีอีกแล้ว
ในคืนนั้นที่ธีโอดอร์น่าจะได้คู่นอนเป็นหญิงสาวที่ได้ออกเดทด้วยแต่ไม่ใช่ เพราะความกลัวการอกหักของเค้า ทำให้สิ่งที่เค้าต้องการ
ไม่ได้มีอะไรมากกว่าคู่นอน แต่สำหรับฝ่ายหญิงนั้นเธอต้องการผู้ชายที่สามารถจริงจังด้วยได้...ธีโอดอร์รู้สึกเหงาและเศร้าก็เลยระบาย
กับซาแมนธาเหมือนที่เคยทำแต่แตกต่างตรงที่ครั้งนี้เค้ากลับเป็นคนปลอบใจซาแมนธา สิ่งที่ซาแมนธาแสดงออกผ่านทุกคำพูดของเธอคือความทุกข์...ที่ไม่รู้ว่าเป็นของจริงหรือถูกตั้งโปรแกรมมา...บาดใจผมอีกแล้ว และในคืนนั้นเองที่ธีโอดอร์กับซาแมนธาร่วมรักกัน
ผมใช้คำว่าร่วมรักไม่ใช่มีเซ็กส์หรือเซ็กส์โฟน เพราะเค้าทั้งคู่ร่วมรักกัน บทพูดที่แสดงออกถึงความทะนุถนอมของธีโอดอร์ที่มีต่อซาแมนธา ความสุขที่ทั้งคู่มอบให้แก่กัน ทำให้สัมผัสได้ถึงความรักที่เริ่มก่อตัวขึ้นของเค้าทั้งคู่ บอกตรงๆแบบไม่อายว่าน้ำตาคลอกับฉากนี้
ดูหนังมาก็ครั้งแรกเนี่ยแหละที่น้ำตาคลอฉากมีเซ็กส์


หนังเดินเรื่องต่อไปกับรายละเอียดในทุกๆวินาที ประเด็นสำคัญๆก็เอมี่ที่แยกทางกับชาลส์เหตุผลเพราะความทุกข์ใจอีกนั่นแหละ
เอมี่รู้สึกอึดอัดกับการที่ต้องเข้าใจกันจนต้องแยกทางกันไปในที่สุด และเธอยังรู้สึกดีที่แยกทางกับชาลส์เธอรู้สึกปลดปล่อย
จากฉากที่ธีโอดอร์กับเอมี่พูดคุยกันทำให้ได้รู้ว่า ชาลส์กับเอมี่ก็มีAI เป็นเพื่อนด้วยเหมือนกันแต่หลังจากที่ทั้งคู่เลิกกันไป
เอมี่ก็ไม่เคยรู้สึกเหงาเพราะมีAIที่ว่านั้นอยู่เป็นเพื่อนเสมอ และการเซ็นใบหย่าของธีโอดอร์กับแคธเทอรีน ในที่สุดธีโอดอร์ก็ตัดสินใจ
เซ็นใบหย่าหลังจากที่ยื้อมานานเพราะยังรักแคธเทอรีนอยู่ แต่เพราะการที่ได้เจอกับซาแมนธาทำให้เค้าตัดสินใจได้ ประเด็นเจ็บๆเลยคือ
คำพูดของแคธเทอรีนที่ทำให้ธีโอดอร์ต้องเก็บมาคิดว่าสิ่งที่เค้ากำลังทำอยู่มันเป็นไปไม่ได้ มันคือความแปลกแยก...

- ร่างเทียมของซาแมนธา

ย้อนกลับไปก่อนหน้าจะเซ็นใบหย่า ซาแมนธาเกิดอาการหึงหวงเมื่อธีโอดอร์ต้องไปเจอกับแคธเทอรีน ซึ่งมีร่างกาย มีตัวตน
ทำให้ซาแมนธาเกิดรู้สึกไม่สบายใจ เธอต้องการผูกมัดธีโอดอร์ เธอต้องการให้มีช่วงเวลาดีๆแบบที่คนจริงๆมีได้ สิ่งที่เธอทำคือ...
การให้หญิงสาวคนหนึ่งที่ธีโอดอร์ไม่เคยรู้จักมาเป็นร่างเทียมของเธอเพื่่อให้ธีโอดอร์มีอะไรด้วย...เจ็บจี๊ดอีกละฉากนี้ มันสุดๆมากเลยนะ ขณะที่ธีโอดอร์กำลังมีความคิดว่าตัวเองนั้นแปลกแยกจากสังคมแล้ว ยังต้องมาเจออะไรแบบนี้อีกมันอึดอัดมากๆ...ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเข้าใจความรู้สึกของซาแมนธาด้วย เหมือนกับว่าอยากให้ธีโอดอร์รักและรู้สึกเหมือนเป็นคนที่มีคู่รักทั่วๆไป ไม่ใช่คนรักกับคอม...
แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วธีโอดอร์ก็ทำไม่ได้แล้วก็เกิดการมีปากเสียงกันขึ้น ผมน้ำตาคลอกับฉากนี้อีกแล้วมันไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกสงสาร
ซาแมนธาหรือธีโอดอร์ แต่มันรู้สึกสับสนและเครียดไปกับทั้งคู่..

และแล้วก็น้ำตาหยดจนได้กับฉากที่ธีโอดอร์ระบายให้กับเอมี่ฟังถึงความทุกข์ใจที่เค้ามี...เค้าต้องการอะไรกันแน่?
เค้าพร้อมที่จะมีความรักแล้วจริงหรือ? แต่ละประโยครู้สึกเห็นใจและเข้าใจธีโอดอร์มาก คำปลอบใจจากเอมี่คือช่างแม่ง รักๆไปเหอะ
ธีโอดอร์ก็ตัดสินใจแบบนั้น เค้าปรับความเข้าใจกับซาแมนธาแล้วคิดจะทุ่มเทใจจริงจังกับเธอคน(?)นี้..
แล้วมันก็เป็นไปได้ด้วยดี ทั้งคู่สามารถเข้ากับสังคมส่วนหนึ่งได้อย่างไม่รู้สึกแปลกแยกด้วย

- การพัฒนาของซาแมนธากับการบอกลาธีโอดอร์

ย้อนกลับไปตอนแรกที่ผมอธิบายถึงซาแมนธา เธอเป็นAI ที่สามารถพัฒนาการเรียนรู้ของเธอไปได้อย่างไปรู้จบได้จากประสบการณ์...ประสบการณ์ที่เธอได้ผ่านมาเริ่มแรกไม่ว่าจะเป็นเธอได้คุยกับธีโอดอร์ ได้คุยกับเืพื่อนธีโอดอร์ ร่วมรักกับธีโอดอร์
ทะเลาะกับธีโอดอร์ บลาๆ ๆ มันทำให้เธอเข้าใจถึงมนุษย์ได้มากยิ่งขึ้น ทำให้เธอมีประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น จนในที่สุดเธอก็เหมือนตรัสรู้
หลังจากได้รวมกลุ่มสุมหัวคุยเรื่องประสบการณ์ของกันและกันกับพวกAI นักปราชญ์ทั้งหลาย จนเธออัพเดทระบบของเธอทำให้สามารถ
คุยกับใครก็ได้ เคลื่อนย้ายไปไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่กับธีโอดอร์คนเดียว...สงสารธีโอดอร์มากมันเจ็บนะเนี่ย ในขณะเดียวกันมันก็ไม่ใช่ความผิดซาแมนธา เพราะเธอเป็นAI ที่สามารถพัฒนาได้เรื่อยๆ ซึ่งนั่นหมายความว่ายังไงวันนี้ก็ต้องเกิดขึ้นวันที่เธอพัฒนาไปมากๆ...
เพียงแต่มันอาจจะเร็วเกินไป จนธีโอดอร์ไม่อาจรู้ได้ว่ามันเร็วขนาดนี้ สุดท้ายเธอก็จากไปกับคำพูดแต่ละคำที่เป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้สุดๆ ถึงขนาดเธอจะจากไปไหนยังไม่สามารถอธิบายให้ธีโอดอร์เข้าใจได้...

- จดหมายถึง Her

มาถึงตอนจบละ หลังจากที่ซาแมนธาจากไป ธีโอดอร์ก็ว้าเหว่อย่างเห็นได้ชัดแต่ผมว่ามันไม่ใช่ความเศร้าเลย ธีโอดอร์เขียนจดหมาย
ถึงแคธเทอรีน สังเกตว่านี่เป็นครั้งแรกที่เค้าเขียนจดหมายของเค้าเองและเขียนด้วยตัวเอง มันแตกต่่างอย่างมากกับการที่เค้าเขียนจดหมายให้ลูกค้าเพราะเค้าเขียนมันด้วยใจไม่ใช่ด้วยสมอง ทุกคำพูดสื่อถึงความทรงจำของเค้ากับคนรักซึ่งอาจจะไม่ใช่แค่แคธเทอรีน
แต่เป็นซาแมนธาด้วย...หลังจากนั้นก็ไปนั่งชมวิวกับเอมี่ที่ดาดฟ้า ภาพของตึกสูงที่รายล้อมมันสื่อให้เห็นว่ายังมีคนอีกมากและยังมีสิ่งต่างๆ
ที่ธีโอดอร์ต้องได้เจอ และเค้ายินดีที่จะเปิดใจเจอสิ่งต่างๆอย่างไม่กลัว แม้ว่าเรื่องราวความรักของเค้ามันจะทำให้เค้าเจ็บจนอาจจะเข็ดขยาดที่จะมีความรักแต่มันเปลี่ยนไป มันไม่ใช่ความเจ็บปวดแต่เป็นความทรงจำ และเค้าก็รู้สึกดีที่มีความทรงจำดีๆนั้นอยู่กับเค้าเสมอ



ย้ำอีกทีครับ หนังเรื่องนี้ทุกวินาทีที่ปรากฏอยู่บนจอ ทุกองค์ประกอบ มันคือรายละเอียด มันคือการสื่อสาร
ตัวละครเกือบทุกตัวจำเป็นต้องมีในหนังไม่ใช่ตัวละครที่ในหนังมี
แล้วนักแสดงเองยังถ่ายทอดตัวละครของตัวเองออกมาได้อย่างดีมาก

บทพูดที่สื่อแทบจะทุกประโยค
เพลงหรือดนตรีที่ไม่มีเนื้อร้องแต่เมื่อหลับตาฟังก็รู้ได้ถึงอารมณ์หรือความรู้สึกนั้นๆ
ภาพนี่ก็แทบจะสื่อทุกช็อตเป็นการถ่ายภาพที่สวยและสื่ออารมณ์ในตอนนั้นๆได้ดีมาก
เนื้อหาในหนังก็แทบจะเป็นหนังปรัชญาของความรักและการเข้าสังคม ยิ่งช่วงพีคๆมันเหมือนหนังศาสนาอย่างบอกไม่ถูก
แล้วมันสื่อสารได้เข้าใจ ไม่หลุดโลก ติสแตกอย่างหนังบางเรื่องเช่น 2001 a space odyssey

ส่วนตัวผมร้องไห้ไปสองรอบสำหรับเรื่องนี้ ตอนร่างเทียมกับตอนจบ รู้สึกบ้ามากเพราะดูหนังรักโรแมนติกไม่เคยร้องไห้เลย
ต่อให้เศร้ารันทดรักขนาดไหนก็เถอะเพราะผมไม่อินกับความดราม่าโอเวอร์ ประมาณว่ารักกันแล้วตายจากกันนี้ยิ่งหลับ แต่เรื่องนี้ ใช่เลยอะ
บางคนที่ดูแล้วไม่อินผมก็เข้าใจนะ เพราะหนังเรื่องนี้ต้องดูไปทำความเข้าใจไปด้วยถึงจะอินได้...


อันนี้เป็นกระทู้ดีๆที่อยากแนะนำครับ
หนังเรื่องนี้คือจดหมายของสไปค์ โจนส์(ผู้กำกับ,ผู้เขียนบท)ถึงอดีตภรรยาด้วยครับ ลองอ่านกระทู้นี้ครับ
http://pantip.com/topic/31643413

สุดท้ายนี้อยากจะฝากปรัชญาความรักดีๆที่หนังเรื่องนี้มอบให้ ขอบอกว่าผมก็อปเค้ามาทั้งดุ้นเลยครับ http://pantip.com/topic/31629597 เจ้าของกระทู้วิเคราะห์ได้เทพมาก ประทับใจเลยอยากเอามาแชร์ครับ

รักคืออะไร?

(ความรักของ Theodore)

- รักในมุมมองของ Theodore คือการแบ่งปัน การร่วมใช้ชีวิต สังเกตได้จากภาพต่างๆสมัยที่เขายังคบอยู่กับแฟน
ช่วงเวลาต่างๆที่เขาได้ร่วมใช้ชีวิตจะถูกแทรกเข้ามาเป็นระยะและจี้จุดที่ทำให้เขาหวนถึงช่วงเวลานั้น

- รักคือจินตนาการ Theodore มักจะจินตนาการถึงความสัมพันธ์ต่างๆ เช่น ตอนที่จินตนาการกับ Samantha ถึงการมีตัวตน การสัมผัส
การร่วมรัก เป็นต้น

- รักคือการเป็นเจ้าของ เช่น ตอนที่ Theodore แสดงความหึงหวงอย่างแรงกล้าในฉากที่รู้ความจริงว่า
Samantha คุยกับคนอื่นอีกหลายร้อยคน

- รักคือความผิดหวัง Theodore เคยกล่าวว่า “คนเรา มักจะทำให้คนอื่นผิดหวังเสมอ” เปรียบได้กับความรักในช่วงที่เรารู้สึกผิดหวังหรือท้อถอย

- รักคือการยอมรับ ช่วงท้ายๆของเรื่อง Theodore ยอมรับ Samantha แม้ว่าเธอจะเป็นแค่ AI หรือสิ่งไม่มีชีวิตในสายตามนุษย์นั่นเอง
(จุดนี้เองที่ทำให้มองความรักของมนุษย์ได้ลึกขึ้น บ่อยครั้งที่เราไม่กล้ายอมรับว่าเรารัก ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะเรากลัวว่ารักของเรา
”ไม่เป็นที่ยอมรับ”)

- รักคือการเปิดใจ พูดคุย ฉากที่ Theodore ยอมรับในตัว Samantha และพร้อมที่จะพูดทุกสิ่งทุกอย่างแบบเปิดเผย ไม่ยอมทำพลาดเหมือนครั้งที่เลิกกับแฟนเก่า

- รักคือความเข้าใจ แม้ว่าในฉากสุดท้ายที่ Theodore จะสูญเสีย Samantha แต่เขาก็ได้เรียนรู้อีกครั้งว่าความรักไม่จำเป็นต้อง”สมหวัง”
แต่คือ”ความทรงจำ” นั่นเอง

- รักคือการไม่รู้จัก Theodore เคยพูดว่าเขาพบเจอมาหมดแล้วทุกช่วงอารมณ์ แค่จะมีอารมณ์ย่อยๆของมันมาอีกเท่านั้น
ซึ่งเขาพูดในฉากท้ายๆว่า “ผมไม่เคยรักใครในแบบคุณ” นี่เป็นความรักแบบใหม่ที่ Theodore ไม่เคยพบหรือความรักที่เขา”ไม่รู้จัก”

(ความรักของ Amy)

- Amy เริ่มเข้าใจความรักจากความทุกข์ เธอเรียนรู้ว่าสิ่งต่างๆที่ทำไปมันช่างดูโง่เง่า แต่เธอก็รู้จักปล่อยวางและจดจำความสุขที่เคยมีและ”ชั่งแมร่ง”

- รักคือความบ้า “ความรักเป็นเรื่องที่บ้ามาก แต่เป็นความบ้าที่สังคมยอมรับ” คำพูดนี้ออกมาจากปากเธอเอง

(ความรักของ Samantha)

- รักของเธอคือการเรียนรู้ Samantha เริ่มรู้จักความรักจากการเรียนรู้อารมณ์ เรียนรู้มนุษย์ เรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว

- รักคือการไม่ยึดติด การที่เธอเคยบอก Theodore ว่า”อดีตคือเรื่องราวที่เราคอยบอกตัวเอง” เป็นการให้ Theodore เลิกยึดติด
และกล้าสร้างความสัมพันธ์ใหม่ รวมถึงการเสียสละหายไป...

- รักคือความไม่เป็นตัวเอง เช่น ตอนที่ Samantha ไม่เชื่อมั่นในตัวเองเพราะไม่มีร่าง เธอจึงยืมร่างของคนอื่นที่เต็มใจ
ซึ่งในมุมมองของคนที่เต็มใจคือ“รักไม่มีเส้นกั้น”

"รักคือทุกสิ่ง"



10/10 สำหรับหนังเรื่องนี้ครับ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบครับ



edit คำผิด ย่อหน้า เพิ่ม-ตัดเนื้อหา  

ที่มา http://www.soccersuck.com/boards/topic/1000093
 
[/img]

#weareacmilan
เข้าร่วม: 01 Jun 2010
ตอบ: 2159
ที่อยู่: สะพานแสตมฟอร์ด
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 5:53 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
เสียงสกาเล็ตแหบ เพราะจิงๆ
0
0
เข้าร่วม: 08 Jan 2015
ตอบ: 2015
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 5:54 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ตอนดูจบนี่สองอารมณ์ควบเลย อารมณ์อิ่มๆเพราะหนังดี กับอารมณ์จุกเพราะเข้าตัว
0
0

เข้าร่วม: 12 Oct 2010
ตอบ: 18489
ที่อยู่: Thammasat Rangsit
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 5:54 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ได้ยินมานานละ ขอลองดูสักที
0
0

เข้าร่วม: 06 Nov 2010
ตอบ: 8476
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 5:58 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ขนาดตอนดูนี่เพิ่งคบกับแฟนใหม่ยังโคตรเหงาเลยครับ

ส่วนตัวผมชอบ Ost. ของเรื่องนี้มากๆ ฟังอัลบั้มเดียวเป็นเดือนๆ
0
0
LFC BVB ATM Inter OM (NUFC Celtic)

เราเล่าหนัง: https://goo.gl/grOQ6i
เข้าร่วม: 17 May 2010
ตอบ: 4572
ที่อยู่: Associazione Calcio Milan
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 6:01 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ใครอยากลองของแนะนำให้ดูเลยครับ หนังดีมากผมรับประกัน แต่ดูจบแล้วมัน..
มันไม่ใช่หนังที่ทำร้ายคนดูด้วยการจบแบบเศร้า แต่มันลึกซึ้งกว่านั้น ลองดูๆ
0
0

#weareacmilan
เข้าร่วม: 17 May 2010
ตอบ: 4572
ที่อยู่: Associazione Calcio Milan
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 6:05 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ACN พิมพ์ว่า:
ขนาดตอนดูนี่เพิ่งคบกับแฟนใหม่ยังโคตรเหงาเลยครับ

ส่วนตัวผมชอบ Ost. ของเรื่องนี้มากๆ ฟังอัลบั้มเดียวเป็นเดือนๆ  




เพลงนี้
0
0

#weareacmilan
เข้าร่วม: 02 Mar 2010
ตอบ: 4994
ที่อยู่: ทับแก้ว
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 6:05 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
มาแค่เสียง ยังรู้สึกได้ว่าเซ็กซี่
1
0


Spoil
 
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 521
ที่อยู่: ในรู รู้ รู
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 6:10 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
สำหรับผมนะ อารมณ์เหงาในเรื่องมันเหงาจริงเหงาจัง

แต่พอตอนจบ ผมรู้สึกแบบ เออ โลกนี้มันดีนะที่มีความรักอยู่ มันเหงาแต่มันก็สวยงามในเวลา

เดียวกัน สำหรับผมน่าจะเรียกว่าความสุขหลังจากดูจบ

หลังจากประมวลความรู้สึกตัวเองแล้นะ
เหนื่อยใจ แล้วแต่มึงเลย
เข้าร่วม: 29 Sep 2010
ตอบ: 5570
ที่อยู่: .
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 6:22 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
เหงาก็ไปลงอ่างซิครับ

0
0
เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 17253
ที่อยู่: On The Top Of The World
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 6:25 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ผมพลาดอะไรไปเนี่ย ว่าจะดูตั้งหลายทีแระ

มัวแต่มองข้ามไปดูแต่หนังแอ๊คชั่น หนังผี หนังตลกก่อนตลอดเลย

อ่านแค่รีวิวก็รู้แล้วว่าตัวหนังทำออกมาได้เยี่ยมขนาดไหน

มีช่วงนึงของชีวิตที่ผมชอบหนังแนวนี้มากๆ แนวปรัชญาทางความรัก

ทางสังคม การตีความและค้นหาความหมายของชีวิต หนังแบบนี้

บางทีเสพแล้วมันดื่มดำกำซาบกว่าหนังตลาดแนวอื่นๆที่เราเคยดูๆกันอีกนะ
0
0
เข้าร่วม: 14 Oct 2010
ตอบ: 6338
ที่อยู่: Bangkok
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 6:26 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ลองไปดู The Lobster อีกสักเรื่องครับ ผมเพิ่งไปดูมารอบ 14.30

ถ้าชอบเรื่อง Her ผมว่าน่าจะชอบเรื่องนี้ เรื่องที่พูดถึงคนโสด คนที่มีคู่ และกรอบทางสังคม
เข้าร่วม: 25 Apr 2007
ตอบ: 13534
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 6:36 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ขึ้นหิ้งอีกเรื่อง
0
0
เข้าร่วม: 06 Nov 2010
ตอบ: 8476
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 6:41 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ambrosini พิมพ์ว่า:


เพลงนี้  


สำหรับผมต้องเพลงนี้ครับ



ความจริงก็ชอบทุกเพลงแหละ
0
0
LFC BVB ATM Inter OM (NUFC Celtic)

เราเล่าหนัง: https://goo.gl/grOQ6i
เข้าร่วม: 21 May 2011
ตอบ: 128
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 6:41 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
หนังดี อีกเสียงครับ

ชอบเพลงประกอบ

ชอบ Production design

ชอบทุกอย่างอ่ะ ... 5555
0
0
เข้าร่วม: 01 Apr 2010
ตอบ: 86
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 9:31 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ผมดูแล้วจากเศร้าๆ แยกทางกับแฟนใหม่ๆ ผมกลับไปสดใสนะ ผมเห็นอะไร เข้าใจอะไรขึ้นเยอะเลย

หนังเรื่องนี้ทำให้ผมมูฟออนได้เลยครับ
0
0
เข้าร่วม: 17 May 2010
ตอบ: 4572
ที่อยู่: Associazione Calcio Milan
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 10:52 pm
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
gunzanaruk พิมพ์ว่า:
ผมดูแล้วจากเศร้าๆ แยกทางกับแฟนใหม่ๆ ผมกลับไปสดใสนะ ผมเห็นอะไร เข้าใจอะไรขึ้นเยอะเลย

หนังเรื่องนี้ทำให้ผมมูฟออนได้เลยครับ  

โอ้ว น่าสนใจครับ อาจจะเพราะเรามองในมุมที่ต่างกัน
ผมกลัวที่จะต้องกลับไปเหงาเหมือนในเรื่อง ส่วนคุณมองเห็นการเริ่มต้นใหม่
0
0

#weareacmilan
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 19000
ที่อยู่: เนินเขา keyakizaka
โพสเมื่อ: Sat Nov 28, 2015 1:08 am
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
อยากดูแต่ก็ขี้เกียจ
0
0
I'm chelsea Fan ♥
Keyakizaka46 ,nogizaka46 - Techi,Ozeki,Nagasawakun,sugai, Ikuchan ~

เข้าร่วม: 24 Jul 2008
ตอบ: 1108
ที่อยู่: Into The Pit Magazine
โพสเมื่อ: Sat Nov 28, 2015 1:09 am
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ลองดู Mary and Max ครับ เหงากว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
0
0


เข้าร่วม: 09 Jan 2011
ตอบ: 2699
ที่อยู่: หลังกองหน้า
โพสเมื่อ: Sat Nov 28, 2015 2:33 am
[RE: ดูหนังเรื่อง Her แล้วจิตตกทั้งวัน..]
ผมชอบทุกอย่างของเรื่องนี้นะ ทั้งเพลง การเล่าเรื่อง เนื้อเรื่องก็น่าสนใจมีฉากหลังเป็นโลกอนาคตที่ไม่่จ๋าเกินไป แล้วเอามาผูกกะเรื่องความสัมผัสของมนุษย์ หรือฉากในเรื่องที่เป็นเมืองใหญ่ ชอบมาก

ดูจบแล้วก็รู้สึกดีนะ เพราะว่าได้ดูหนังดีๆสักเรื่องนึง แต่ก็แอบคิดถึงตัวเองในมุมเหงาๆเหมือนกัน แล้วย้อนกลับมามองตัวเองว่าเราก็อยู่ตัวคนเดียวได้ มีเพื่อน ครอบครัว มีเงิน โอเคแล้ว
0
0
I got the better end of the deal. I only lent you my body. You lent me your dream.