ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านตั้งแต่พาร์ทแรก แล้วก็ขอต้อนรับเข้าสู่พาร์ทสามของกระทู้แนะนำดราม่าญี่ปุ่นครับ
*แน่นอน ใครพลาดพาร์ทเก่าไปก็ตามได้ในล็อกเกอร์ของผม และหากอ่านแล้วชอบใจถูกใจก็ช่วยกับถีบมันขึ้นไปเป็นกระทู้แนะนำให้คนอื่นได้อ่านต่อนะครับ
โดยรอบนี้จะมีดราม่าที่มีธีมของสายอาชีพต่างๆที่เหลืออยู่จากรอบที่แล้ว มาผสมกับดราม่าสืบสวนสอบสวนหรือจิตวิทยาและดราม่าที่มีธีมของเรื่องเครียดๆหนักๆครับ
โดยจะแบ่งเป็นสองพวกเช่นเดิมคือ
ดราม่าที่อยู่ในระดับดี (6-8 คะแนน) และ
ดราม่าที่ต้องดู (8.5-10 คะแนน)ครับ
*ก่อนเข้าสู่รีวิวตามตาราง ส่วนนี้คือรีวิวพิเศษ ซึ่งวันนี้จะขอแก้ตัวรีวิว Amachan อีกหนึ่งรอบหลังจากดูจบแล้ว รีวิวสั้นๆคือ หากเปรียบ Hanzawa Naoki เป็นหนึ่งในดราม่าสายเครียดอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นแล้ว Amachan ก็คือดราม่าสายฟีลกู๊ดอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน โดยรีวิวเพิ่มเติมเปิดดูได้ในสปอยด้านล่างครับ
Spoil
เดิมทีผมเคยรีวิวไว้ในพาร์ทหนึ่งว่าอามะจังนำเสนอบรรยากาศของชนบทญี่ปุ่นและแฝงไว้ด้วยดราม่าอย่างลงตัว
แต่สิ่งที่ผมยังไม่รู้ในตอนนั้น(ที่ยังดูไม่จบ)คือ อามะจังยังนำเสนอเรื่องราวของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นตัวเอก หรือตัวประกอบอื่นๆ ในช่วง 15 นาทีต่อตอนนั้นได้ดีเสียยิ่งกว่าดราม่ามาตรฐาน 45 นาทีทั่วๆไปเสียอีก
156 ตอนของอามะจัง เต็มไปด้วยตัวละครที่มีสีสันมากมาย ด้วยการกระจายบทที่ยอดเยี่ยม ทำให้มั่นใจได้ว่า ตัวละครที่คุณชื่นชอบที่สุดนั้น จะได้เป็นดาวเด่นในตอนใดตอนหนึ่งอย่างแน่นอน
และเพราะความยอดเยี่ยมดังที่กล่าวมา ทำให้ละครเรื่องนี้สมจริงเสียจนบางครั้งทำให้เราคิดว่าเรื่องที่เราเห็นในขณะนี้นั้นเป็นเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นจริง คุณจะได้หัวเราะในตอนหนึ่ง น้ำตาปริ่มในอีกตอน และแน่นอนว่าความผูกพันกับตัวละครจะเกิดขึ้นมา ในขณะที่คุณค่อยๆมุ่งไปสู่จุดจบของเรื่องโดยที่ไม่รู้สึกตัว
ดราม่าฟีลกู๊ดในญี่ปุ่นนั้นมีมากมาย และทุกเรื่องก็มักจะแฝงข้อคิดไว้ตามสไตล์แดนอาทิตย์อุทัย แต่กระนั้น ทุกเรื่องที่ผมได้สัมผัสมามักจะจบลงด้วยความรู้สึกเติมเต็มหรือความรู้สึกที่เหมือนขาดอะไรบางอย่างไป
ไม่เคยมีดราม่าฟีลกู๊ดใดๆทำให้ผมรู้สึกเหมือนเพื่อนสนิทคนหนึ่งได้โบกมือลาไปเมื่อมันจบลงอย่าง Amachan มาก่อนเลย
10 คะแนนครับ
Spoil
รางวัลดราม่ายอดเยี่ยมของญี่ปุ่นปี 2013 และก่อให้เกิดหนึ่งกระแสครั้งใหญ่ที่สุดของวงการดราม่าญี่ปุ่น ไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วยครับ
ปล1. หากท่านใดสนใจ สามารถหาดูทุกตอนแบบบรรยายไทยได้ในเพจ Nounen Rena Club ในเฟซบุ๊คได้เลยครับ โดยครึ่งแรก(ภาคบ้านเกิด)สามารถดูออนไลน์ได้ แต่ภาคโตเกียวต้องโหลดอย่างเดียวครับ
ปล2. และหากทั้งหมดที่ผมรีวิวเพิ่มเติมมายังทำให้คุณอยากดูไม่ได้ คิดซะว่าเข้าไปดูนางเอกก็แล้วกันครับ
1 Litre of Tears
สิบปีที่แล้ว วงการดราม่าญี่ปุ่นหยิบเรื่องจริงผ่านไดอารี่ของเด็กหญิงคนหนึ่งมาปรุงแต่งให้เกิด น้ำตาหนึ่งลิตร ดราม่าที่สามารถกระชากน้ำตาจากคนดูทั่วโลกออกมาได้สำเร็จ
อายะ และ ฮารุโตะ คือชื่อที่โด่งดังที่สุดในปี 2005 ปีที่น้ำตาหนึ่งลิตรได้คลอดออกมา พร้อมกับเรื่องราวที่ไม่แม้แต่จะลดความสมจริงถึงแก่นของเด็กหญิงกับโรคร้ายชนิดที่รักษาไม่ได้ลง
ด้วยความลงตัวแทบทุกอย่าง นักแสดง บทและการดำเนินเรื่อง รวมทั้งเพลงประกอบละครที่กลายเป็นหนึ่งในเพลงที่ยอดเยี่ยมเข้าถึงอารมณ์ที่สุดและพร้อมจะทำให้หัวใจคุณกลายเป็นเสี่ยงๆทุกครั้งที่ได้ยินมันหลังจากที่คุณดูจบ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบดราม่าหนักๆ ผู้ที่ตาแห้งผากอยากให้น้ำตาไหลออกมาบ้าง หรือชายแท้บึกบึนที่อยากท้าทายด้วยการนั่งดูดราม่าเรื่องนี้กับผองเพื่อน
คำเตือนเพียงหนึ่งเดียวที่ผมมีให้คือ ระวังนินจาที่จะมานั่งปอกหัวหอมข้างๆในยามที่คุณไม่รู้สึกตัวเอาไว้ครับ
9.0 คะแนนครับ
Spoil
แม้ว่าจะยอดเยี่ยมสักขนาดไหน แต่น้ำตาหนึ่งลิตรก็มีจุดด้อยอยู่บ้างให้เห็นได้เหมือนกัน คือการแสดงในบทบาทผู้ปกครองที่อาจจะไม่ถูกจริตหลายๆคน และคุณค่าในการดูซ้ำที่ไม่ใช่ด้อยลง แต่ออกจะทำใจให้ดูได้ยากกว่าเรื่องอื่นๆ
N no Tame ni
ดราม่าโรแมนซ์คือหนึ่งในดราม่าที่ทำให้มันลงตัวยากที่สุด โดยเฉพาะเรียลโรแมนซ์สไตล์หนักหน่วงสมจริง แต่ N no Tame ni กลับใส่ความลึกลับเพิ่มลงไป แต่มันกลับผสมกันออกมา กลายเป็นดราม่าที่เลยเถิดเกินคำว่าดี แต่เป็นดราม่าที่ยอดเยี่ยมที่สุดในดราม่าประเภทนี้ไปโดยปริยาย
เชื่องช้าแต่จับคุณอยู่หมัดคือคำจำกัดความในการดำเนินเรื่องของดราม่าเรื่องนี้ การกำกับภาพที่สวยงาม ดนตรีประกอบที่ตระการหู และสิ่งที่ N no Tame ni ทำได้ดีที่สุดคือความผสมผสานระหว่างความตื่นเต้น ความลึกลับ และความรัก ที่นำเสนอออกมาได้อย่างดาญดื่น สมจริง รวมทั้งไร้ที่ติที่สุดเรื่องหนึ่ง
ดังนั้นผู้ที่เบื่อดราม่าตลกโรแมนซ์ ดราม่าความรักที่แลดูเฟค หรือผู้ที่ชื่นชอบดราม่าโรแมนซ์ทุกประเภท รวมทั้งผู้ที่สนใจในดราม่าญี่ปุ่น ไม่ควรจะพลาดด้วยประการทั้งปวง
9.0 คะแนนครับ
Spoil
ด้วยความที่ส่วนหนึ่งที่เปล่งประกายของดราม่าเรื่องนี้คือความลึกลับ เหมือนกับ Hanzawa Naoki ดังนั้น จึงทำให้คะแนนในส่วนของการย้อนกลับมาดูลดลงไปเช่นเดียวกันครับ
Ouroboros
แม้ว่าดราม่าสืบสวนจะอยู่ในจุดที่หยุดนิ่งหากมองในเรื่องของแนวทางในช่วงปีหลังๆของดราม่าญี่ปุ่น แต่ Ouroboros คือดราม่าที่ทลายกรอบนั้นออกมาได้อย่างสง่างาม
ดราม่าสืบสวนที่ประกอบไปด้วยสิ่งที่แฟนๆต้องการจะเห็น บทบู๊บุ๋น การไขปมปริศนา ความลึกลับตื่นเต้น และหักมุมในจุดที่น่าสนใจ คือสิ่งที่ดราม่าเรื่องนี้ทำให้ผู้ชมเห็น และเพิ่มความเสพติดในการรับชม การสวมบทบาทที่สมจริงของตัวละครต่างๆเข้าไป
ทำให้ดราม่าเรื่องนี้เหมาะกับคนที่ชื่นชอบดราม่าญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เมียนมองหาดราม่าแนวสืบสวนดีๆใหม่ๆมานาน
9.0 คะแนนครับ
Spoil
แม้จะมีการหักมุมอยู่บ้าง Ouroboros ก็ยังเป็นการนำจุดที่น่าดึงดูดของละครสืบสวนมาผสมๆกันอย่างยอดเยี่ยมอยู่ดี ซึ่งยังคงขาดความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอยู่บ้างครับ
LIAR GAME
(LIAR GAME 2007 > LIAR GAME 2 2009 > LIAR GAME X 2010 > LIAR GAME: The Final Stage 2010)
LIAR GAME คือฮาวทูในการสร้างดราม่าจากมังงะยอดนิยม และหนึ่งในดราม่าประเภทจิตวิทยาที่สนุกที่สุดเรื่องหนึ่ง
การปริศนาเชิงจิตวิทยาที่มีหนี้สินและชีวิตของผู้เข้าร่วมเป็นเดิมพัน โปะตัวประกอบที่เปี่ยมสีสัน และคู่พระนางที่เข้ากันได้ลงตัวเข้าไป นั่นคือสิ่งที่กลายมาเป็นเรื่องย่อๆของ LIAR GAME
และสิ่งที่ดราม่าเรื่องนี้ทำออกมาได้อย่างสุดโต่งยิ่งกว่าใคร คือคุณค่าในการดูซ้ำที่คนที่ได้ดู มักจะย้อนกลับมาดูตอนเก่าๆอีกครั้งเพื่อเก็บรายละเอียดที่ตอนใหม่ล่าสุดเพิ่งบอกใบ้ไป ซึ่งก็มักจะได้ความประหลาดใจในเชิงที่ว่า "พลาดจุดนี้ไปได้ไงวะเนี่ย"
ผู้ที่ชื่นชอบดราม่าเชิงจิตวิทยาก็ดี ผู้ที่ติดตามผลงานของคู่พระนางก็ดี หรือผู้ที่หาดราม่าพลิกล็อคสนุกๆดูก็ดี ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวงครับ
8.5 คะแนนครับ
Spoil
แม้จะได้เรื่องคุณค่าในการดูหลายๆรอบ แต่องก์ประกอบบางอย่างดูขัดๆเกินๆ บางตอนดูเร่ง และบางตอนช้าอย่างไม่มีความหมาย ทำให้คะแนนไม่ได้สูงไปกว่านี้ครับ
Maou
Maou คือหนึ่งในดราม่าญี่ปุ่นที่สร้างมาจากซีรี่ส์เกาหลี ที่รีเมคได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ
การล้างแค้นและการไถ่บาปคือธีมหลักของเรื่อง ดราม่าหนักๆเรื่องนี้จะมอบข้อคิดให้คุณหลากหลายประการตามแต่มุมมองของแต่ละคน ความยอดเยี่ยมของบทจะบีบหัวใจของคุณ เพิ่มนักแสดงที่โดดเด่นเข้าไป ก็เพียงพอจะทำให้ Maou กลายเป็นดราม่าที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่ง
ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับนักเสพดราม่าสายแคชชวล แต่สายฮาร์ดคอร์รวมถึงผู้ที่ชอบดราม่ามืดๆหนักๆ ไม่ควรรีรอที่จะหามารับชมครับ
8.5 คะแนนครับ
Spoil
เรื่องนี้ถือเป็นตัวอย่างของเรื่องที่มีบทสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ แต่ปัจจัยอื่นๆอย่างดนตรีประกอบ หรือนักแสดงบางคนยังยอดเยี่ยมไม่เพียงพอจะขับกับบทให้ออกมาดียิ่งกว่านี้ได้ครับ
Mahoro Ekimae Bangaichi
ดราม่าประเภทการใช้ชีวิตแบบธรรมดาๆ ที่่ถูกขนานนามว่าเป็นดราม่าม้ามืดที่ถูกเพิกเฉยมากที่สุดเรื่องหนึ่ง
Mahoro Ekimae Bangaichi คือดราม่าการทำงานของนักแก้ปัญหา ที่เรื่อยเฉยธรรมดาสามัญมากที่สุดที่คุณจะได้เห็นในจอทีวี แต่กลับไม่ธรรมดาเพราะการตบมุกตลกแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ดันผสมกันกับสถานการณ์ซีเรียสสมจริงในเรื่องได้อย่างลงตัว จนทำให้หลายๆคนต้องกดหยุดเอาไว้เพื่อมาหัวเราะดังๆชั่วคราว
ดราม่าเรื่องนี้จึงเหมาะกับคนที่เบื่อความพิเศษกับโลกแฟนตาซีจ๋า จนอยากหาอะไรธรรมดาๆดู กับ คนที่ชื่นชอบตลกหน้าตายกับตลกจ๋าสไตล์ญี่ปุ่น รวมถึงคนที่อยากจะลิ้มลองดราม่าตลกที่ไม่ธรรมดาทุกๆคน
8.0 คะแนนครับ
Spoil
เนื่องจากมันเป็นตลกแบบญี่ปุ่น หรือตลกจ๋าหาความเรียลหรือเหตุผลไม่ได้ ทำให้หลายๆคนอาจจะไม่เก็ทมุก หรือคนที่เกลียดตลกแบบญี่ปุ่นแท้ๆไปเลย ทำให้มันอาจจะไม่เหมาะกับคนหลายๆประเภทครับ
Mondai no Aru Restaurant
ดราม่าที่มีธีมของการแบ่งแยกทางเพศที่ชัดเจนที่สุดเรื่องหนึ่ง
Mondai no Aru Restaurant คือดราม่าร้านอาหารของผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่ตกเป็นผู้ถูกกระทำเรื่องสิทธิสตรี และฉายชีวิตประจำวันรวมทั้งมิตรภาพของผู้หญิงกลุ่มนี้ออกมาได้อย่างสนุกน่าติดตาม
จึงกล่าวได้ว่า ดราม่าเรื่องนี้คือผลงานชิ้นเอกของดราม่าเกี่ยวกับสิทธิสตรีของญี่ปุ่น และเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่สนใจดราม่าเกี่ยวกับมิตรภาพ ดราม่าเกี่ยวกับการดิ้นรนต่อสู้ของเพศแม่ และดราม่าที่ทำให้คุณหิวได้ในยามค่ำคืน
8.0 คะแนนครับ
Spoil
สนุกและน่าสนใจ แต่เครื่องร้อนช้า ทั้งยังเป็นดราม่าที่เน้นเรื่องแง่คิดเป็นพิเศษ ทำให้บางประเด็นค่อนข้างเข้าใจยากกว่าเรื่องอื่นๆครับ
Yokoso Wagaya e
ดราม่าครอบครัวที่ผสานกับดราม่าประเภทระทึกขวัญได้ลงตัวเกินคาด
เมื่อครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่งถูกสตอล์คเกอร์ตามรังควาญ ซึ่งเมื่อผสมกับบุคลิกอันโดดเด่นและการแสดงที่ดีของตัวละครหลัก การดำเนินเรื่องที่เสริมความน่ากลัว ส่งผลให้ผู้รับชมลุ้นจนตัวเกร็งในบางจังหวะได้ตามความคาดหมาย
Yokoso Wagaya e จึงเหมาะกับคนที่ชอบดราม่าลุ้นระทึก ดราม่าเกี่ยวกับสตอล์คเกอร์ หรือดราม่าครอบครัว ที่จะส่งให้คุณลุ้นได้ยันตอนสุดท้าย
8.0 คะแนนครับ
Spoil
คะแนนที่หดไปจากตัวหลักตัวสำคัญตัวหนึ่งของเรื่องที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าผิดหวังทีเดียว
Bitter Blood
ดราม่านักสืบที่มีคีย์เวิร์ดคือคำว่าครอบครัว
Bitter Blood คือดราม่าสืบสวนเบาๆชวนหัวสไตล์ญี่ปุ่น ที่มีตัวร้ายโรคจิตเข้าขั้นในเชิงบวก และตัวละครประกอบที่ช่วยกันยิงมุกไม่หยุด รวมทั้งคดีต่างๆที่น่าสนใจในระดับหนึ่ง
ดราม่าเรื่องนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบดราม่าสืบสวน แต่ไม่อยากให้มันหนักจนเกินไปนัก หรือชอบดราม่าที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวที่เปลี่ยนมาโฟกัสคู่หูนักสืบแทนครับ
7.5 คะแนนครับ
Spoil
Bitter Blood คือดราม่าที่ตลก สนุก และดูได้เพลินๆ แต่ไม่มีความพิเศษใดๆที่ส่งให้คะแนนพุ่งขึ้นไปมากกว่านี้ครับ
Koinaka
ดราม่ารักสามเส้าที่เข้าเป้าตรงจุด
เรื่องราวของหนึ่งหญิง สองชาย ที่ดำเนินเรื่องตามแบบแผน ผสมกับนักแสดง ดนตรีประกอบ และบรรยากาศที่ดี ทำให้มันเป็นหนึ่งในดราม่าโรแมนซ์สไตล์ญี่ปุ่นที่ควรจะลิ้มลองดู
ดังนั้น ผู้ที่เสพติดความขมปนหวานของรักสามเส้าน่าจะเข้าถึงเรื่องราวได้ไม่ยากเย็นนัก แต่อาจจะไม่เหมาะกับนักรักแคชชวลหรือผู้ชมประเภทอื่นนัก
7.0 คะแนนครับ
Spoil
เถรตรงและจำเจ คือคำนิยามของบทในเรื่องนี้ จึงอาจจะถูกใจผู้ชมกลุ่มหนึ่งและทำให้ผู้ชมอีกกลุ่มร้องยี้ครับ
*ตั้งแต่พาร์ทหน้าเป็นต้นไป จะเปลี่ยนรูปแบบของกระทู้เป็นสองช่วง คือมินิพรีวิวของละครใหม่ที่ยังไม่จบสำหรับคนที่สนใจจะติดตาม กับรีวิวตามปกติแต่ผสมประเภทปนๆกันไป เนื่องจากละครดีๆที่น่าสนใจในหลายๆประเภทเริ่มไม่พอจะนำมาทำรีวิวแยกประเภทครับ