ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 16 Feb 2005
ตอบ: 2139
ที่อยู่: เซิร์ฟเวอร์ซอคเกอร์ซัค
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 11:02 am
ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง
รอบที่แล้วทดสอบหลายคนไม่มีใครผ่านเลยครับ เลยประกาศรับรอบ 2 คุณสมบัติสำหรับนักข่าว SS

- เข้างานช่วงทุ่มนึง
- ทำผลบอลหลังเที่ยงคืนได้
- ทำงานออนไลน์ที่บ้าน
- มีวันหยุดหนึ่งวัน
- เงินเดือน+โบนัส(งานดีรับผิดชอบ)

ถ้าสนใจแปลข่าว 3 ข่าวลงกระทู้นี้รวมถึงรายงานผลบอลแล้วผมจะเรียกมาทดสอบออนไลน์
เข้าร่วม: 24 Mar 2006
ตอบ: 9981
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 11:04 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
คนทำงานหายาก

ขอให้ได้คนเร็วๆครับ

0
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 2950
ที่อยู่: Santiago Bernabeu
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 11:17 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
น่าสนใจครับ
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1300
ที่อยู่: Talad-kao
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 11:24 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
สนใจครับ

ต้องแปลข่าวจากเว็บไหนอะไรยังไง ช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยพี่
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6898
ที่อยู่: อยู่ที่
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 11:37 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
น่าลองมากๆ ขอให้ได้คนไวๆครับพี่
0
0


Support Manchester United , Dortmund . Roma
เข้าร่วม: 24 Mar 2006
ตอบ: 9981
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 12:58 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลยนะ เรียกว่าเสือกก็ได้

แต่อยากแนะนำคนที่อยากทำจริงๆ แต่รออังกฤษเป๊ะก่อนอะไรแบบนี้
(เน้นว่าอยากทำจริงๆ ไม่ได้สนใจจริงๆก็ผ่านไปได้)

เชื่อผมเถอะ ว่าถ้าอังกฤษท่านเข้าข่ายเป๊ะเมื่อไหร่ ท่านก็จะไม่มีเวลามาทำแล้วหล่ะ

เพราะฉะนั้นถ้าท่านอยากทำจริงๆก็ลองทำซะเลย ได้ทำงานที่อยาก ได้เงิน ได้ฝึกอังกฤษที่ยังไม่เป๊ะของท่านด้วย

เพราะผมมั่นใจว่า คนที่เค้าอยากได้ไม่ใช่คนที่เป๊ะแบบอ่านปุ๊บเข้าใจหมดทุกตัวอักษร เค้าอยากได้คนช่วยเปิดดิคแปล เพราะเค้าทำเองไม่ไหวต่างหาก


ไม่ต้องถามผมนะครับ ว่าแล้วทำไมมึงไม่ทำ เพราะผมทำงานประจำอยู่แล้ว ต้องการเวลาพักผ่อนมากกกว่าเงินเพิ่มในกระเป๋าครับ


เข้าร่วม: 22 May 2011
ตอบ: 4759
ที่อยู่: ห้องพักครู
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 1:19 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ไม่เกี่ยวกับภาษาหรอก ผมว่างานนี้เอาแค่พอได้ศัพท์ง่าย ๆ รู้จักนักเตะ รู้จักทีมสโมสร ทีมชาติ เป็นอย่างดี + ใจรักก็ทำได้นะ มีเงินเดือนให้ โบนัสอีกตะหาก ได้ทำในสิ่งที่หลาย ๆ คนอยากทำแต่ไม่มีเวลา

เชื่อผมดิ ท่านแปลไปแปลมา ทำไปซักปีนึงภาษาอังกฤษจะง่ายสำหรับท่านมาก เรียกว่าพัฒนาขึ้นแบบไม่ต้องใช้สื่อช่วยแปลเลยด้วยซ้ำยกเว้นคำแสลงจริง ๆ

ก็ขอเป็นกำลังใจให้คนที่อยากทำงานนี้ครับ ผมเชื่อว่ามีแต่ได้จริง ๆ สำหรับผมอยากทำมากแต่ไม่มีเวลา ต้องขายข้าวครับ
0
0


เข้าร่วม: 06 Apr 2014
ตอบ: 700
ที่อยู่: Emirate stadiam
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 1:26 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
สนใจเหมือนกันครับ แต่อยากรู้ว่าอังกฤษต้องเทพหรือเปล่า ผมก็ไม่ได้เก่งอะไรมาก

ถ้าสนใจต้องทำไงครับ
0
0

เข้าร่วม: 29 Nov 2009
ตอบ: 1
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 1:59 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
เคราะห์ซ้ำ FA ซัด "จ่ามู"

“โจเซ่ มูรินโญ่” ถูกลงโทษจากพฤติกรรมโดยทางสมาคมฟุตบอลหรือ FA โดยสืบเนื่องจาก ภาษาและพฤติกรรมของ “จ่ามู” ในเกมที่ปะทะกับ เวตส์แฮม


“มูรินโญ่” นั้นถูกเชิญไปนั่งที่อัฒจันทร์หลังจากเข้าไปพูดกับกรรมการ “จอน มอส” ในห้องพักกรรมการ ระหว่างพักครึ่งเมื่อเกมวันเสาร์ที่ผ่านมา

ซึ่งทั้ง 2 สโมสร เชลซีและเวตส์แฮม ยังถูกลงโทษสำหรับความผิดพลาดในการควบคุมนักเตะของพวกเขา และจะมีบทลงโทษเมื่อถึงวันที่ 29 ตุลาคมนี้

เชสซีนั้นกำลังจะต้องจ่ายปรับ 25,000 ปอนด์สำหรับการได้รับใบเหลือง 5 ใบ ในเกมพรีเมียร์ อีกด้วย ซึ่งรวมถึงใบเหลือง 2 ใบที่ได้จาก “มาติช” และที่ได้จาก "อัซปิลิกวยต้า", “ฟาเบกราส”, “มิเกล”, และ “คอสต้า”

และผู้ช่วยของจ่ามู อย่าง “ลูโร่” ที่ถูกไล่จากข้างสนามในระหว่างเกม จะโดนลงโทษจากพฤติกรรมที่ข้างสนามอีกด้วย

http://www.bbc.com/sport/0/football/34635441


น้องหมู กำลังพยายามนะจ๊ะ



“เวยร์ รูนีย์” เป็นผู้นำสถิติในการทำประตูสำหรับนักเตะอังกฤษ 236 ลูก ที่ทำได้จากการลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งหาดูได้จาก ช่อง MUTV

รูนีย์ ทำประตูตามหลัง ตำนานอย่าง “เดนนิส ลอว์” เพียงประตูเดียว และ ตามหลัง 13 ประตูจาก ตำนานตลอดกาล “เซอร์บ๊อบ”
แต่เขาก็ยังทำประตูได้มากกว่า “จอร์ช เบส”, “แจ๊ค ลอรี่”, “เดนนิส ไวโอเล็ต” และ “ฟาน นิสเตอรอล”

จากฟอร์มอันตกลงของ รูนีย์ ในฤดูกาลนี้ เขารู้ตลอดว่า เขาได้พยายามอย่างหนักและพยายามเล่นในแบบของเขาจากเกมที่แย่ๆ ประสิทธิภาพของ รูนีย์ นั้นไม่ได้ถูกผลกระทบจากข้างนอกสนามหรือจากความอิ่มเอมในความประสบความสำเร็จ

ในวัย 30 ปี รูนีย์ได้ลงเป็นเกมที่ 10 แล้วให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลงเล่นมากกว่านักเตะที่ดีที่สุดบางคนที่เคยลงสนามทั้งหมดในชีวิตค้าแข้ง แต่ รูนีย์ลงเล่นได้ไม่ดีเอาสักเลยในเกมเหล่านั้น

ด้วยฟอร์มของ รูนีย์ ที่ย่ำแย่นั้น เขาไม่ควรถูกทำให้ละลายใจเลย เพราะนักฟุตบอลทุกคนต่างก็มีฟอร์มที่ย่ำแย่เหมือนกัน รวมถึง “กิ๊กส์” เองก็ด้วย

http://www.espnfcasia.com/club/manchester-united/360/blog/post/2684009/wayne-rooney-is-struggling-but-should-not-be-counted-out

”บอลมา คิดเลย !!! พระเจ้าโจ๊ก!!! “มันต้องเปลี่ยน”

ผู้จัดการทีมคนใหม่ “เจอร์เกน ค๊อป” ออกมาเรียกร้องให้ สลัดความกลัวจากเกมที่ เสมอ 1-1 กับ เซาท์แธปตัน เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา



ผู้จัดการทีมคนใหม่ “เจอร์เกน ค๊อป” ออกมาเรียกร้องให้ สลัดความกลัวจากเกมที่ เสมอ 1-1 กับ เซาท์แธปตัน เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา
สำหรับเกมแรกในพรีเมียร์ ที่สนามแอนฟิลด์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน มองหาชัยชนะนัดแรก เมื่อ “เบเตเก้” ลงสนามมาและทำประตูนำจากลูกโหม่งในนาทีที่ 71 ของเกม

แต่เจ้าถิ่นที่ดูประหม่าเมื่อเกมเปลี่ยนไปจากมือของเจ้าถิ่น ซึ่งถูกกดดันจากจุดนัดพบโดยที่ “ซาดิโน่ มาเน่” ไปโผล่ที่เสาหลังจากลูกฟรีคิก เพื่อเก็บแต้มกลับไปให้ "เดอะเซนต์" ในสามนาทีที่เหลืออยู่ของเกม

ผู้จัดการทีมคนใหม่ รับทราบอยู่ตลอดถึงปัญหานี้ แต่เขาได้กระตุ้นนักเตะของเขาเพื่อที่จะค้นหาจิตวิญญาณของนักเตะและขับไล่ความรู้สึกกลัวออกไป

“คุณหวัง ให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อลูกบอลลอยในอากาศ ผมเห็นว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นกับทีมของผมเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับทีมอื่นๆด้วย”
“คุณเห็นลูกบอลที่ลอยอยู่ในอากาศ และคุณต้องคิดว่า !!! พระเจ้า มันเป็นอะไรที่ต้องเปลี่ยนแปลงได้แล้ว”

“ผมหวังว่า ผมไม่ใช่เพียงแค่คนคนเดียวในสนามที่รู้สึกถึงว่ามันไม่ได้เป็นจุดจบของโลกนะ”
“เราสามารถทำงานพร้อมกับได้ผลแบบนี้ และเราก็สามารถทำงานพร้อมกับประสิทธิภาพเหล่านี้ของทีมได้เช่นกัน”
“ถ้าผมมีความรู้สึกว่า นักเตะเหล่านั้นไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะสู้ ดังนั้นมันก็จะเป็นข่าวร้ายสำหรับทีม แต่ทุกคนเห็นแล้วว่า ทุกคนจะเตรียมพร้อมอย่างไรและนั้นคือสิ่งสำคัญที่สุด” ค๊อปได้กล่าวไว้

http://talksport.com/football/ball-comes-and-we-think-oh-my-god-it-must-change-jurgen-klopp-calls-liverpool-address

ปล. รายงานเกม เด่วมาทำต่อครับ

จัดไป แฮตทริก..เสมอ 3นัด หงส์แดง1-1เซาท์

เกมนี้เป็นนัดแรกในแอนฟิลด์สำหรับ "จอร์เกน คล๊อป" ในเกมพรีเมียร์ ซึ่งจัดทัพ 11 คนแรก เหมือนเกมเสมอ ไก่เดือยทอง

3' เริ่มเกมหวังยิง
ไคลน์จ่ายให้ คูตี้ ยิงด้วยขวาจากหัวกะโหลกแต่ถูกบล๊อคไว้ได้ แต่ยังได้ลูกเตะมุมโดย มิลเลอร์ เปิดมาให้ ชาน ยิงจากหัวกะโหลกเหมือนเดิม แต่ลูกออกไปอย่างน่าเสียดาย

8' ลัลลาน่าลองส่อง
ลูคัสจ่ายให้ ลัลลาน่าลองยิงจากนอกกรอบ แต่ก็ยังถูกเซฟไว้ได้

11' เซาท์ได้ลุ้นจากลูกเตะมุมบ้าง
ทาดิช เปิดบอลจากลูกเตะมุม เป็นทาง ฟอนเต้ ที่ได้โอกาสขึ้นโหม่งในเขตหกหลา แต่ข้ามคานออกไป

13' เซาท์ลองยิงอีก
ทาดิช จ่ายบอลให้ เปเล่ลองยิงจากนอกกรอบ แต่ถูกบล๊อคไว้

15' โมเรโน่ขอลองบ้าง
มิลเลอร์ โยนบอลให้ทาง โมเรโน่ ซัดด้วยซ้ายข้างถนัด แต่ก็ยังโดนบล๊อค

15' คูตี้ ลองส่องไกลอีกล่ะ
คูตี้ ส่องไกล แต่บอลลอยละลิ่ว เหมือนเคย

32' พยายามบุกพยายามยิงไกล จาก กัปตันเจมส์
มิลเลอร์พยายามยิงจากนอกกรอบทั้งสองครั้ง แต่ก็ยังไม่ดีเท่าไรเลย

38' เซาท์เตะมุมได้ลุ้นอีกแล้ว
ท่าทางจะเป็นจุดอ่อนของจริงเลยสำหรับหงส์แดง โดย เดวิส เปิดลูกเตะบอลให้ แวน ดุป โหม่ง แต่ก็ยังเซฟไว้ได้ โดยน้องมินนี่

HALF TIME
ลิเวอร์พูล รีบเปลี่ยนเอา เบเตเก้ ลงมาแทน โอริกี้ วัย 19 ขวบ ที่ไม่สามารถกดดันกองหลังคู่แข่งออก เช่นเคย

48' ลงมาได้ลุ้นเลย
มิลเลอร์เปิดลูกเตะมุม เบเตเก้ ลองกระโดนวอลเลย์ในกรอบ แต่บอลถูกสกัดไว้ได้โดยกองหลังเซาท์แธปตันจากหน้าปากประตู

62' จ่ายเป็นแล้ว คูตึ้
เกมดำเนินต่อไปอย่างไม่ค่อยมีลุ้นอะไรมาก จนนาทีที่ 62 คูตี้ จ่ายทะลุช่องให้กับ ลัลลาน่า ยิงหน้ากรอบ แต่บอลหลุดออกไป

64' เซาท์เริ่มขยับเปลี่ยนตัว
พราวส์ ลงมาแทน ทาดิช

67' ลิเวอร์พูลลองหาจุดเปลี่ยน
ส่ง เฟอร์มิโน่ ลงมาแทน ลัลลาน่า ซึ่งเกมนี้ ลัลลาน่าก็ยังเล่นไม่ออกดั่งเช่นเคย

68' คูตี้ ลองอีกแล้ววววว
เหมือนเคย....... บอลลอยข้ามไปตามสไตล์

75' คูมัน แก้เกม เจอร์เกน คล๊อป
ส่งเอา ฆวนมี่ ลงมาแทน คลาสซี่ ซึ่ง คลาสซี่เริ่มจะประกบ เฟอร์มิโน่ไม่ค่อยอยู่ และต้องการความสดของ ฆวนมี่ มาแก้เกม

77' เบ็นเทนโชว์ พลังลูกโขก!!!จนได้
มิลเลอร์โยนบอลเข้าบริเวณจุดโทษ เบเตเก้ เทคตัวขึ้นโหม่งเต็มหน้าผาก บอลแรงเข้าตุงตาข่าย เรียบร้อย ลิเวอร์นำ 1-0

80' คูมัน แก้เกมอีก
ส่งเอา แกสตัน รามิเลส ลงแทน สตีเว่น เดวิส เพื่อเปิดเกมบุก

82' ออกไปนั่งก่อนแล้วกัน คูตี้
ไอบ์ ลงมาแทน คูตี้ ซึ่งเกมนี้ยังไม่สามารถดึงเอาฟอร์มเก่าๆออกมาได้

85' !!!นั้นไง จุดอ่อน!!!
โดนจนได้ ตามสเตปเลย ลูกเปิดฟรีคิก จากจังหวะที่ มิลเลอร์ไปทำฟาวล์ และได้รับใบเหลือง เซาท์แธปตัน ได้เตะลูกฟรีคิกโดย รามิเลส เปิดไปให้เพื่อนโขกให้กับ มาเน่ที่ไปโผล่อยู่หน้าปากประตู โหม่งเข้าไปในระยะเผาขนเข้าประตูไป 1-1

90'+3 ทีมเยือนเหลือ 10 ตัว
มาเน่ ได้รับใบเหลือง ใบที่สองกลายเป็นใบแดง ทำให้ เซาท์เหลือ 10ตัว ในช่วงทดเจ็บ

จบเกม เจอร์เกน คล๊อป ยังคงหาทางแก้เกมต่อไป หลังจากเสมอ 3 นัดรวด ตั้งแต่กุนซือชาวเยอรมันเข้ามารับหน้าที่ ในถิ่นแอนฟิลด์

เข้าร่วม: 20 Sep 2013
ตอบ: 1295
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 2:52 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
แปลข่าว 3 คือ? รายงานผลบอลทั้งเกมเลยเหรอครับ ?
0
0
เข้าร่วม: 12 Sep 2013
ตอบ: 118
ที่อยู่: ช่องแคบยิบรอลต้า
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 6:45 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
Lionel Messi has never been closer to leaving Barcelona, according to Sky Sports' Spanish football expert Guillem Balague.

The Sun reported last week that Chelsea, Manchester United and Manchester City have all made informal approaches to Messi's people, but Barcelona have always maintained that the Argentine will stay at the club.

However, Balague said on Revista Bitesize: "It is the closest he's ever been to leaving Barcelona. It doesn't mean he will but it is the closest he has ever been to leaving the club."
"ไม่เคยมีครั้งไหนจะใกล้เคียงกว่านี้อีกแล้ว" กลีเลม บาลัก ผู้เชี่ยวชาญบอลสเปนของ Sky Sport กล่าวถึงอนาคตของเมสซีในการย้ายออกจากคัมป์นู

สื่อชื่อดังอย่างเดอะซัน อ้างว่ามีข้อเสนออย่างไม่เป็นทางการ จากทั้งเชลซี,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในความเป็นไปได้ที่จะยื่นซื้อสตาร์ดังชาวอาเจนไตน์จากบาร์เซโลน่า โดยทางบาร์ซ่าก็ออกมาปฏิเสธทันควัน และยืนยันว่าเมสซีจะอยู่กับทีมต่อไป

อย่างไรก็ตาม บาลักกล่าวผ่านสื่อRevista Bitesize ว่า "ในความเห็นของกระพ้ม ครั้งนี้มันเป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่าครั้งไหนๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไปจริงๆนี่....เนอะ"

พอและขี้เกียจ [/i]
0
0
เข้าร่วม: 11 Feb 2011
ตอบ: 1487
ที่อยู่: Only The Fox God Knows
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 6:58 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
โอกาสมาอีกแล้ว ครั้งก่อนๆไม่ว่างแต่คราวนี้ว่างแล้ว โอ้เย้~

เดี๋ยวผมรอดูบอลคืนนี้จะได้เขียนรายงานไปด้วย ส่งทีเดียวเลย ขอลองดูหน่อย

อย่าปิดรับสมัครก่อนนะครับ 555

0
0
เข้าร่วม: 07 Aug 2009
ตอบ: 1105
ที่อยู่: กรุงเทพ
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 7:04 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
บาเยิร์นเตรียมทุ่มสุดตัวคว้า "อันแดร์สัน"

บาเยิร์น มิวนิค เตรียมที่จะทุ่มเงินมหาศาล เพื่อคว้าตัว ฟิลิเป้ อันแดร์สัน มาจากลาซิโอ เช่นเดียวกับปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สองยักษ์ใหญ่ของยุโรป ได้สนใจที่จะเซ็นสัญญากับทาง อันแดร์สัน ตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีหลังจากที่บาเยิร์นมิวนิคได้คว้า ดักลาส คอสต้า และ คิงส์ลีย์ โกมองมา ยอดทีมจากเมืองเบียร์ก็ได้ลดความสนใจลงจากอดีตดาวเตะซานโต๊ส

ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดล้มเหลวในการเจรจาคว้าตัว อันแดร์สัน แม้จะยื่นข้อเสนอระดับ 40 ล้านยูโรเข้าไปแล้วก็ตาม จากรายงานของ Calciomercato.com

แต่จากความไม่แน่นอน หลังจากที่เคลาดิโอ โลลิโต้ ได้ออกมาเชื่อเชิญให้สโมสรที่สนใจ ยื่นข้อเสนอมาได้เลยในซัมเมอร์ปีหน้า ทำให้สองยักษ์ใหญ่ได้ตื่นตัวที่จะยื่นข้อเสนอเข้าไปอีกครั้ง

ทั้งนี้ดาวโรจน์ของลาซิโอผู้นี้ พึ่งจะเซ็นสัญญาฉบับไหม่กับทีมออกไปจนถึงปี 2020 โดยมีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 80 ล้านยูโรด้วยกัน

ที่มา : http://www.tribalfootball.com/articles/bayern-munich-leave-80m-lazio-star-anderson-to-man-utd-4101716


0
0
เข้าร่วม: 07 Aug 2009
ตอบ: 1105
ที่อยู่: กรุงเทพ
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 8:04 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ผีอีกแล้ว!! โกล์ดาวโรจน์มิลานพร้อมปฏิเสธข้อเสนอปีศาจแดง

หลังจากที่จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่าพึ่งทุบสถิติเป็นนายทวารอายุน้อยที่สุดทีลงเล่นในกัลโช่ ซีรีส์อาในเกมที่ชนะซาสซูอาโร่ 2-1 ทำให้เขาเป็นที่จับตามองจากหลาย ๆ ทีมในยุโรป

และจากรายงานของ Calciomercato ว่านายทวารดาวโรจน์ของเอซีมิลาน ที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นจิอันลุยจิ บุฟฟ่อนคนถัดไป ก็มีรายงานว่าได้รับการจับตามองจากปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แต่ไม่ทันไรดอนนารุมม่าก็ออกมาบอกว่ามีความสุขสุด ๆ โดยพร้อมจะปฏิเสธทุกข้อเสนอที่จะมีเข้ามาแน่นอน และจะปักหลักอยู่กับเอซี มิลานต่อไปแน่นอน

ทั้งนี้ดอนนารุมม่า พึ่งจะถูกซินิซ่า มิไฮโลวิชเฮดโค้ชชาวเซอร์เบียของมิลานส่งลงเปนตัวจริงในเกมพบกับซาสซูโอโล่ แทนที่จอมเซฟมือหนึ่งของทีมอย่างดิเอโก้ โลเปซ อดีตนายทวารรีล มาดริด

ที่มา : http://www.express.co.uk/sport/football/614876/Man-United-Chelsea-rejected-Serie-A-record-breaker-MUFC-News-CFC-News-transfers
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2015
ตอบ: 304
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 8:18 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]

“เนื้อหอม” ไก่​ หงส์ หวังเซ็น “วาดี้”

แหล่งข่าว ESPN FC. รายงานว่า สโมสรลิเวอร์พูล และ สเปอร์ สองทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ได้ให้ความสนใจและเฝ้ามองฟอร์มของ จิมมี่ วาดี้ ของทีมเลสเตอร์​ซิตี้ อย่างใกล้ชิด

วาดี้ อดีตดาวเตะทีมนอกลีคของอังกฤษ ได้กลายเป็นดาวดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีคในซีซันนี้ จากการที่สามารถยิงประตูได้ถึง 10 ประตู ขึ้นเป็นดาวยิงสูงสุดของลีค และเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในทีมชาติอังกฤษในเวลานี้

วาดี้ซึ่งเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่โชว์ฟอร์มอย่างยอดเยี่ยมช่วยให้ทีมจิ้งจองสยามรอดพ้นการตกชั้นในฤดูกาลที่แล้วและยังพัฒนาฟอร์มการเล่นอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลานี้ จึงทำให้ตกเป็นที่สนใจของทั้งลิเวอร์พูลและสเปอร์ที่กำลังต้องการซื้อกองหน้ามาแทนที่ในตลาดนักเตะมกราคมนี้

วาดี้ นอกจากจะเป็นกองหน้าที่สามารถทำประดูได้แล้ว ยังมีทั้งพละกำลังและความขยัน ซึ่งคงจะเหมาะกับแนวทางการเล่นของหงส์แดงยุคของเจอร์เก้น คลอปป์ ที่เน้นการเล่นเพลสซิ่ง ดุดัน ในขณะที่โปเช็ตติโน่ กุนซือใหญ่ไก่เดือยทอง มองว่า ความเสียสละและความคิดสร้างสรรค์ของ วาดี้ จะจับคู่กับแฮรี่ เคน กลายเป็นคู่หัวหอกที่สมบูรณ์แบบ

สำหรับทีมจิ้งจอกสยามเชื่อว่าพวกเขาสามารถรั้งวาดี้ให้อยู่กับทีมต่อไปได้เนื่องจากนักเตะยังมีสัญญาในถิ่น คิงพาวเวอร์ เหลืออีกถึงสามปี หลังจากต่อสัญญาฉบับใหม่ไปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
http://www.espn.co.uk/football/leicester-city/story/2681068/liverpool-tottenham-considering-jamie-vardy-move-sources


ซาราเต้เผย “เป้าหมายคือท็อปโฟว์ไม่ใช่แชมป์”

มาอูโร ซาราเต้ ศูนย์หน้าทีมชาติอาเจนติน่าของทีมขุนค้อน เวสแฮม ยูไนเต็ด ผู้ยิงประตูแรกให้กับทีมในเกมส์เปิดบ้านเอาชนะทีมเชลชี 2-1 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดเผยว่าพวกเขามองเป้าหมายไว้ที่จบในสี่อันดับแรกและโควต้า UCL เป็นเป้าหมายหลัก

“เราไม่ฝันว่าจะต้องได้แชมป์ลีคเลยนะ ,เราต้องอยู่กับความเป็นจริง , เราต้องการที่จะไปเล่นแชมป์เปียนส์ลีคด้วยอันดับที่สูงที่สุดบนตารางเท่าที่เราสามารถทำได้”

“ตอนนี้เราอยู่ในอันดับที่สาม และเราจะต้องจบฤดูกาลอยู่ในสี่อันดับแรก​ แต่นั้นก็เป็นงานที่ยากมาก ๆ​“

นอกจากนี้เขายิ่งได้กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการ์ในทีมว่า “ตอนนี้ทุกคนในทีมตื่นเต้นมาก และแฟนบอลของเราเหมือนจะเริ่มคลั่ง พวกเราเลนฟุตบอลได้อย่างยอดเยี่ยมและคาดหวังว่าเราจะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นอย่างนี้ได้ต่อไป”

สำหรับทีมขุนค้อนเวสแฮมป์ ยูไนเต็ด ในยุคของสลาเวน บิลิค ได้สร้างเซอร์ไพรส์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการที่สามารถก้าวสู่อันดับที่สามของตารางคะแนนตามหลังทีมจ่าฝูงอย่างแมนซิตี้เพียงสองแต้ม และยังสามารถเอาชนะทีมใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีค ไม่ว่าจะเป็น อาเซนอล ลิเวอร์พูล แมนซิตี้ และเชลชี ทำให้แฟนบอลคาดหวังความสำเร็จในฤดูกาลไว้สูงมาก
http://www.espn.co.uk/football/west-ham-united/story/2684310/west-ham-eye-premier-league-top-four-finish-mauro-zarate


พวกเขาเรียกผมว่า​“ไมค์”

คริส สมอลลิ่ง คือชื่อที่เขาใช้สำหรับลงทะเบียนเล่นให้กับสโมสรแมนยูในฤดูกาลนี้ แต่นั้นไม่ได้ทำให้แฟนบอลแมนยูหยุดเรียกเขาด้วยชื่ออื่นที่มันแปลกออกไปนิดหน่อยสำหรับความรู้สึกของกองหลังรายนี้

สมอลลิ่งมักจะถูกแฟนบอลเรียกชื่อหยอกล้อว่า “ไมค์” ตั้งแต่ หลุย ฟาลเกา ลืมชื่อจริงของเขา(คริส)ในระหว่างการให้สัมพาษณ์ในช่วงทั่วพรีซีซั่นในอเมริกาเมื่อช่วงต้นซัมเมอร์ที่ผ่านมา

กุนซือชาวดัช ได้ให้สัมพาษณ์ว่า “สำหรับกัปตันทีมคนแรกคือ เวน รูนี่ , คนที่สอง คือ ไมเคิล คาร์ริค และ กัปตันทีมคนที่สามคือคุณ ไมค์ สมอล์ลิ่ง​, ขอโทษที ผมหมายถึง คริส สมอล์ลิ่ง”

เมื่อปราการหลังทีมชาติอังกฤษวัย 25 ปี กลายเป็นกำลังสำคัญของ ฟานกัล ในฤดูกาลนี้ แข้งทีมชาติอังกฤษรู้สึกว่าเขาคงจะกำจัดชื่อเล่นใหม่ของเขานี้ไม่ได้ง่าย ๆ

“เพื่อนนักเตะก็ไม่ได้เรียกผมว่าไมค์นะ แต่แฟนบอลส่วนใหญ่เขาเรียกแบบนั้น”
“แม้แต่ตอนผมไปรัสเซีย หรือไปที่ไหน มันก็ยังเป็นชื่อ ไมค์! ไมค์! ไมค์!”
“มันคงจะติดตัวผมไปตลอด, ไอ้ชื่อนี้” ไมค์​ให้สัมพาษณ์กลับนักข่าว

http://www.goal.com/en/news/13712/extra-time/2015/10/27/16729802/smalling-man-united-fans-call-me-mike?ICID=HP_BN_2
0
0
เข้าร่วม: 07 Aug 2009
ตอบ: 1105
ที่อยู่: กรุงเทพ
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 8:30 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
สิงห์บลูพร้อมเทงบคว้ากองหน้าโบคาจูเนียร์

เชลซีเตรียมขยับเข้าตลาดหน้าหนาวแล้ว โดยเล็งไปที่ศูนย์หน้าอาร์เจนติน่า ของโบคาจูเนียร์ โจนาธาน คาเลียรี่ ตามรายงานของสื่อบ้านเกิด

โดยศูนย์หน้าวัย 22 กะรัตผู้นี้ลงเล่นให้กับโบคาจูเนียร์ ยักษ์ใหญ่แห่งลีกอาร์เจนติน่าผู้นี้มาปีกว่าแล้ว มีสถิติที่ไม่เลวเลยด้วยการกระทุ้งไปแล้ว 20 ประตู และยังส่งให้เพื่อนทำประตูอีก 11 ลูก ซึ่งถือว่าตรงสเปคกับที่มูรินโญ่งอยากได้พอดี

หลังจากที่เชลซีไม่ประสบความสำเร็จกับการยืมตัวมาของ ราดาเมล ฟัลเกา ที่ไม่สามารถจะผลิตสกอร์ได้อย่างน่าพอใจ ทำให้เชลซีต้องการกองหน้าที่จะไว้ใจได้มาช่วยผลิตสกอร์ให้ทีมดังของเกาะอังกฤษ

อย่างไรก็ตามเชลซียังมีคู่แข่งแย่งตัวดาวเตะวัย 22 กะรัตผู้นี้ด้วย โดยมีทั้งอาร์เซน่อล และอินเตอร์ มิลานให้ความสนใจอยู่เช่นกัน

ที่มา : http://talksport.com/football/chelsea-plotting-january-move-boca-juniors-striker-boost-ailing-attack-151023171690
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 4976
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 27, 2015 9:21 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
อยากทำนานละ แต่งานก้อกลัวงานติดต่อมา แล้วทำพี่เสียเวลา
ให้ผมทำวันละข่าวสองข่าวได้ไหม ตังค์ไม่เอา ถือว่าลับบฝีมือ
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1300
ที่อยู่: Talad-kao
โพสเมื่อ: Wed Oct 28, 2015 12:32 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
เหมือนเคย!! คล็อปเผย สเตอริดจ์จะพลาดเกมฉะบอร์นมัธ



สเตอริดจ์ยังคงมีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าหลงเหลืออยู่ นั่นหมายความว่าเขายังคงต้องนับวันรอลงเล่นนัดแรกภายใต้การคุมทีมของคล็อปต่อไป

ล่าสุดเจเก้นคล็อปป์ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนเกมว่า

''ก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติม สเตอริดจ์ดูสมบูรณ์ขึ้น แต่ก็ยังไม่พร้อมสำหรับเกมกลางสัปดาห์''

''สเตอริดจ์กำลังทำงานอย่างหนัก''

''เรายังไม่ยืนยันว่าเขาจะกลับมาฟิตสมบูรณ์ในเกมกับเชลซีวันเสาร์นี้''

คล็อปป์ยังเผยอีกว่าเขาจะปรับเปลี่ยนบางจุดในเกมลีกคัพ เนื่องจากใบแดงของเจมส์ มิลเนอร์ แต่ก็ไม่คิดจะมองข้ามเกมกลางสัปดาห์ที่จะถึง โดยแย้มว่า


''ตอนนี้มันถือเป็นเกมลีกคัพที่สำคัญที่สุดในโลก เพราะเราต้องลงแข่งในนัดต่อไป''

http://www.skysports.com/football/news/11669/10045473/daniel-sturridge-out-of-liverpools-league-cup-tie-against-bournemouth
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1324
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 28, 2015 6:55 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ModLook พิมพ์ว่า:
Lionel Messi has never been closer to leaving Barcelona, according to Sky Sports' Spanish football expert Guillem Balague.

The Sun reported last week that Chelsea, Manchester United and Manchester City have all made informal approaches to Messi's people, but Barcelona have always maintained that the Argentine will stay at the club.

However, Balague said on Revista Bitesize: "It is the closest he's ever been to leaving Barcelona. It doesn't mean he will but it is the closest he has ever been to leaving the club."
"ไม่เคยมีครั้งไหนจะใกล้เคียงกว่านี้อีกแล้ว" กลีเลม บาลัก ผู้เชี่ยวชาญบอลสเปนของ Sky Sport กล่าวถึงอนาคตของเมสซีในการย้ายออกจากคัมป์นู

สื่อชื่อดังอย่างเดอะซัน อ้างว่ามีข้อเสนออย่างไม่เป็นทางการ จากทั้งเชลซี,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในความเป็นไปได้ที่จะยื่นซื้อสตาร์ดังชาวอาเจนไตน์จากบาร์เซโลน่า โดยทางบาร์ซ่าก็ออกมาปฏิเสธทันควัน และยืนยันว่าเมสซีจะอยู่กับทีมต่อไป

อย่างไรก็ตาม บาลักกล่าวผ่านสื่อRevista Bitesize ว่า "ในความเห็นของกระพ้ม ครั้งนี้มันเป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่าครั้งไหนๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไปจริงๆนี่....เนอะ"

พอและขี้เกียจ [/i]  


หัวข่าวท่านผิดมหันต์เลยนะนั่น
0
0
เข้าร่วม: 11 Feb 2011
ตอบ: 1487
ที่อยู่: Only The Fox God Knows
โพสเมื่อ: Wed Oct 28, 2015 2:22 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
สมัครเป็นนักข่าวครับ รับพิจารณาด้วยนะครับ


ข่าวที่ 1
Spoil
ใบแดงวิเศษโดนแล้วหายเจ็บ?! แข้งลีกเดอซ์ลุกจากเปลไฝว้เพื่อนร่วมทีม



ศึกฟุตบอลลีกเดอซ์คู่คืนวันศุกร์ระหว่างแบรสต์กับวาล็องเซียนส์ มีเรื่องให้พูดถึงมากกว่าผลการแข่งขันซะแล้ว เมื่อซาลิอู ซิสส์ แบ็คซ้ายทีมเยือนลุกจากเปลปฐมพยาบาลไปมีเรื่องกับเพื่อนร่วมทีมหลังจากผู้ตัดสินควักใบแดงไล่เขาออกจากสนาม

ดาวเตะชาวเซเนกัลวัย 26 ปี ทำเรื่องให้เสียประวัติตัวเองจนได้ หลังเพิ่งจะพ้นโทษแบนกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้งให้กับวาล็องเซียนส์ต้นสังกัดเมื่อเกมคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในนาทีที่ 72 หลังจากที่เขาเข้าบอลหนักกับวิลเลียม เซ ผู้เล่นของแบรสต์ จนต้องลงเปลไปทั้งคู่

ผู้ตัดสินดูอาการทั้งคู่แล้วควักใบเหลืองที่สองให้กับซาลิอู ซิสส์ ทันที เพราะมองว่าเป็นการเข้าบอลหนักเกินไป ทำให้เจ้าตัวไม่พอใจอย่างมากจนลุกออกจากเปลที่ทีมแพทย์กำลังปฐมพยาบาลอยู่ออกมาโวยวายทันที

เดือดร้อนเพื่อนร่วมทีมที่ต้องมาคอยห้ามให้เจ้าตัวสงบสติอารมณ์ จนสุุดท้ายเจ้าตัวหันไปมีเรื่องกับ เอลาช เอ็นซ่า-ยามมิสซี่ เพื่อนร่วมทีมแทนทำให้วุ่นวายกันยกใหญ่ ก่อนสุดท้ายเขาจะยอมออกจากสนามไป

ยังดีที่จบเกมวาล็องเซียนส์ที่เหลือ 10 คนสามารถเอาชนะไปได้ 1-2 ประตู แต่ไม่รู้ว่าดาวเตะชาวเซเนกัลจะโดนโทษแบนเพิ่มหรือไม่จากเหตุการณ์ในครั้งนี้

คลิปเหตุการณ์



ที่มา
http://bleacherreport.com/articles/2582845-saliou-ciss-flips-stretcher-fights-team-mates-after-valenciennes-red-card  


**********************************************************

ข่าวที่ 2
Spoil
ผู้ท้าชิงครบ! อินฟานติโน่-ซัลมาน ตัวเต็งเก้าอี้ประธานฟีฟ่า

หลังจากที่หมดเดดไลน์การยื่นใบสมัครเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ในที่สุดก็ได้รายชื่อผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวเรือใหญ่ฟีฟ่าครบแล้วทั้งสิ้น 8 คนด้วยกัน

ในจำนวนนี้เป็นที่คาดการณ์กันว่ามีเพียง 3 คนเท่านั้นที่เป็นตัวเต็งที่จะชนะในการเลือกตั้งตำแหน่งประธานฟีฟ่าที่จะมีกำหนดเลือกในปีหน้า

โดย 3 ตัวเต็งที่ว่าประกอบไปด้วย รายแรกชีค ซัลมาน อัล คาลิฟา ประธานเอเอฟซี ชาวบาเรน คนที่สองคือจานนี่ อินฟานติโน่ เลขาธิการทั่วไปยูฟ่า ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนคนสุดท้ายคือโตเกียว เซ็กเวล นักการเมืองชาวแอฟริกาใต้

ถึงแม้เซ็กเวล และ ชีค ซัลมาน ที่ยังมีข้อพิพาทเกี่ยวกับการร้องเรียนจากกกลุ่มสิทธิมนุษยชนนั้น จะได้ยื่นใบสมัครมาก่อนเวลาเดดไลน์ในคืนวันจันทร์ แต่อินฟานตินโน่เป็นตัวเต็งคนสำคัญคนสุดท้ายที่ยื่นใบสมัครในวินาทีสุดท้าย โดยอินฟานตินโน่ได้รับมติเป็นเอกฉันท์จากการประชุมกันของคณะกรรมการบริหารยูฟ่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ยูฟ่าประกาศไม่หนุนหลังมิเชล พลาตินี่ แล้วเนื่องจากความไม่แน่นอนที่เขาโดนแบนจากฟีฟ่า 90 วัน

การเลือกตั้งตำแหน่งประธานฟีฟ่าจะมีขึ้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2016 ที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

รายชื่อผู้สมัครที่เหลือ
- มิเชล พลาตินี่ ประธานยูฟ่า
- เจ้าชาย อาลี บิน ฮุสเซน นายกสมาคมฟุตบอลจอร์แดน
- เชอโรม แชมเปญ อดีตรองเลขาธิการฟีฟ่า
- มุซ่า บิลิตี้ นายกสมาคมฟุตบอลไลบีเรีย
- เดวิด นาคิด อดีตกัปตันทีมชาติทรินิแดดแอนด์โตแบโก




ที่มา : http://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-3290640/Gianni-Infantino-heavyweight-entry-FIFA-president-race-FA-time-Eva-Carneiro-Calum-Chambers-Arsenal-transfer.html  



**********************************************************

ข่าวที่ 3
Spoil
หาตัวให้เจอ! รูปปั้นดังเสียหายส่อแววฝีมือแฟนสิงห์



จากเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ที่ “ขุนค้อน” เวสต์แฮมเปิดบ้านเอาชนะ “สิงห์ไฮโซ” เชลซีไปได้ 2-1 ไปเมื่อวันเสาร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น หลังเกมในโลกโซเชี่ยลได้มีการแชร์ภาพภาพหนึ่งที่มีผลต่อความรู้สึกแฟนบอลเวสต์แฮมและทีมชาติอังกฤษเป็นอย่างมาก ภาพที่ว่าเป็นภาพรูปปั้นฮีโร่ทีมชาติอังกฤษชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 ที่ถูกทำให้เสียหายคนมือบอน

รูปปั้นฮีโร่ฟุตบอลโลกที่ตั้งอยู่ใกล้ๆบริเวณสนามโบลิน กราวน์ ซึ่งเป็นสนามเหย้าของทีมขุนค้อน ถูกทำให้หมองด้วยการที่เต็มไปด้วยขยะต่างๆ และที่สำคัญมีของเหลวสีฟ้าเทกระจาดอยู่ที่ฐานของรูปปั้นอีกด้วย

ด้านโฆษกสภาเทศบาลนิวแฮมได้ออกมาเผยว่า "เราเพิ่งจะรู้เรื่องตอนเย็นวันอาทิตย์นี่เอง ว่ามีสีอยู่ที่ฐานของรูปปั้น และเราได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปทำความสะอาดไปทันที"

"สีมีประมาณหนึ่งลิตรอยู่ฐานด้านท้าย เราใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงทำความสะอาดประมาณ 45 นาที"

ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าใครเป็นคนทำ หรือเป็นแฟนบอลทีมใด แต่เฟสบุ๊คของสโมสรเวสต์แฮมได้โพสต์รูปรูปปั้นที่เสียหายพร้อมข้อความ

"ไม่ชัวร์ 100% ว่าเป็นแฟนบอลเชลซีเป็นคนทำ มีคนพูดกันว่าใช่ แต่ไม่ว่าใครจะเป็นคนทำมันเลวมาก และมันควรละอายใจด้วย!!! หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะหาตัวคนทำได้... No respect ‪#‎COYI‬"

รูปปั้นนี้มีชื่อว่า “The World Cup Sculpture “ หรือเรียกอีกอย่างว่า “The Champions “ ประกอบไปด้วยหุ่นของบ๊อบบี้ มัวร์ , เจฟฟ์ เฮิร์สต์ , มาร์ติน ปีเตอร์ส และ เรย์ วิลสัน ในท่าที่พวกเขากำลังชูถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1,966 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพ เพื่อฉลองอย่างยินดี










ที่มา : http://metro.co.uk/2015/10/26/statue-of-englands-1966-world-cup-heroes-defaced-on-day-of-premier-league-clash-between-west-ham-and-chelsea-5462956/

 


**********************************************************

รายงานผลบอล
Spoil
คลอปป์สม่ำ”เสมอ”! มาเน่ซัดท้ายเกม นักบุญบุกเจ๊าหงส์ 1-1



แม้จะเป็นการคุมทีมในเกมพรีเมียร์ลีกในแอนฟีลด์ครั้งแรกของเยอร์เก้น คล็อปป์ แต่พลพรรค "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังควานหาชัยชนะแรกให้นายใหญ่ชาวเยอรมันไม่สำเร็จ หลังจากเปิดบ้านทำได้เพียงเสมอกับ “นักบุญ” เซาท์แฮมป์ตัน ไป 1-1

4' หงส์ทักทายก่อน คูตี้ยิงติด,ชานหลุดกรอบ
ช่วงเริ่มเกมเป็นลิเวอร์พูลที่ครองบอลกดดันได้มากกว่า และเป็นจังหวะที่ไคลน์ได้ลุยขึ้นมาทางด้านขวาก่อนจ่ายเข้ากลางให้ให้คูตินโญ่แตะบอลหนึ่งจังหวะเข้าเขตโทษแต่ยิงไปติดซัวเรสที่ตามมาบล็อคได้ทัน และจากจังหวะต่อเนื่องเป็นลูกเตะมุมที่มิลเนอร์เปิดมาที่เสาร์แรก เป็นชานที่โฉบมาแปท่ายาก บอลเปลี่ยนทางหลุดกรอบออกไปนิดเดียว หงส์แดงยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ

8' ลัลลาน่าส่องไกลเบาหวิว
จากจังหวะครองเกมบุกของลิเวอร์พูล ลูคัสจ่ายให้ลัลลาน่าที่อยู่หน้ากรอบเขตโทษเลี้ยงวน 1 รอบ ก่อนได้ซัดด้วยซ้ายบอลเลียดพื้นไม่มีน้ำหนัก ทำให้สเตเคเลนเบิร์กรับเข้าซองสบาย

20' ซาโก้แจกส้ม เดวิสยิงเบา
จากจังหวะที่เบอร์ทรานด์หลุดถึงเส้นหลังฝั่งซ้ายแล้วครอสเข้ากลาง เป็นซาโก้ที่หวังโหม่งสะกัดแต่บอลโดนไม่ดีไปเข้าทางเดวิสที่อยู่บริเวณจุดโทษ แต่ยังดีที่เดวิสต้องรีบยิงเพราะมีกองหลังลิเวอร์พูลเข้ามาขวาง ทำให้ยิงไม่เต็มบอลกลิ้งเบาเข้ามือมิโญเลต์

24' คูตี้กดสูตรไม่ติด ปั่นข้ามคาน
โอกาสปั่นนอกกรอบลูกถนัดครั้งแรกของคูตินโญ่มาถึงจนได้ จากจังหวะที่ลิเวอร์พูลได้ลูกทุ่มทางฝั่งซ้ายเป็นคูตินโญ่เล่นชิ่งกับโมเรโน่ ก่อนที่คูตี้จะได้ช่องยิงไกลลูกถนัด แต่บอลข้ามคานออกไปไกล

30' มิลเนอร์ซัดหลุดเสา
โอกาสของลิเวอร์พูลยังมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมิลเนอร์ได้บอลทางฝั่งซ้ายก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางทำชิ่งกับลัลลาน่าแล้วแตะบอลหนีกองหลังด้วยซ้ายก่อนซัดด้วยขวาบอลหลุดกรอบออกไปตามเคย

38' ฟาน ไดค์ขวิดโล่งๆ หนูมินบินปัด
โอกาสทำประตูของเซาท์แธมป์ตันในครึ่งแรกมีน้อยเหลือเกิน แต่จังหวะนี้ทีมนักบุญน่าได้ประตูเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขาได้ลูกตั้งเตะบริเวณกลางสนามเดวิสตักเข้ามาทางเสาไกลให้ฟาน ไดค์ที่หลุดตัวประกบได้เทคขึ้นโหม่งแบบโล่งๆ บอลตกพื้นจะเข้าประตูอยู่แล้วแต่เป็นมิโญเลต์บินปัดช่วยชีวิตหงส์แดงได้ทัน

41' โมเรโน่เต็มข้อ! นกตายเพียบ
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกทั้งสองทีมเปิดเกมเร็วแลกกันอย่างดุเดือด และเป็นโอกาสอีกครั้งของลิเวอร์พูลเมื่อไคลน์ขึ้นเกมมาตรงกลางสนามตบบอลเข้าหน้าเขตโทษให้ลัลลาน่าพลิกบอลได้แต่ไม่มีจังหวะยิงก่อนจ่ายบอลตัดหลังกองหลังเซาท์แธมป์ตันให้โมเรโน่ที่วิ่งโอเวอร์แลปขึ้นมาทางกราบซ้ายซัดตูมเดียวแต่บอลข้ามคานไม่ได้ลุ้น

HALF TIME
จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0

46' คลอปป์แก้เกมเร็ว ส่งบิ๊กเบนลงต้นครึ่งหลัง
คล็อปป์ไม่รอช้าตัดสินใจส่งเบนเทเก้ลงตั้งแต่นาทีแรกของครึ่งหลัง โดยเป็นการส่งลงมาแทนโอริกี้ที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันในครึ่งแรก

47' เบนเทเก้วูบวาบทันใด
ได้ลงมาไม่นานก็ดูเข้าท่าทันทีสำหรับเบนเทเก้ จากจังหวะที่เขาพักบอกกลางอากาศลงมาให้ลัลลาน่าแล้ววิ่งทำทางไปริมกรอบเขตโทษก่อนที่ลัลลาน่าจะแทงบอลกลับมาให้เขาหลุดมาทางด้านซ้ายแต่เบนเทเก้ไม่มีมุมยิงจึงตัดสินใจตบกลับเข้ากลางแต่ติดกองหลังนักบุญออกหลังไป

48' เบนเทเก้ได้วอลเลย์
โอกาสแรกในครึ่งหลังเป็นของลิเวอร์พูลจากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา มิลเนอร์เปิดเข้ามากลางประตู เบนเทเก้ที่ถึงบอลก่อนเอี้ยวตัววอลลเลย์แต่บอลไปติดบล็อคของผู้เล่นเซาท์แฮมป์ตันก่อนกระดอนไปเข้ากรอบแต่บอลเบาเกินไป เป็นเดวิสที่ยืนคุมเสาเคลียร์ออกหลังไปได้

56' โมเรโน่กึ่งยิงกึ่งผ่าน
ยังคงเป็นลิเวอร์พูลที่ยังมีโอกาสหวาดเสียวเรื่อยๆ คราวนี้เป็นจังหวะที่ลัลลาน่าหลุดมาด้านขวาก่อนเปิดตัดหลังเข้าเขตโทษ บอลเลยไปถึงฝั่งซ้ายเป็นโมเรโน่ถึงบอลก่อนฝากบอลให้ชานตอกส้นสวยให้โมเรโน่หลุดถึงเส้นหลังก่อนที่เจ้าตัวตัดสินใจไม่ดีเปิดยัดแรงผ่านหน้าปากประตูออกไป ลัลลาน่าได้แต่ทำหน้าเซ็ง

57' เปลเล่โหม่งวืด
เซาท์แฮมตันได้โอกาสตอบโต้บ้างเล็กๆ เมื่อทาดิชได้บอลทางด้านขวาก่อนแทงให้ซัวเรสที่เติมมาถึงเส้นหลังตบบอลเข้าหน้าประตูให้เปลเล่ที่รอโหม่งอยู่ แต่เปลเล่ทำได้แค่โหม่งโดนถากๆเพราะมีไคลน์ยืนค้ำขวางอยู่

63' ลัลลาน่าจิ้มหลุดกรอบ
จากจังหวะที่คูตินโญ่ลงไปล้วงบอลกลางสนาม ตาไวเห็นลัลลาน่าวิ่งสอดเข้าไปในเขตโทษจึงตักบอลให้ทันที ลัลลาน่าเอาบอลลงด้วยขวาแต่มีเบอร์ทรานด์ตามประกบติดเลยได้แต่จิ้มบอลเร็วด้วยซ้าย บอลหลุดกรอบออกไป

68' คูตินโญ่ซัดเหิรไกล
ยังคงเป็นโอกาสของลิเวอร์พูลอีกครั้ง เมื่อมิลเนอร์ตัลบอลได้กลางสนามก่อนจ่ายให้คูตินโญ่เลี้ยงบอลหนีตัวประกบก่อนได้จังหวะซัดไกลนอกกรอบ บอลข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น

77' เบนเทเก้โขกงาม หงส์นำ 1-0
หลังจากพยายามอยู่นาน ลิเวอร์พูลก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเมื่อมิลเนอร์ได้บอลทางด้านกราบขวาบรรจงครอสเข้าเขตโทษให้เบนเทเก้ที่โดดเอาชนะฟอนเต้ได้ก่อนขวิดเต็มแรงบอลพุ่งเข้าสามเหลี่ยมหมดสิทธิ์สำหรับสเตเคเลนเบิร์ก หงส์แดงขึ้นนำ 1-0



81' มาเน่ยิงมุมแคบ
หลังจากโดนนำเซาท์แฮมป์ตันเริ่มเปิดเกมรุกมาขึ้นและมาได้จังหวะยิงจากมาเน่ที่รับบอลเปิดยาวของซัวเรสจากแดนตัวเองเข้ามาในเขตโทษของลิเวอร์พูลแต่มุมที่จะยิงมีน้อยเหลือเกินเลยจัดการซัดตูมเดียวบอลลอยข้ามคานไปไกลไม่ได้ลุ้น

86' มาเน่ซัดจ่อๆ นักบุญตีเสมอ 1-1
ความพยายามของเซาท์แฮมป์ตันมาประสบผมสำเร็จจนได้เมื่อพวกเขาได้ลูกตั้งเตะทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่ วอร์ด-เพราส์จัดการเปิดเข้าไปในเขตโทษบอลแฉลบโด่งมาถึงรามิเรซที่อยู่เสาสองโหม่งคืนกลับไปหน้าประตูให้มาเน่ชาร์จจ่อๆเข้าไปไม่เหลือ จะทดเวลาอยู่แล้วแต่หงส์แดงรักษาสกอร์ไม่ได้โดนนักบุญตามเจ๊า 1-1


90+3' นักบุญเหลือ 10 คน
เซาท์แฮมป์ตันต้องเหลือ 10 คนเมื่อมาเน่เข้าบอลช้าเหยียบใส่โมเรโน่ กรรมการไม่รอช้าควักใบเหลืองให้ทันที เป็นใบเหลืองที่สองของมาเน่ ทำให้นักบุญเหลือ 10 คน

FULL TIME
จบเกมลิเวอร์พูลเปิดบ้านเสมอเซาท์แฮมป์ตันไป 1-1 ซึ่งทำให้เป็นการเสมอ 5 นัดติดต่อกันในทุกรายการของทีมหงส์แดง และเป็นการเสมอ 3 นัดติดภายใต้การคุมทีมของเยอร์เก้น คลอปป์อีกด้วย ลิเวอร์พูลเก็บเพิ่ม 1 คะแนน ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 9 ตามหลังเซาท์แฮมป์ตันที่อยู่อันดับ 8 ทั้งสองทีมมี 14 คะแนนเท่ากัน


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล 4-5-1
ซิมง มิโญเล่ต์ , นาธาเนี่ยล ไคลน์ , มามาดู ซาโก้ , อัลเบร์โต้ โมเรโน่ , มาร์ติน สเคอร์เทล , เจมส์ มิลเนอร์(C), ฟิลิปเป้ คูตินโญ่(จอร์ดอน ไอบ์ 83') , อดัม ลัลลาน่า(โรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่ 67') , ลูคัส เลว่า , เอ็มเร่ ชาน , ดิว็อค โอริกี้(คริสเตียน เบนเทเก้ 46')

เซาท์แฮมป์ตัน 4-3-3
มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก , เซดริค ซัวเรส , โฆเซ่ ฟอนเต้(C) , เวอร์กิล ฟาน ไดค์ , ไรอัน เบอร์ทรานด์ , จอร์ดี้ คลาซี่(ฆวนมี 75') , สตีเฟ่น เดวิส(กาสตอน รามิเรซ 80') , วิคเตอร์ วานยาม่า , ซาดิโอ มาเน่ , ดูซาน ทาดิช(เจมส์ วอร์ด-เพราส์ 64') , กราเซียโน่ เปลเล่

















 
เข้าร่วม: 07 Aug 2009
ตอบ: 1105
ที่อยู่: กรุงเทพ
โพสเมื่อ: Wed Oct 28, 2015 10:07 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ยิงกันถ้วนหน้า!!! PSG ถล่มแซงค์ เอเตียนยับ 4-1



5' ดิ มาเรียเปิดลุ้น 2 จังหวะซ้อน
เริ่มต้นเกมขึ้นมา PSG ก็บุกใส่เลย และจากจังหวะนี้ ดิ มาเรียได้เปิดจากทางขวาเข้าไปกดดัน แซงค์ เอเตียน แต่โดนกองหลังโหม่งออกไป และจากเตะมุมนี้เอง ดิ มาเรียได้เปิดเข้าไป เป็นธิอาโก้ มอตต้าได้โหม่ง หลุดเสาสองออกไปแบบได้ลุ้น

10' ซิลวาวางยาวไปได้ลุ้น
ธิอาโก้ ซิวากองหลังแซมบ้ากัปตันทีมได้วางยาวจากหลังไปหน้า ให้ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่วิ่งทะลุกัปดักล้ำหน้าไป แต่กองหน้าสวีดิช ดันจับบอลพลาดเฉย เลยทำให้บอลกระดอนไปเข้ามือผู้รักษาประตูทีมเยือน สเตฟาน รูฟฟิเยร์

15' ทีมเยือนลุ้นบ้างได้ยิงจากนอกเขต เฉี่ยวเสานิดเดียว
นานๆ จะขึ้นมาสักที จากจังหวะนี้วาเลนติน อิสเซติค ได้วางเท้ายิงจากนอกกรอบ หลุดออกไปแบบได้ลุ้นเล็กๆ

21' คาวานี่ได้ยิงแล้ว แต่โดนสกัดออกจากเส้น
จากลูกเตะมุม ดิ มาเรียคนเดิมเปิดเตะมุมทางซ้ายเข้ามา กองหลังแซงค์ เอเตียนสกัดไม่ขาด เข้าทางปืนคาวานี่ ได้เอี้ยวตัววอลเล่ย์ บอลพุ่งผ่านรูฟิเยร์ไปแล้ว แต่กองหลังแซงค์ เอเตียนสกัดออกมาได้

23' ได้แล้ว!!!คูร์ซาว่าเบิกประตูแรกให้ทีม
ทีมเยือน แซงค์ เอเตียนกำลังจะตั้งเกมบุกอยู่ดีๆ เสียบอลกลางทางไห้ แวร์รัตติ ก่อนแทงทะลุช่องต่อให้ คูร์ซาว่าทะลุขึ้นมาทางซ้าย ก่อนยิงทะลุผู้รักษาประตูเข้าไป

38' ได้ลุ้นต่อ 2 จังหวะซ้อนๆ
ดิ มาเรียอีกแล้ว ที่วันนี้ได้เปิดจากด้านข้างบ่อยมาก เปิดมาเข้าหัว คูร์ซาว่าที่สอดมาทางเสาสองอีกครั้ง โหม่งย้อนกลับมาโดน กองหลังแซงค์ เอเตียนสกัดทิ้ง ก่อนที่จังหวะต่อมา แซงค์ เอเตียนจ่ายบอลกันพลาด โดนคาวานี่ตัดบอลได้ ก่อนไหลให้อิบราฮิโมวิชหลุดไป ก่อนตบกลับเข้ากลางให้คาวานี่วิ่งตามมา แปบอลไปโดน รูฟิเยร์ปัดไว้ได้

Half time จบครึ่งแรกเป็นเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่าเยอะ ออกนำเบาะ ๆ 1-0

46' ดิ มาเรียดวลเดี่ยว แต่ยิงหลุดเฉย
เริ่มครึ่งหลังมาไม่กี่อึดใจ อิบราฮิโมวิชก็แทงทะลุช่องมาให้ ดิ มาเรียหลุดเดี่ยวไปดวลกับนายประตู แต่ปีกหน้าเอลฟ์ ยิงหลุดเสาออกไปไม่น่าเชื่อ

48' คาวานี่ได้ยิงจ่อ ๆ ไม่เหลือ
ทีมเยือนกำลังบุกเพลินๆ อยู่ดีๆ โดนแน่งบอลไป และเป็นม็อตต้าที่เตะสวนขึ้นมา กลายเป็นดี อิบราฮิโมวิชเก็บบอลได้ทางขวาก่อน เลี้ยงบอลเข้าเขตโทษ ก่อนจ่ายเข้ากลางให้คาวานี่ที่รออยู่เสาสอง แปจ่อๆ ด้วยซ้ายเข้าไป PSG นำสบายและ 2-0

61' ทีมเยือนบุกเรื่อยๆ หวังตีไข่
แซงค์ เอเตียนบุกได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังเจาะกองหลังเจ้าถิ่นไม่ได้ อาศัยจังหวะยิงไกลอย่างเดียว แต่ก็ได้แต่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา รวมทั้งเควิน แทรปได้ออกแรงเป็นระยะๆ แต่ก็ยังไม่เสียประตู

67' 3-0 แล้วคาวานี่จ่ายคืนอิบราแปจ่อไม่เหลือซาก
สกอร์ไหลไปแล้ว จากจังหวะที่เปแอสเชตัดบอลได้ตรงกลางโดย ม็อตต้า ก่อนจ่ายต่อให้ ดิ มาเรีย แทงทะลุช่องให้คาวานี่หลุดเดี่ยวไป ก่อนจะไหลบอลต่อให้อิบราแปจ่อ ๆ ไม่เหลือ

73' อ้าว!!! แวร์รัตติยิงตัวเองซะงั้น ตามห่างๆ 3-1
แซงค์ เอเตียนทำเกมบุดขึ้นมาทางขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางไป โดนสกัดออกมาโดยมากินญอส แต่บอลดันไปโดนเท้า แวร์รัตติที่วิ่งตามลงมา เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง เจ้าตัวทำหน้าบอกบุญไม่รับ เพื่อนต้องมาปลอบกันยกใหญ่

87' ตัวสำรองแผลงฤทธิ์ ลูคัส โหม่งซ้ำแผลเดิม
ในที่สุดก็มีประตูที่ 4 สำหรับเจ้าถิ่น เป็นจังหวะที่แวร์รัตติที่วันนี้เด่นทีเดียว ชิพบอลเข้าไปในเขตโทษ บอลไปเข้าศีรษะ ลูคัส มูร่าที่ลงมาสำหรับในเกมส์นี้เข้าไป ถึงแม้นายประตูจะปัดบอลออกมาได้ แต่บอลก็ข้ามเส้นไปแล้วทั้งใบ

FuLL TimE หมดเวลา จบเกมส์ เจ้าถิ่นชนะขาด 4-1

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของ PSG : 4-3-3 ประกอบด้วย
16 แทรป
23 ฟาน เดอ วีล
5 มาร์กินญอส
2 ธิอาโก้ ซิลวา
20 คูร์ซาว่า
6 แวร์รัตติ
8 ธิอาโก้ มอตต้า
25 ราบิโอต์
11 ดิ มาเรีย
10 อิบราฮิโมวิช
9 คาวานี่

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของ แซงค์ เอเตียน : 4-2-3-1 ประกอบด้วย
16 รูฟิเยร์
29 แกรก
26 บาย่า ซัล
24 แปรก์แรงค์
32 เอก็อตโต้
18 เลร์มูน
28 ดิออนมูเน่
21 ฮามูน่า
11 อิเซริค
22 ปาเกต์
27 เบริค











0
0
เข้าร่วม: 12 May 2007
ตอบ: 1027
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 28, 2015 10:37 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
“หน้าง่วง” ยันไม่ลงชิงเก้าอี้บอสใหญ่สิงห์ผยอง



แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ กุนซือหน้าง่วงอดีตนายใหญ่ทีมขุนค้อน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งนายใหญ่ของแอสตัน วิลล่า ที่ว่างอยู่ในตอนนี้อย่างแน่นอน หลังจากที่ สิงห์ผยอง เพิ่งจะปลด ทิม เชอร์วู้ด ที่ทำผลงานได้ย่ำแย่ออกไปเมื่อเร็วๆ นี้

ทั้งนี้กุนซือหน้าง่วง ให้สัมภาษณ์กับ Talksport สื่อในประเทศอังกฤษว่า "ผมนึกภาพตัวเองที่ไปรับงานคุม แอสตัน วิลล่า ไม่ออกจริงๆ ซึ่งผมยังคงเชื่อว่า ตำแหน่งนี้ยังเป็นงานที่น่าสนใจอยู่ดี ต่อให้ทีมจะจมอยู่ท้ายตารางพรีเมียร์ ลีก ตอนนี้ก็เถอะ"

"มันจะเป็นงานที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าใครจะเข้ามารับตำแหน่งไปก็ตาม"

"ผมเชื่อว่าต้องมีสักคนที่เหมาะสมเข้ามารับงานคุม แอสตัน วิลล่า และพาทีมประสบความสำเร็จได้ แม้ว่าตอนนี้ทีมจะเสียผู้เล่นตัวหลักออกไปเยอะก็ตาม"

"มันเป็นงานหินเอามากๆ ในการคุมทีมที่เสียผู้เล่นคนสำคัญไป และไม่สามารถหานักเตะคนอื่นมาทดแทนได้ ต่อให้เป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อไม่มีนักเตะอย่าง กอมปานี, โจ ฮาร์ท, ดาบิด ซิลบา และอเกวโร่ ลงเล่น...ผลงานในสนามที่ออกมาก็แตกต่างเหมือนเป็นอีกทีมไปเลย"

‘ไม่ว่าใครที่เข้ามารับงานนี้ เขายังต้องเชื่อมั่นว่า วิลล่า ยังมีโอกาสอีกหลายเกมส์ที่จะเก็บแต้ม เพื่ออยู่รอดต่อไปใน พรีเมียร์ ลีก ซึ่งหวังว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหาร และแฟนบอล เพื่อที่จะได้พาทีมกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งในอนาคต”

ที่มา: http://www.tribalfootball.com/articles/ex-spurs-boss-redknapp-won-t-be-applying-for-aston-villa-job-4101907


คล็อปป์ไม่ชัวร์ดึงตัวนักเตะยืมคืนทีม



งานนี้แฟนบอลหงส์แดงต้องลุ้นอย่างหนักว่าเหล่านักเตะที่ถูกสโมสรปล่อยให้กับทีมอื่นยืมตัว อาทิ ลาซาร์ มาโควิช, มาริโอ บาโลเตลลี่ และ อังเดร วิสดอม จะมีใครที่ถูกดึงกลับมาบ้าง หลัง เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมป้ายแดง ยังไม่แน่ใจในเงื่อนไขต่างๆ ในสัญญาทั้งหมด

คล็อปป์ บิ๊กบอสขวัญใจ เดอะ ค็อป เปิดเผยว่า “ตอนนี้ผมยังไม่เข้าใจเงื่อนไขทั้งหมดในสัญญายืมตัวที่ ลิเวอร์พูล ปล่อยนักเตะให้ทีมอื่นใช้งานอยู่ในขณะนี้”

“นักเตะของลิเวอร์พูลที่ถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวอยู่ในตอนนี้ เราอาจจะมีโอกาสที่จะดึงตัวพวกเขากลับมาช่วยทีมได้ หรืออาจจะไม่สามารถทำอย่างนั้นได้…เงื่อนไขในสัญญาที่นี่มันแตกต่างกับที่เยอรมันโดยสิ้นเชิง”

“แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดสำหรับการลงเล่นในเกมถัดไป ดังนั้นผมจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องใส่ใจกับมันในตอนนี้”

ที่มา: http://www.tribalfootball.com/articles/liverpool-boss-klopp-i-ve-no-idea-how-loan-rules-work-4101881



สาลิกา เฮ! เอฟเอ ยกเลิกโทษแบนใบแดงโคลอชชินี่





นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ยื่นอุทธรณ์ต่อสมาคมฟุตบอลอังกฤษเป็นผลสำเร็จในกรณีใบแดงปัญหาของ ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ ที่ถูกผู้ตัดสิน โรเบิร์ต แมดลี่ย์ ไล่ออกในศึกไทน์-เวียร์ดาร์บี้แมตช์กับซันเดอร์แลนด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้สาลิดงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปถึง 0-3

ทั้งนี้ใบแดงของโคลอชชินี่ในช่วงท้ายครึ่งแรก เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นิวคาสเซิลพ่ายแพ้ไปอย่างย่อยยับ เมื่อผู้ตัดสินมองว่า เขาตั้งใจทำฟาล์ว สตีเฟ่น เฟล็ทเชอร์ กองหน้าของซันเดอร์แลนด์ในจังหวะหลุดเข้าไปทำประตู จึงนำมาสู่จุดโทษที่ อดัม จอห์นสัน ลุกขึ้นมาสังหารเป็นสกอร์เบิกร่องให้กับเจ้าบ้านได้สำเร็จ เป็นการเบิกทางให้กับอีกสองประตูหลังที่ตามมาของ บิลลี่ โจนส์ และสตีเฟ่น เฟล็ทเชอร์ หลังจากที่นิวคาสเซิลเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน

ล่าสุด เอฟ เอ ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันกลับคำตัดสินใบแดงดังกล่าว พร้อมยกเลิกโทษแบนจำนวน 1 เกมให้กับโคลอชชินี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้กองหลังตัวหลักชาวอาร์เจนติน่าวัย 33 ปี จะสามารถลงสนามช่วยต้นสังกัดในเกมสุดสัปดาห์นี้ที่จะพบกับ สโต๊ก ซิตี้ ได้

โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีข้อความดังต่อไปนี้ว่า “คณะกรรมการได้ตรวจสอบจังหวะดังกล่าวแล้วพบว่า ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวได้ตัดสินผิดพลาดอย่างชัดเจน ในการไล่กองหลังของทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดออกจากสนาม เนื่องจากมองว่านักเตะตั้งใจทำฟาล์วขัดขวางจังหวะการทำประตูของผู้เล่นซันเดอร์แลนด์”

อย่างไรก็ตามทีมสาลิกาดง จะโดนลงโทษปรับเงินเป็นจำนวนหนึ่งจากการที่ไม่สามารถควบคุมนักเตะของทีมตนเองที่แสดงอากัปกิริยาที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากไม่พอใจคำตัดสินของกรรมการในเกมดังกล่าว แต่นิวคาสเซิลยังมีเวลาที่จะยื่นอุทธรณ์ในกรณีนี้จนถึงเวลาหกโมงเย็นของวันศุกร์ที่จะถึงนี้ตามเวลาท้องถิ่น

ที่มา: http://www.bbc.com/sport/0/football/34638706



ฝีมือผมเอง! ‘ซูเปอร์มาริโอแฮตทริก’ กิเลนไล่ทุบฉลาม 10 คน 4-2

ฟุตบอลโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก 2015
สนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม
วันพุธ ที่ 28 ตุลาคม 2558
ผู้ตัดสิน อลงกรณ์ ฝีมือช่าง


เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ประตู: มาริโอ ยูรอฟสกี้ 21’, 38’, 75’, คลีตัน ซิลวา 52’
ชลบุรี เอฟซี ประตู: แอนเดอร์สัน ดอส ซานโตส 62’, จูเลียโน่ มิเนียโร่ 90+1’



ศึกเอลกลาซิโก้เมืองไทย “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แก้หน้าได้สำเร็จจากอาการบ๊วยติดคอเสมอ ทีโอที เอสซี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการเปิดบ้านไล่ถล่ม ฉลามชล “ชลบุรี เอฟซี” ไปอย่างสุดมันส์ 4-2 จากแฮตทริกของ มาริโอ ยูรอฟสกี้

กิเลนจัดแนวรุกตัวหลักครบครับ เปิดบ้านรับมือฉลามชลที่ขาดซูเปอร์ตี๋เฝ้าเสา

“กิเลนผยอง เอสซีจี” เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูงไทยลีกของกุนซือ ดราแกน ทาลายิช จัดทัพแนวรุกลงมาเต็มสูบ 3 ประสานกองหน้าอยู่ครบทั้ง มาริโอ ยูรอฟสกี้, ธีรศิลป์ แดงดา และ คลีตัน ซิลวา ส่วนกองกลางก็ยังใช้ ดัสกร ทองเหลา เป็นตัวเก๋าคอยคุมจังหวะเกม ร่วมกับตัวดังอย่าง สารัช อยู่เย็น และฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ด้านกองหลังมีการปรับทัพเล็กน้อยด้วยการโยก คิม ด็อง จิน ถ่างออกมายืนแบ็คซ้าย แล้วให้ นาโอกิ อาโอยามะ ยืนเซนเตอร์คู่กับ สุพรรณ ทองสงค์ แบ็คขวาเป็นหน้าที่ของดาวรุ่งฟอร์มดีอย่าง สุพร ปินะกาตาโพธิ์ และด่านสุดท้ายยังคงเป็น กวิน ธรรมสัจจานันท์ ลงเฝ้าเสาเช่นเดิม

ฝั่ง “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ทีมเยือนขาดผู้รักษาประตูมือหนึ่ง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่เพิ่งจะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่ศีรษะในเกมที่พบกับเชียงราย ยูไนเต็ด จนต้องเข้าห้องไอซียูไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องใช้ วัฒนพงษ์ ตาบุดดา เฝ้าเสาแทน ส่วนตัวหลักคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบทั้งเซนเตอร์ทีมชาติอย่าง สุทธินันท์ พุกหอม ที่จับคู่กับ โช เบียงกุ๊ก ขนาบด้วยแบ็คขวา-ซ้ายอย่าง ชลทิตย์ จันทคาม และอลงกรณ์ ประทุมวงศ์ กองกลางใช้แอนเดอร์สัน ดอส ซานโต๊ส คอยตัดเกมสืคู่กับ ภูริทัต จาริกานนท์ ปีกซ้าย-ขวาตัวจี๊ดยังอยู่กันพร้อมหน้าทั้ง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และนูรูล ศรียานเก็ม ส่วนกองหน้าคู่ใช้คู่หูบราซิลอันตราย เลอันโดร อัสซัมเซา กับติอาร์โก้ คุนญ่า

นาทีที่ 3 เจ้าบ้านเกือบช็อค! คุนญ่า ยิงหาย แต่ไลน์แมนยกธง
เปิดเกมมาได้ไม่นานกลับเป็นทีมเยือนที่เกือบเซอร์ไพรส์เจ้าบ้านได้ก่อน จากจังหวะที่ ภูริทัต จาริกานนท์ จ่ายบอลไปเสาสองให้ ติอาร์โก้คุนญ่า ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่น่าเสียดายที่ไลน์แมนยกธงให้จังหวะนี้เป็นล้ำหน้าไปก่อน ชลบุรีเลยชวดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 17 นึกว่าหาย! คลีตันหลุดไปซัดหลุดเสาสอง
วันนี้เจ้าบ้านใช้เลือกเกมสวนกลับด้วยบอลยาวเล่นงานทีมเยือนที่ดักเช็คล้ำหน้า แล้วก็มีโอกาสใกล้เคียงที่จะได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุด จากจังหวะที่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ เปิดบอลสวนกลับเร็ววางยาวขึ้นหน้าให้ ธีรศิลป์ แดงดา ขึ้นโขกเช็ดต่อขึ้นหน้าให้ คลีตัน ซิลวา ที่สปีดขึ้นมาด้านหลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษด้วยซ้ายแต่บอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียวชนิดที่แฟนบอลเจ้าบ้านเฮเก้อไปแล้ว

นาทีที่ 21 ตัวแสบ! มาริโอ เบิกร่อง กิเลนทยานนำ 1-0

เจ้าบ้านยังคงใช้บอลยาวเล่นงานกับดักล้ำหน้าของทีมเยือน และคราวนี้ก็เป็นผลจนได้ เมื่อ คิม ดอง จิน สบช่องแทงทะลุให้ธีรศิลป์หลุดไปทางด้านซ้ายแบบมีเวลาเหลือเฟือก่อนที่จะกระชากแล้วปาดไปเสาสองให้ มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ ที่วิ่งเติมเข้ามาแปด้วยขวาจ่อๆ เข้าไปให้เจ้าบ้านนำ 1-0 แถมประตูนี้เป็นลูกที่ 8 แล้วที่เจ้าตัวยิงฉลามชลเมื่อทั้งสองทีมเจอกัน

นาทีที่ 38 โอ้ คนดี คนเดิม เพิ่มเติมยิงลูกสอง!

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรกทีมเยือนต้องมาพลาดเสียประตูเพิ่มจนได้จากจังหวะที่ได้ทุ่มในแดนตัวเองด้านขวา ชลทิตย์ จันทคาม ตัดสินใจพลาดเลือกทุ่มเข้าหาประตูตัวเองให้ โช เบียง กุ๊ก แต่ปรากฏว่าเหมือนบอลจะหลุดมือน้ำหนักเลยขาด ทำให้ต้องโหม่งแก้ออกมาไม่ดี บอลลอยโด่งอยู่หน้าเขตโทษตัวเอง แล้วก็เป็น มาริโอ ยูรอฟสกี้ พุ่งเข้ามาซัดแบบไม่จับด้วยอีซ้ายข้างถนัดบอลตกพื้นเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้กิเลนผยองทิ้งห่างเป็น 2-0

นาทีที่ 42 งานเข้าหนัก! ฉลามเหลือ 10 ตัว ภูริทัต โดนแดงหลังสอย ดัสกร
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 3 นาที ทีมเยือนก็ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ ภูริทัต จาริกานนท์ เข้าเสียบบอล 50/50 กับ ดัสกร ทองเหลา แต่ผู้ตัดสินมองว่านักเตะทีมเยือนเจตนาเล่นรุนแรงเปิดปุ่มย่ำจึงควักใบแดงไล่ออกไปแบบไม่ลังเล ทีมเยือนงานหนักเป็นสองเท่า เพราะสกอร์ก็ตามหลัง แถมผู้เล่นก็น้อยกว่าเจ้าบ้านอีก

----------------------------------------------จบครึ่งแรก เมืองทองนำอยู่ 2-0--------------------------------------------------------------


นาทีที่ 52 มาริโอปั้นคลีตันจัดให้! กิเลนผยองจัด ออกนำ 3-0

เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ 7 นาที เจ้าบ้านก็มาได้ประตูทิ้งห่างออกไปเป็น 3-0 จากจังหวะประสานงานอันสุดสวย เริ่มจากดัสกร ทองเหลา จ่ายยัดเข้ากลางให้ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยืนอยู่หน้ากรอบเขตโทษชิ่งจังหวะเดียวด้วยเท้าซ้ายบอลลอยโด่งข้ามหัวกองหลังให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่วิ่งสอดขึ้นมาเกี่ยวจังหวะเดียวกลับหลังมาให้ คลีตัน ซิลวา วิ่งเข้ามาใส่ด้วยขวาข้างถนัดเต็มๆ บอลพุ่งเสียบเสาแรกไปแบบที่ วัฒนพงษ์ ตาบุดดา ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทำได้แค่ป้องกันด้วยสายตา

นาทีที่ 63 ฉลามฮึดสู้! แอนเดอร์สัน ซัดตีตื้นไล่มา 3-1

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 63 ทีมเยือนก็ได้ประตูไล่ขึ้นมาเป็น 3-1 จนได้ จากจังหวะที่ นูรูล ศรียานเก็ม ได้จังหวะลากเลื้อยเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะตบกลับเข้ากลางมาให้ แอนเดอร์สัน ดอส ซานโต๊ส ที่ยืนอยู่โล่งๆ ไม่มีคนประกบ แปด้วยซ้ายเข้าเสาแรกตีไข่แตกให้กับทีมเยือนได้สำเร็จ

นาทีที่ 65 มุ้ยโชว์สเต็ปหลบสามแต่ซัดเข้าซองเฉย...
หลังเสียประตูไปได้แค่ 2 นาที เจ้าบ้านก็เกือบจะได้ประตูทิ้งห่างออกไปอีกครั้ง...คราวนี้เป็น ธีรศิลป์ แดงดา ที่ฉีกตัวเองมาด้านข้างหน้ากรอบเขตโทษทีมเยือน ก่อนโชว์สเต็ปกระชากลากเลื้อยเข้ากรอบเขตโทษด้านขวา แต่จังหวะสุดท้ายยิงด้วยซ้ายเบาไป บอลเข้าซอง วัฒนพงษ์ ตาบุดดา แบบไม่ยากเย็น

นาทีที่ 73 ใจกว้างไปไหน? มุ้ย ถวายพานทองฝังเพชร คลีตัน จบไม่คม

เจ้าบ้านใช้บอลทะลุช่องเล่นงานแนวรับทีมเยือนจนเปื่อยยุ่ยได้อีกครั้ง เป็น มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่จ่ายทะลุช่องจากกลางสนามให้ธีรศิลป์หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนที่จะปาดไปให้ คลีตัน ที่เติมเข้ามาทางเสาสอง แต่ดูเหมือนบอลจะย้อนหลังไปนิด เลยต้องแต่งบอลจากขวามาเข้าซ้ายหลบสุทธินันท์ที่เข้ามาประกบ ก่อนที่จะซัดไปติดผู้รักษาประตูทีมเยือนบอลเกือบจะปลิ้นเข้าอยู่แล้ว แต่ ชลทิต จันทคาม ถอยไปยืนคุมเส้นได้ทันเลยเคลียร์บอลออกมาได้หวุดหวิด

นาทีที่ 75 แหล่มเลย! โอ้หลุดเดี่ยวกดแฮตทริกนิ่ม ทิ้งห่าง 4-1
ถัดมาแค่ 2 นาทีเจ้าบ้านก็มาได้ประตูนำห่างเป็น 4-1 จนได้ จากจังหวะที่ กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ ตัวสำรองที่ลงมาแทน ดัสกร ทองเหลา ได้บอลอยู่ทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายคิลเลอร์พาสทะลุแนวรับให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ หลุดเดี่ยวเข้าไปชิพอย่างเหนือชั้นสวนตัวผู้รักษาประตูทีมเยือนหายเข้าประตูไปง่ายๆ

นาทีที่ 90+1 ของขวัญปลอบใจ มิเนโร่ ขึ้นโขกไล่มา 4-2

เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บทีมเยือนก็มาได้ประตูปลอบขวัญเป็น 4-2 จากจังหวะที่ เลอันโดร อัสซัมเซา ได้บอลอยู่มุมธงฝั่งขวา ก่อนจ่ายย้อนกลับมาให้ ชลทิตย์ จันทคาม โยนบอลเข้าไปในเขต แล้วก็เป็น จูเลียโน่ มิเนโร่ กองหน้าตัวสำรองที่ลงมาแทน ติอาร์โก้ คุนญ่า โฉบมาใหม่งเช็ดบอลเข้าเสาสองไปอย่างหมดจด
จบเกม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ไปได้ 4-2 รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงไว้ได้ต่อไปมีแต้มตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจ่าฝูงอยู่ 2 คะแนน


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


ผู้จัดการทีม: ดราแกน ทาลายิช
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (4-3-3): กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์(ผู้รักษาประตู), นาโอกิ อาโอยามะ, คิม ดอง จิน, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, สุพรรณ ทองสงค์, สารัช อยู่เย็น, ดัสกร ทองเหลา(กัปตันทีม)(ออก 62’), มาริโอ ยูรอฟสกี้, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์(ออก 86’), คลีตัน ซิลวา(ออก 86’), ธีรศิลป์ แดงดา

สำรอง: วิษณุศักดิ์ แก้วเรือง(GK), ศิวกรณ์ เตียตระกูล, สุริยา สิงห์มุ้ย, สราวุธ กัลยาณบัณฑิต, กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์(เข้า 62’), ชนานันท์ ป้อมบุปผา(เข้า 86’), พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, เสกสิทธิ์ ศรีใส (เข้า 86’), ปิยพล ผานิชกุล


ผู้จัดการทีม: จเด็จ มีลาภ

ชลบุรี เอฟซี (4-4-2): วัฒนพงษ์ ตาบุดดา(ผู้รักษาประตู), ชลทิตย์ จันทคาม(กัปตันทีม), สุทธินันท์ พุกหอม, โช เบียงกุก, แอนเดอร์สัน ดอส ซานโตส, อลงกรณ์ ประทุมวงศ์ (ออก 79’), ภูริทัต จาริกานนท์, นูรูล ศรียานเก็ม(ออก 82’), เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, เลอันโดร อัสซัมเซา, ติอาร์โก คุนญา (ออก 55’)

สำรอง: ชาคร พิลาคลัง(GK), วรุตน์ สัพโส, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, สิทธิโชค ภาโล(เข้า 82’), จูเลียโน่ มิเนโร่ (เข้า 55’), รัชชานนท์ กันยาทอง(เข้า 79’), พิภพ อ่อนโม้, เทิดศักดิ์ ใจมั่น, นิเวส ศิริวงศ์

คลิปจังหวะใบแดงปัญหาของ ภูริทัต จาริกานนท์





























0
0
เข้าร่วม: 10 Feb 2010
ตอบ: 655
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 29, 2015 6:12 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ฟ้ามณีเร้าแข็งปืนลืกความกากซะแล้วเอาใหม่

มาติเยอ ฟลามินี่อดีตกองกลางเอ ซีมิลานออกมาปลุกเร้าแข็งอาร์เซน่อลให้ลืมความพ่ายแพ้แบบหมดสภาพต่อ เซฟฟิลด์ เว็ดเนสเดย์ ในถ้วยลีก คัพ ไป 3-0 หลังจากล้มบาเยิร์น มิวนิคใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาหมาดๆให้พวกเขาคืนฟอร์มเพื่อลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยฟอร์มเดิม

ปืนใหญ่จากลอนดอนนั้นนำจ่าฝูงร่วมกับแมนซิตี้ด้วยฟอร์มยอดเยี่ยมล้มผีแดง แมน ยูไนเต็ด เอเวอร์ตั้น เลสเตอร์ และ วัตฟอร์ด รวมไปถึงชัยชนะเหนือยอดทีมจากแคว้นบาวาเรียในยูฟ่า แชมป์เบี้ยนส์ลีก และฟลามินี่เชื่อว่านัดถัดไปกับสวอนซีที่สนาม ลิเบอร์ตี้ สเตเดี่ยมนั้นเป็นโอกาสที่ดีที่จะลืมความพ่ายแพ้นั้นซะ " นี้คือข้อดีอย่างหนึงของการที่ได้เล่นทุกๆสามวันนะครับ เพราะเราจะสามารถออกไปและทำให้ซีซั่นของเรากลับมาอยู่ในลู่ทางอีกครั้งเพราะเราฟอร์มดีมาก เราต้องลืมมันไปและก้าวไปข้างหน้า" กองกลางชาวเฟร็นช์กล่าวกับเว็ปไซต์ทางการของอาร์เซน่อล

นั้ดนี้แพ้แบบไม่เจ็บใจมากแต่โคตรเจ็บตัวเพราะแค่ยี่สิบนาทีอเล็กซ์ อ็อกเลดน์ แชมเบอร์เลนเจ็บต้องเปลี่ยนตัวออกและคนที่ลงมาแทนอย่างรุ่นพี่จากค่ายนักบุญ ธีโอ วัลค็อตต์ก็ดับเจ็บอีก โดยยังไม่ทราบว่าทั้งคู่จะเข้า hospital band นานแค่ไหน " เสียหายอีกแล้วครับงานนี้เจ็บสองคนภายในยี่สิบนาทีและก็ไม่รู้ด้วยว่าจะเจ็บนานแค่ไหน นอกจากความพ่ายแพ้แล้วยังมีอาการบาดเจ็บอีก มันเกิดขึ้นกับเราอีกแล้วแต่เราต้องก้าวไปข้างหน้าครับและลืมมันซะ เราเล่นไม่ดีแต่นั้นแหละคือชีวิต" ฟ้ามณีปิดท้าย



โด้งานเข้า??!! ถ่ายเซลฟี่ขณะขับรถ?

ซูปเปอร์สตาร์จากโปรตุเกสทำอะไรก็เป็นข่าวสมกับเป็นซุปเปอร์สตาร์จริงๆ ล่าสุดแค่ถ่ายรูปในรถส่วนตัวและโพสต์ลงโปรแกรม โซเชี่ยลเน็ทเวิร์คอย่างอินสตาร์แกรมขณะขับรถ
เครื่องจักรทำประตูเจ้าของ บัลลง ดอร์ สามสมัยนั้นถ่ายเซลฟี่ขณะที่กำลังขับรถโดยไม่ได้คำนึงถึงผู้อื่นบนถนน งานนี้โทษแค่สองร้อยยูโรตามกฏหมายในสเปนของการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถคงจะเป็นน่าจะเป็นแค่เรื่องขำๆแต่ด้วยความที่เป็นซูปเอร์สตาร์ตัวจริงอดีตแข้งผีแดงนั้นจะถูกตำหนิในแง่ของการเป็นตัวอย่างที่ดีในเยาวชนทั่วโลกที่มีเขาเป็นไอดอล
























โอบาเผยอนาคตอยากไปวาดลายที่สเปนประเทศของแม่
ปิแอร์ อีเมรีก โอบาเมย็องกองหน้าฟอร์มอ็อตของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์นั้นเผยว่าในอนาคตคงจะไป สเปนเผื่อค้าแข้งในประเทศบ้านเกิดของแม่ตน แต่อย่างไรก็ตามคงไม่ใช่ตอนนี้หลังากที่เจ้าตัวพึ่งจะจรดปากกาต่อสัญญาอยู่กับเสือเหลืองถึงปี 2020 โดยขณะนี้โอบานำดาวซัลโวสูงสุดที่ สิบสามประตูจากสิบเกมนำแมกระทั่งโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

" ซักวันผมจะไปเล่นลีกอื่นนะ ความฝันของผมอยู่ที่สเปนนะ หลังจากสัญญาฉบับนี้ ผมคงจะย้ายไปสเปนนะ นั้นคือความฝันเลยแต่มันจะเกิดขึ้นเมื่อไรผมก็ไม่ทราบนะครับ ผู้คนส่วนมากคิดว่าลีกอังกฤษจะเหมาะกับผมแต่แม่ผมเป็นสแปนิชเพราะฉะนั้นความฝันผมจึงอยู่ที่สเปน หลังจากนั้นก็ไม่แน่นะครับแต่ตอนนี้ผมเล็งสเปนไว้แล้ว "
ศูนย์หน้าขาวกาบองกล่าวปิดท้ายแบบหยอดๆกับ BBC World Service
0
0
เข้าร่วม: 10 Feb 2010
ตอบ: 655
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 29, 2015 7:18 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ชนะเป็นแล้ว!!คล็อปป์ยิ้มร่าไคล์นตามซ้ำหงส์แดงชนะ1-0

เยอร์เก้น คล็อปป์กุนซือนอร์มอล วันชนะเป็นเกมแรกในฐานะกุนซือหงส์แดง โดยได้ประตูจากการตามไปซ้ำประตูโล่งๆของ นาธาเนียล ไคล์นเป็นประตูแรกในชุดหงส์แดงด้วยช่วยให้ชนะ บอร์นมัธไป 1-0 เข้ารอบแปดทีมสุดท้าย


แคปิตอล วัน คัพ รอบ 4
สนาม แอนฟิลด์
พุธที่ 28 ตุลาคม 2558
กรรมการ ไมค์ โจนส์


ลิเวอร์พูล 1 - 0 เอเอฟซี บอร์นมัธ
17' 1-0 นาธาเนียล ไคล์น

ลิเวอร์พูล :34. อดัม บ็อกดาน ,2. นาธาเนี่ยล ไคลน์ ,4. โคโล่ ตูเร่ 6. เดยัน ลอฟเรน ,56. คอนเนอร์ แรนดอลล์ ,24. โจ อัลเลน,32. คาเมร่อน บรานาแกน ,53. เจา คาร์ลอส เตเชร่า ,11. โรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่ ,27. ดิว็อค โอริกี้ ,33. จอร์ดอน ไอบ์
ตัวสำรอง :39. ไรอัน ฟูลตัน,18. อัลเบร์โต้ โมเรโน่,37. มาร์ติน สเคอร์เทล ,10. ฟิลิปเป้ คูตินโญ่,20. อดัม ลัลลาน่า,21. ลูคัส เลว่า ,48. เจโรม ซินแคลร์
เอเอฟซี บอร์นมัธ :23. อดัม เฟเดริซี่ ,2. ไซม่อน ฟรานซิส ,11. ชาร์ลี แดเนี่ยลส์ 6,15. อดัม สมิธ ,25. ซิลแวง ดิสแตง ,8. แฮร์รี่ อาร์เทอร์,16. ชอน แม็คโดนัลด์ , 19. จูเนียร์ สแตนิสลาส, 77. มาร์ค พิว,18. แยนน์ เคอร์มอร์แกนท์,30. แมตต์ ริตชี่
ตัวสำรอง: 21. ไรอัน อัลล์ซอป,38. บอลลี่ คาร์กิลล์,3. สตีฟ คุ๊ก,32. ยูนาน โอเคน,9. โตเคโล่ แรนตี้ ,17. โจชัว คิง ,24. ลี ทอมลิ่น



เกมนี้คล็อปป์มาแนวรักเด็กให้ลงมันทุกตำแหน่งทั้งหน้ากลางหลังไล่จากคอนเนอร์ แรนดอลล์, คาเมร่อน บรานนาแกน, เจา คาร์ลอส เตเชร่าและจอร์ดอน ไอบ์ พร้อมกับรุ่นพี่ประคองด้วย เฟียร์มิโน่ ลอฟเรน โคโล่ ตูเร่ ลูคัส และ โจ อัลเลน โดยอดัม บ็อกดานลงเฝ้าเสาแทน มินโยเล่ต์


1' เกือบนำไว ฟีโน่ยิงไม่คม
เกือบนำแต่ไก่โห่เลยเมื่อไอบ์จ่ายให้ โรเบอร์โต้ เฟียร์มิโน่ตั้งป้อมยิงไกลเฉี่ยวเสาออกไปไม่ไกล เจ้าถิ่นมาดุเลย

15' ฟีโน่อีกแล้วหงส์แดงบุกหนัก
ต้องชมไอบ์ที่ขยันไปบอลมาได้ทางด้านขวาก่อนจะจ่ายให้เฟียร์มิโน่ยิงฉแลบข้ามคานได้เสียวกันเล็กๆ

17' จนได้ !! ไคล์นซ้ำโล่งๆหงส์แดงนำ1-0
โอริกิกระชากบอลขึ้นทางขวาก่อนไหลมาให้เฟียร์มิโน่โน่แทงจังหวะเดียวให้เตเชร่าวิ่งโฉบมาเอาแล้วตอกส้นหวังทำประตูแต่โดนกองหลังบอร์นมัธเตะเคลียร์จากเส้น โชคดีมาเข้าทางปืนไคล์นซ้ำเข้าไปชิลๆโล่งๆเป็นประตูแรกในชุดลิเวอร์พูลด้วย

29' ตูเร่เจ็บ - สเคอร์เทลลงแทน
โคโล่ ตูเร่เล่นๆอยู่ก็เจ็บแฮมสตริงขาซ้ายทำให้ต้องใช้บริการ สเคอร์เทลจากมานั่งสำรอง

35' ฟิโน่เหนือชั้นแต่ไม่คม
ถ้าเข้าจะสวยงามมากเมื่อโรเบอร์โต้ เฟียร์มิโน่เจ้าเก่าฉกบอลมาจากนักเตะทีมเยือนและแตะลอดขากองหลังก่อนจะปั่นเข้าซอง อดัม เฟเดริชชี่

42' ฟรีคิ้กมีเสียว
ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายบนเส้นเป็นสแตนิสลาสปั่นบอลข้ามกำแพงไปทางเสาใกล้แต่บ็อกดานยังไวปรี่มาเซฟไว้เยี่ยมเลย

HALF TIME

57' ฟีโน่ไม่คมอีกแล้ว
โอกาสเยอะจริงๆแต่ไม่ได้เลยซักเม็ดเมื่อนักเตะชาวบราซิลเลี่ยนำปแย่งบอลมาเองแล้วหลุดไปได้เลือกมุมยิงแต่ยิงออกไปเองแบบงงๆ น่าจะได้ซักลูกแล้วนะ

82' เทเซร่าฟรีคีิ้กแก้ง่วง
เป็นเกมครึ่งหลังที่น่าเบื่อที่สุดและมามีโอกาสหวาดเสียวกันท้ายเกมเมื่อ ทีเซียร่าได้ลองปั่นฟรีคิ้กรระยะยี่สิบหลาข้ามกำแพงไปโดนเฟเดริชชี่เซฟ

90'บ็อกดานเซฟเยี่ยม
เกือบไม่ชนะซะแล้วเมืออดัม สมิธ เอาบอลลงและดีดต่อให้ ริชชี่ได้ง้างยิงในกรอบเขตโทษแต่ตรงตัวอดัม บ็อกดานเซฟเยี่ยม

FULL TIME จบเกมลิเวอร์พูลคว้า ชัยนัดแรกในยุคเยอร์เก้น คล็อปป์สำเร็จจากประตูชัยของนาธาเนี่ยล ไคล์น
























0
0
เข้าร่วม: 27 Nov 2013
ตอบ: 12
ที่อยู่: Florence, Italy
โพสเมื่อ: Sat Oct 31, 2015 1:38 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
สวัสดีครับผม อินทรีทอง ขอฝากผลงานเเปลข่าวให้พิจารณาด้วยครับ ส่วนผลบอลเดี๋ยวตามมา เร็วๆนี้ครับ

LVG เดือด!!! ตอบโต้หมามุ่ย วิจารณ์ แท็กติกส์ โคตรน่าเบื่อ...

หลุยส์ ฟานกัล ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ออกอาการไม่พอใจต่อเสียงวิจารณ์ของตำนานอย่าง พอล สโคลล์ ที่กล่าวหาว่า สไตล์การเล่นของทีมปีศาจแดง ขาดความตื่นเต้น เร้าใจ


นายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์แทรฟฟอร์ด ลุกขึ้นมาตอกกลับ พอล สโคลล์ หลังถูกวิจารณ์เกี่ยวกับแท็กติกของทีม โดยกล่าวว่า "สิ่งที่เขา (สโคลล์) พูดออกมา มันไม่ได้ทำให้ผม รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลยนะ"

อดีตมิดฟิลด์ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ออกมาพูดถึง สไตล์การเล่นของทีมปีศาจแดง ยุคปัจจุบันว่า "เขาคงจะไม่มีความสุขเป็น แน่ถ้าต้องลงมาเล่นภายใต้แผนการเล่นที่ ไร้จินตนาการ และขาดความสร้างสรรค์ ของ ฟาน กัล แบบนี้"

ทว่า ฟาน กัล ที่เพิ่งพาทีมตกรอบ
แคปปิตัล วัน คัพ ด้วยน้ำมือของ มิดเดิลสโบรห์ จากการดวลลูกจุดโทษ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กล่าวว่า "ผมจะไม่ขอตอบโต้อะไรกับพอล สโคลล์ หรือ เสียงวิจารณ์จากภายนอก พวกคุณมีสิทธิ์ที่จะพูดอะไรออกมา ก็ได้ มีเพียงแต่ท่อนไม้และก้อนหินเท่านั้นแหละที่จะทำให้กระดูกผมหักได้ แต่หากเป็นเพียงแค่คำพูดล่ะก็ มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรเลย" LVG กล่าว

"พวกคุณเข้าใจ ความหมายที่ผมพูดใช่มั้ย สิ่งที่พูดออกมา มันไม่ได้ช่วยอะไรดีขึ้นมาเลย สโคลล์ไม่ได้ต้องมารับผิดชอบอะไรกับทีมของเรานี่"
"ที่เขาออกมาพูดอย่างนั้น มันเพื่อสโมสรหรือเพื่อตัวเขาเองกันแน่"
"ในเมื่อคุณเป็นตำนานของทีม ฉะนั้นคุณควรที่จะเข้ามาพูดคุยกับ ตัวผม หรือ ไรอันกิ๊กส์ หรือจะเป็น เอ็ด วู้ดเวิด ก็ได้ แต่เขากลับไม่ทำอย่างนั้น เพราะเขารับค่าจ้างจาก บีบีซี หรือ สกายให้ออกมาพูดอะไรบางอย่าง"

"ผมต้องการการยกย่องหยั่งงั้นเหรอ ไม่หรอกนั้นมันไม่สำคัญเช่นกัน เพราะผมรู้ว่าถ้าพาทีม แพ้ แพ้ แพ้ แล้วก็แพ้ขึ้นมา ผมคงไม่รอดแน่"
"ทุกสิ่งทุกอย่าง มีขั้นมีตอน มันต้องใช้เวลา และผมขอเวลาสามปีเพื่อสร้างทีม แต่ถ้าสโคลล์มาบอกให้ผมออกไปจากทีม แล้วผมต้องไปรึเปล่าล่ะ ผมคิดว่าไม่นะ เพราะสโคลล์ไม่ได้มีหน้าที่ในเรื่องนี้ มันจะต้องเป็น เอ็ด วู้ดเวิด และ ตระกูลเกลเซอร์ตะหากล่ะ"

เมื่อสิ่งที่สโคลล์พูดนั้นมีผลต่อความเชื่อมั่นของแฟนบอล นายใหญ่แห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ดจึงเรียกร้องขอเสียงสนับสนุนจากแฟนบอลต่อทีม
"พวกเราเล่นเพื่อแฟนบอล คุณเห็นผู้ชมที่เข้ามาเต็มความสนามในเกม แคปปิตัล วัน คัพมั้ยล่ะ นั้นไม่ใช่เรื่องปกตินะ"

"ผมคิดว่า การเล่น แมนฯยูไนเต็ด เป็นบอลเอนเตอร์เทนท์มาตลอดนะ ผมไปเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์เหมือนกันนะว่าเราเล่นน่าเบื่อ แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะมีสโมสรไหนมีแฟนบอลเข้ามาดูมากไปกว่าพวกเราแล้วนะ
"เรามีเกมที่ยอดเยี่ยมนะ สำหรับแมตช์เมื่อวานนี้ แน่นอนละว่าผลการแข่งขันมันไม่ดีกับเราเลย(แพ้ โบโร) แต่ผมเห็นแฟนๆสนุกกับเกมอยู่นะ

"แต่เมื่อพวกเราแพ้และในฐานะผู้จัดการทีมของ แมนฯ ยูไนเต็ด คุณก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าจะต้องเจอช่วงเวลาที่ยากลำบาก"


ที่มา: Daily Telegraph
Link ==> http://www.telegraph.co.uk/sport/football/football-live-blogs/11964952/Man-Utd-news-Louis-van-Gaal-press-conference-live.html



อยู่กันอย่างนี้ นานๆ นะเธอ!!! หม้อเจรจาสัญญาฉบับใหม่รั้งวอลเตอร์สอยู่ต่อ

อนาคตของโจนาธาน วอลเตอร์ในถิ่น บริทาเนีย สเตเดี้ยมดูจะไม่แน่นอนเสียแล้วเมื่อเจ้าตัว ยังไม่ได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่ แต่ทางสโต๊คมีแผนจะรั้ง ดาวเตะวัย 32 ให้อยู่กับทีมต่อไป โดยจะเริ่มการเจรจากับตัวแทนนักเตะในเดือนหน้านี้

สัญญาของดาวเตะทีมชาติไอร์แลนด์ของทีมสโต๊ค ซิตี้ กำลังจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ แต่อนาคตของเจ้าตัวยังคลุมเคลือ หลังจากที่สโมสรยังไม่มีท่าทีจะตอบรับข้อเรียกร้องของ วอลเตอร์สที่ต้องการสัญญาสามปี

ทีมช่างปั้นหม้อมีนโยบายที่จะไม่ต่อสัญญาเกินกว่าสองปี ให้แก่ผู้เล่นที่มีอายุเกิน สามสิบปีขึ้นไป แต่วอลเตอร์สเชื่อว่า เขาน่าจะได้รับข้อยกเว้นจากการที่รับใช้สโมสรมาอย่างยาวนานละถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแผนของ มาร์ค ฮิวจ์ อีกด้วย

นอริช ซิตี้ ทีมร่วมลีกเคยยื่นข้อเสนอแก่ สโต๊คเพื่อดึงตัว วอลเตอร์ส ไปภายหลังจากเจ้าตัวขอขึ้นบัญชีขาย ช่วงสั้นๆก่อนเดดไลน์ไม่กี่วัน

ในเกมกับเชลซีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา วอลเตอร์สก็ได้ตอกย้ำความสำคัญของเขาอีก ด้วยการทำประตูตีเสมอเชลซีในศึก แคปปิตัล วัน คัพ ทำให้ มาร์ค ฮิวจ์ กุนซือของทีมหวังว่าจะรั้งตัวนักเตะเอาไว้ให้ได้

"จากความรู้สึกส่วนตัวและมุมมองทางด้านฟุตบอล มันบอกกับผมเลยว่าต้องพยายามเก็บ จอน ไว้กับทีมต่อไปให้ได้" ฮิวจ์กล่าว

"แต่ผมก็เข้าใจนโยบายของสโมสรเช่นกันว่า ระยะเวลาที่ต่อสัญญาให้กับผู้เล่นอายุขนาดนี้ คงต้องคิดทบทวนกันหนักทีเดียว ทว่า จอน วอลเตอร์ส นั้นโชวืผลงานได้ดีมาตลอดและ เขาก็เป็นคนสำคัญในทีมของเราด้วย ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งสโมสรและนักเตะจะมานั่งคุยกันใหม่และหาจุดที่เราจะสามารถตกลงกันได้ต่อไป"


ที่มา: Daily Telegraph

Link ==> http://www.telegraph.co.uk/sport/football/teams/stoke-city/11964509/Stoke-City-battle-to-keep-Jonathan-Walters-as-they-resume-contract-talks-with-32-year-old.html



จิ๊กซอว์ สู่ แชมป์!!! เหี่ยวหวังกระชาก ฮิกัวอินเสริมคมหอก


กัลโช่แมร์คาโต้ สื่อจากประเทศอิตาลี รายงานว่า ตอนนี้ฮิกัวอิน หัวหอกฟอร์มแรงของนาโปลี พร้อมที่จะบินสู่ลอนดอนเหนือแล้ว



อดีตดาวยิงราชันชุดขาวรายนี้ ตกเป็นข่าวกับทางอาร์เซน่อล มาอย่างยาวนาน และครั้งนี้ก็เช่นกัน โดยรายงานข่าวบอกว่า อาร์เซน่อล พร้อมแล้วที่จะดึงตัว กอนซาโล่ ฮิกัวอิน มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์หน้า

หาก อาร์แซน เวนเกอร์ หวังจะคว้าศูนย์หน้าทีมชาติอาร์เจนติน่ามาร่วมทีม อาจจะต้องจ่ายถึง 70 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าตัว โดยในสัญญาของฮิกัวอินกับทางนาโปลีระบุไว้ว่ามีค่าตัวอยู่ที่ 67.7 ล้านปอนด์

ผลงานของ ฮิกัวอิน ในฤดูกาลนี้ ซัดไปแล้วถึง เก้าประตูจาก สิบสองเกมทุกรายการ แต่เป็นที่คาดการณ์กันว่าเจ้าตัว อยากที่จะย้ายไปอยู่กับอาร์เซน่อล



ในขณะเดียวกัน ทีมปืนใหญ่ ก็ยังมีข่าวกับ อิสโก้ มิดฟิลด์ จอมเทคนิคของรีลมาดริด ในศึก ลาลีกา สเปน โดยส่อจากสเปนรายงานว่า อิสโก้กำลังจะย้ายไปสู่อาร์เซน่อล เพราะเจ้าตัวกำลังจะขอขึ้นบัญชีขายจากทีมราชัน ชุดขาว แม้ว่าจะได้รับโอกาสลงสนามอยู่ตลอดก็ตาม

อีกหนึ่งนักเตะที่ตกเป็นข่าวกับอาร์เซน่อล ก็คือ กรีเซอกอส ไครโชเวียค มิดฟิลด์ชาวโปแลนด์จากสโมสร เซบีญ่า



ผลงานล่าสุดของ ไครโชเวียค คือ เกมทีมชาติโปแลนด์ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบคัดเลือก นัดที่พบกับทีมชาติไอร์แลนด์เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวสามารถพังประตูได้แม้ว่าทีมจะแพ้ก็ตาม สัญญาของดาวเตะทีมชาติโปแลนด์จะอยู่กับเซบีญ่าจนถึงซัมเมอร์ปี 2018 เลยทีเดียว


ที่มา: Daily Telegraph
Link ==> http://www.telegraph.co.uk/sport/football/teams/arsenal/11956833/Arsenal-transfer-news-and-rumours-Arsene-Wenger-to-consider-68m-Napoli-forward-Gonzalo-Higuain.html
0
0
When you believe it, You can archieve it!!!
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 40
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Nov 01, 2015 11:13 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ขออนุญาตสมัครด้วยคนครับ


ทาถูสะดุ้ง!! เหี่ยวคอนเฟิร์ม 'วัลค็อตต์' กับ 'อ๊อกเหล็ก' เจ็บ..ส่อวืดเกมทีมชาติ

อาแซน เวนเกอร์ ยอดกุนซือของทีมอาร์เซน่อลได้กล่าวว่า สองขุนพลทีมชาติอังกฤษ ธีโอ วัลค็อต และ อเล็กซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน ส่อแววพลาดการลงสนามให้ทีมปืนใหญ่สามนัด รวมไปถึงเกมทีมชาติอีกสองนัดด้วย

โดยทั้งคู่บาดเจ็บจากเกมลีกคัพที่ออกไปแพ้เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ 0-3 เมื่อกลางสัปดาห์



"กว่าพวกเขาจะกลับมาได้ก็หลังเกมทีมชาตินั่นแหละ"

"หลังจบเกมก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน พวกเขาต้องหลุดจากทีม จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดในวันพฤหัสนี้ ก็หวังว่าจะไม่เป็นอะไรมาก"

แชมเบอร์เลนมีปัญหาที่ฮาร์มสตริงหลังเกมผ่านไปได้เพียง 5 นาที ส่วนวัลค็อตต์ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนก็มีอาการบาดเจ็บที่น่องในนาทีที่ 19 จนเล่นต่อไม่ไหวเช่นกัน

ทีมชาติอังกฤษกำลังจะมีเกมกระชับมิตรในเดือนหน้า โดยต้องออกไปเยือนทีมชาติสเปนในวันที่ 13 ก่อนจะกลับมาเล่นในบ้านพบกับทีมชาติฝรั่งเศส ในอีก 4 วันให้หลัง

"ตอนนี้ตัวเลือกเราเริ่มจะเหลือน้อย เพราะอาการบาดเจ็บ" เวนเกอร์กล่าวส่งท้ายแบบเซ็งๆ โดยก่อนหน้านี้ก็มีนักเตะปืนใหญ่ที่ต้องไปนอนโรงหมอถึง 6 คนเข้าไปแล้ว

ที่มา : http://www.bbc.com/sport/0/football/34663242


เลทเกมฉุน!! โวยเอเยนต์ปั่นหัว 'ลูคาคู' ให้ย้ายหนีทอฟฟี่

โรแบร์โต้ มาติเนซ ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน ออกโรงจวก มีโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ของ โรเมลู ลูคาคู หลังออกมาเปิดเผยว่าเขาเตรียมที่จะขายศูนย์หน้าร่างยักษ์ออกจากทีม

ก่อนหน้านี้ ไรโอล่าได้อ้างถึงคำพูดของกุนซือทีมทอฟฟี่ว่าพร้อมจะขายลูคาคูออกไปถ้ามี "ข้อเสนอที่เหมาะสม"

มาติเนซกล่าวว่า "ผมไม่ได้มาอยู่ทีมนี้เพื่อจะทำหน้าที่เอเย่นต์นะ ก็คงไม่เต้นไปตามข่าวลือต่างๆหรอก เราต้องเจอกับสิ่งที่ค้านกับความต้องการของผมมาโดยตลอดในช่วงเปิดตลาดซื้อขาย เพราะงั้นบอกเลยว่าผมแฮปปี้ที่ไม่ต้องไปใส่ใจคำพูดพวกนั้น"

"พวกเอเย่นต์อยากทำอะไรมันก็เป็นสิทธิของเค้า"

"ตอนนี้เราโฟกัสไปที่เกมสุดสัปดาห์กับการพยายามชนะให้มากเท่าที่เราจะทำได้ เห็นการพัฒนาของลูคาคูแล้วก็น่ายินดี เขากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมทีเดียวล่ะ"

"มันสำคัญมากที่เขารักษาการตอบสนองต่อหน้าที่ของตัวเองไว้ได้"

"แต่การจะมาพูดเกี่ยวกับเรื่องย้ายทีมตอนนี้มันดูจะไร้เหตุผลสิ้นดี"

เอฟเวอร์ตันไม่ชนะใครในลีกมาถึงหนึ่งเดือนเต็ม โดยมีโปรแกรมจะพบกับซันเดอร์แลนด์ในวันอาทิตย์นี้

ที่มา : http://www.express.co.uk/sport/football/615813/Everton-Roberto-Martinez-agent-fight-unsettle-Romelu-Lukaku-transfer-news-gossip


'ลายิช' อ้อมแอ้มตอบ ร่วมทัพงูถาวร



อเด็ม ลายิช มิดฟิลด์ตัวกลั่นของสโมสรอินเตอร์ มิลาน ยันยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับการย้ายมาร่วมทีมอินเตอร์แบบถาวร แต่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับโรม่าทีมต้นสังกัดในวันเสาร์นี้แล้ว

ดาวเตะชาวเซิร์บย้ายจากโรม่ามาร่วมทีมเนรัซซูรี่แบบยืมตัวเมื่อต้นฤดูกาลพร้อมออพชั่นการซื้อขาด

ตั้งแต่เปิดฤดูกาล เจ้าตัวเพิ่งได้ลงสนามให้กับอินเตอร์เพียง 4 นัด แต่ก็หวังว่าตัวเองจะมีส่วนร่วมในการพาทีมเอาชนะจ่าฝูง ปัจจุบันทั้งสองทีมมีคะแนนห่างกันเพียง 2 แต้มเท่านั้น

เกี่ยวกับการย้ายมาร่วมทีมงูใหญ่ถาวร ลายิชได้กล่าวกับ Corriere dello Sport ว่า "ผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องอนาคต ผมมาอยู่ที่นี่เพราะ (โค้ช โรแบร์โต้) มันชินี่ต้องการ แถมอินเตอร์เองก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก"

"จบซีซั่นนี้แล้ว เราจะได้เห็นกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง"

"พวกเขา (โรม่า) เป็นยอดทีม มีนักเตะคุณภาพเยี่ยมหลายคนที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ตลอดเวลา พวกเขาแข็งแกร่งมาก แต่เราก็อยู่ไม่ห่างจากเขาเท่าไหร่หรอกนะ"

"เราต้องการจะเอาชนะให้ได้"

ที่มา :http://www.fourfourtwo.com/news/ljajic-coy-talk-permanent-inter-deal#:cWEf5J54jiOOaA


หกนาที สองเม็ด!! กุหลาบหนามแหลมบุกน็อคยูงคาบ้าน



ศึกแชมเปี้ยนส์ชีพคืนวันศุกร์ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส อาศัยความเฉียบคมในช่วงหกนาทีแรกซัดไปสองประตู ก่อนเอาชนะลีดส์ ยูไนเต็ดไปได้แบบไม่ยากเย็น หลังได้ เคร็ก คอนเวย์ ช่วยเบิกสกอร์ให้ทีมออกนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีแรก ก่อนที่ จอร์แดน โร้ดส์ จะมาบวกเพิ่มให้ทีมกุหลาบไฟอีกเม็ดในอีก 5 นาทีถัดมา และสามารถรักษาสกอร์นี้ได้จนจบเกม ส่งผลให้ลีดส์พ่ายคารังเป็นครั้งแรกของฤดูกาล



1' เริ่มเกมไม่ทันไร คอนเวย์ซัดหาย..กุหลาบไฟนำแล้ว
ผ่านไปแค่ 18 วินาที แบล็คเบิร์นขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ลอเรนซ์ครอสบอลมาจากด้านขวา บัมบากองหลังเจ้าบ้านขึ้นโหม่งสกัดแต่บอลดันไปเข้าทางคอนเวย์ ก่อนที่ดาวเตะเลือดสก๊อตจะพักบอลลงหนึ่งจังหวะและซัดเข้าไปจ่อๆ

6' หลังลีดส์ยังขวัญเสีย กุหลาบได้ลูกสอง โร้ดส์บวกเพิ่มนิ่มๆ
หลังเสียประตูเร็ว เกมรับยูงทองยังระส่ำ แล้วก็มาเสียประตูอีกลูก จากจังหวะที่ลอเรนซ์เลี้ยงบอลผ่านนักเตะเจ้าบ้าน ก่อนเปิดเรียดเข้ากลางอย่างเหนือมาให้ จอร์แดน โร้ดส์ หาจังหวะยิงเล่นทางเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 8 ของโร้ดส์ในซีซั่นนี้

12' ยูงทองยังเป๋ เสียฟรีคิกเกือบโดนลูกสาม
แบล็กเบิร์นได้ฟรีคิกจากจังหวะที่อเดเยมี่ไปทำฟาล์วใส่คอนเวย์ คอนเวย์เปิดบอลเข้ามาได้ลุ้น แต่ซิลแวสตร์โกล์ลีดส์ชกบอลออกมาได้ บอลยังไม่พ้นเขตอันตราย อีแวนส์ยิงไปติดกองหลังลีดส์ ก่อนที่นักเตะยูงทองจะช่วยกันเคลียร์บอลจ้าละหวั่น



17' ลีดส์มีฮึด คุ้กได้ซัดนอกกรอบ แต่โกล์กุหลาบยังไม่พลาด
เริ่มจะได้ลุ้นบ้างสำหรับลีดส์ ยูไนเต็ด จากจังหวะที่คุ้กลากเลื้อยมาทางซ้าย และลองยิงไกลจากนอกกรอบ บอลพุ่งมาเข้าซองผู้รักษาประตูทีมเยือน

33' เจ้าบ้านเกือบได้เฮ อันเตนุชชี่ยิงเข้าข้างตาข่าย
เกือบจะเป็นประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ลีดส์ได้ฟรีคิก ผู้เล่นลีดส์โยนเข้าไปในกรอบ ทั้งสองทีมแย่งกันโหม่ง บอลมาเข้าทางดัลลัสที่ดีดต่อให้อันเตนุชชี่วอลเล่ย์ด้วยขวา ลูกพุ่งเสียบเข้าข้างตาข่ายแบบน่าเสียดายสุดๆ

40' อเดเยมี่โหม่งชนเสา ลีดส์ยังตีไข่ไม่แตก
เจ้าบ้านมีโอกาสได้ประตูอีกครั้ง จากจังหวะฟรีคิก ลีดส์เปิดบอลจังหวะแรกเข้าไปติดผู้เล่นแบล็กเบิร์น บอลกลับมาถึงเมอร์ฟี่ เปิดกลับเข้าไปอีกรอบเป็นอเดเยมี่ได้โหม่งแต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสาซะงั้น

HALF TIME

51' ลีดส์แก้เกมเปลี่ยนตัวคนแรก
เจ้าบ้านส่ง จอร์แดน โบตาก้า ลงไปเล่นแทนอเดเยมี่ มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเล็กน้อยโดยโบตาก้าลงเล่นปีกขวา ส่วนคุ้กขยับมาเล่นตรงกลาง



67' กัปตันกุหลาบหัวแตกได้เลือด แบล็กเบิร์นเล่นสิบคนเกือบสิบนาที
จากจังหวะปะทะกัน ทำให้ฮาร์นลี่ย์ กัปตันทีมเยือนบาดเจ็บถึงขั้นหัวแตกต้องออกไปปฐมพยาบาลนอกสนาม แต่แกรี่ โบว์เยอร์ ผู้จัดการทีมใจแข็งไม่ยอมเปลี่ยนตัว เป็นผลให้แบล็กเบิร์นต้องเล่นสิบคนอยู่หลายนาที

75' ฝืนต่อไม่ไหว แบล็กเบิร์นจำต้องเปลี่ยนตัว
สุดท้ายฮาร์นลี่ย์เล่นต่อไม่ไหว และเป็นแม็ทธิว คิลกัลลอน ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงไปเล่นแทน ตอนนี้ทั้งสองทีมกลับมามีนักเตะฝั่งละสิบเอ็ดคนเท่ากันแล้ว

86' ยูงเกือบได้ โบตาก้าได้โขกแต่บอลเฉียดเสา
ช่วงท้ายเกม ลีดส์เกือบมาได้ประตูในจังหวะที่ ดัลลัสประสานงานกับอันเตนุชชี่ก่อนจะเปิดบอลให้โบตาก้าได้โหม่ง บอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว

89' โบตาก้าได้ซัดนอกกรอบถากเสาไปแบบมีลุ้น
เหมือนจะไม่มีดวงซะแล้วสำหรับทีมยูงทอง ก่อนหมดเวลานาทีเดียว โบตาก้าเลี้ยงตัดเข้าใน แล้วส่งให้โมวัตต์ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรอง ซัดจากนอกกรอบ บอลหลุดเสาออกไปตามเคย

FULL TIME

จบเกมแบล็กเบิร์นบุกมาเอาชนะยูงทองไปได้นิ่มๆ สถานการณ์ของกุหลาบไฟกระเตื้องขึ้น ล่าสุดทำอันดับแซงขึ้นไปอยู่ที่ 15 มี 15 แต้ม ส่วนลีดส์ร่วงลงมาอยู่อันดับ 19 มี 13 แต้ม โดยทั้งสองทีมลงแข่งไป 14 นัดเท่ากัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลีดส์ ยูไนเต็ด
ซิลแวสตรี้, บายรัม, บัมบา, คูเปอร์, อันเตนุชชี่, เมอร์ฟี่ย์, วู๊ด(ดูคาร่า 69'), ดัลลัส, คุ้ก(โมวัตต์ 85'), อเดเยมี่ (โบตาก้า 51'), เบราดี้

สำรองไม่ได้ลงสนาม : ฮอร์ตัน, เบลลุซซี่, วู๊ดตัน, บัคลี่ย์
ใบเหลือง : บัมบา
ผู้จัดการทีม : สตีฟ อีแวนส์

แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส
สตีลล์, มาร์แชลล์, ฮาร์นลี่ย์ (คิลกัลลอน 75'), ดัฟฟี่, โอลส์สัน, อั๊กปาน, ลอเรนซ์ (เดลฟูเนโซ่ 74'), คอนเวย์, อีแวนส์, เทย์เลอร์ (โอซัลลิแวน 88'), โร้ดส์

สำรองไม่ได้ลงสนาม : รายา, เฮนรี่, วิลเลี่ยมสัน, สเปอร์
ใบเหลือง : อีแวนส์, คอนเวย์
ผู้จัดการทีม : แกรี่ โบว์เยอร์

HILIGHT ลีดส์ ยูไนเต็ด 0 - 2 แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส













0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 292
ที่อยู่: Theatre of Dreams
โพสเมื่อ: Mon Nov 02, 2015 10:40 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
'อิคาร์ดี้'ทะเลาะหนัก'มันโช่' ส่อลารูงูเร็วๆนี้



หัวหอกเจ้าปัญหา เมาโร อิคาร์ดี้ สถานการณ์ไม่ค่อยจะสู้ดี ใกล้ถึงจุดแตกเต็มที หลังมีปัญหากับ โรแบร์โต้ มันชินี่ เฮดโค้ชทีมเจ้างูใหญ่อินเตอร์ ที่ตนสังกัดอยู่

โดยล่าสุด ในเกมส์บิ๊กแมตช์ กับโรม่า ที่อินเตอร์เปิดบ้านชนะ 1-0 อิคาร์ดี้มีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง ซ้ำร้ายไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว ทำให้เกิดกระแสอย่างหนาหูว่าเจ้าตัวคงไม่มีอนาคตในถิ่นจูเซปเป้ เมอัซซ่าอีกต่อไป เพราะมีปัญหากับ'มันโช่'นั่นเอง

ด้านอิคาร์ดี้ซึ่งมีสัญญากับทีมต้นสังกัดถึงปี2019 ต้องมองหาทางออก โดยมีข่าวว่า โมนาโก, ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด รออุปการะอยู่ โดยเฉพาะในรายของ 'ราชันชุดขาว' ที่หวังซื้อในซัมเมอร์หน้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นไปได้เช่นกัน ที่เจ้าตัวจะพิจารณาทุกข้อเสนอที่เข้ามา ในช่วงตลาดซื้อขายหน้าหนาวที่จะถึงนี้


ชื่อนี้ดีสะอาดหมดจด! เอาก์สบวร์กเล็งดูด'ซาไล'ค้ำหน้า



เอาก์สบวร์ก เตรียมหากองหน้าใหม่ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายหน้าหนาว โดยสนใจใช้บริการอดัม ซาไล จากฮอฟเฟนไฮม์ สโมสรร่วมลีก

ในรายของ อดัม ซาไล ที่อดีตเคยเล่นมาให้กับหลายสโมสรใหญ่ รวมถึงเป็นตัวหลักให้กับทีมชาติฮังการี่ เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร โดยผ่านประสบการณ์เล่นทีมเยาวชนกับเรอัล มาดริด ไล่ขึ้นมาถึงไมนซ์, ชาลเก้ 04 และล่าสุดกับ ฮอฟเฟนไฮม์

โดยล่าสุด เจ้าตัวที่พึ่งจะย้ายมาร่วมทีม ฮอฟเฟนไฮม์ ได้แค่ฤดูกาลเดียว รวมถึงมีสัญญากับทีมต้นสังกัดถึงปี2018 เหมือนจะได้ชีพจรลงเท้าอีกรอบ มีข่าวชัดเจนว่าเตรียมแพ็คกระเป๋า สถานีต่อไปที่เอาก์สบวร์ก แคว้นบาวาเรีย ราคาซื้อขาย 4ล้านยูโร จากรายงานของแหล่งข่าวเมืองเบียร์ ligainsider.de



อยู่ไปก็ไม่ได้ลง! 'โปลี่' เตรียมชิ่งมิลานไปโบโลญญ่า



อันเดรีย โปลี่ กองกลางหนุ่มรูปงาม เตรียมเก็บข้าวของย้ายไปร่วมทัพโบโลญญ่า น้องใหม่เซเรียอา แบบสัญญายืมตัว หลังชีวิตไม่มีความสุขกับต้นสังกัด เอซี มิลาน

อดีตมิดฟิลด์ตัวปั้นเกมส์จากซามพ์โดเรีย วัย 26ปี ได้ย้ายเข้ามาค้าแข้งกับมิลานตั้งแต่ ฤดูกาล 2013-14 แต่ก็หาจุดลงตัวไม่ได้มาตลอด ในซานซิโร่ ไม่ว่าจะเปลี่ยนโค้ชมา จนถึง มิลานในยุคของซินิซ่า มิไฮโลวิชก็แล้ว เขาก็ยังมีปัญหา ในเรื่องไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากเท่าที่ควร ส่งผลให้เจ้าตัวหลุดจากวงจรทีมชาติมาพักใหญ่แล้วด้วย

แต่จากรายงานข่าวล่าสุด เป็นทางด้านของ โบโลญญ่า ที่แสดงความสนใจยืมตัวมาใช้งานในช่วงตลาดหน้าหนาวที่ใกล้เข้ามา โดยโปลี่นั้นมีสัญญาอยู่กับมิลานจนถึงปี 2017 และค่าตัวอยู่ที่ราวๆ6.5ล้านยูโร

ซึ่งแนวโน้มที่เจ้าตัวจะตอบรับก็มีสูง เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการได้ติดทัพอัซซูรี่ ไปลุยยูโร2016 นั่นเอง




++ขอบคุณครับ










0
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 2112
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 05, 2015 12:23 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
หายไม่ทัน!!! สื่อระบุ "หน้าลิง" ส่อหลุดทีมชาติ

ถอนหายใจเห้อกันเลยทีเดียว ทั้งๆที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้แท้ๆว่าน่าจะถูกเรียกตัวติดทีมชาติ แต่ล่าสุดมีรายงานออกมาแล้วว่าแกเรธ เบล จะไม่ติดทีมชาติ สำหรับเกมส์ปะทะกับเนเธอร์แลนด์



นับตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ที่เรอัล มาดริด มีชัยชนะเหนือเลบันเต้ เบล ปีกหน้าลิง ก็ไม่ได้ลงสนามให้กับต้นสังกัดปัจจุบันของเขาอีกเลย แถมในเกมส์ดังกล่าว ยังโดนเปลี่ยนตัวออกจากทีมในช่วงพักครึ่งอีกต่างหาก เนื่องจากเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บนั้นเอง

อาการบาดเจ็บที่น่องไม่สามารถรักษาให้หายได้ทันเวลา ส่งผลให้คริส โคลแมน นายใหญ่ของทีมชาติเวลล์ ชวดหนีบแข้งรายนี้ไปด้วย ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้ต่างตัดสินใจร่วมกันว่าจะไม่เรียกตัวเบล ติดทีมไป ถึงแม้ว่าในสุดสัปดาห์นี้ เขาอาจจะกลับมาซ้อมได้แบบเบาๆก็ตาม



http://www.football-espana.net/54915/no-bale-wales-squad


คิดถึงวงการ!? ลิปปี้รับเฮียพลาดไปแล้วที่ประกาศรีไทร์

คิดถึงน้าจัง มาร์เซโล่ ลิปปี้ อดีตผู้จัดการทีมอิตาลี่ ออกมากล่าวยอมรับว่าการตัดสินใจรีไทร์ของเขา ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาด โดยอาจจะรับงานกับสโมสรใด สโมสรนึงในอิตาลี่



นับตั้งแต่ประกาศลาออกจากกวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ลิปปี้ ก็ไม่ได้คุมทีมไหนอีกเลย ซึ่งเจ้าตัวก็ถึงกับเอ่ยปากออกมาว่าพร้อมพิจารณาหมด ไม่ว่าจะงานทีมชาติ หรืองานสโมสร เรียกว่าอายุไม่เกี่ยวข้องกันเลยทีเดียว

"ทุกๆลีกเลย จะลีกเล็ก หรือจะอิตาลี่ ก็มีบางสิ่งที่น่าสนใจมากขึ้น"

"โค๊ชหลายๆคนก็เตรียมตัวกันได้ดีขึ้น ทีมผู้ตัดสิน และผู้เล่น ก็เตรียมตัวดีขึ้นเหมือนกัน"

"ผมจะกลับไปข้างสนามรึป่าว? ทำไมล่ะไม่ล่ะครับ? ผมไม่ใช่คนที่เปลี่ยนใจอะไรง่ายๆ แต่ผมตระหนักรู้อยู่ว่าผมทำพลาดไปแล้ว ผมคิดอยู่นะว่าตอนไปคุมทีมที่จีน คงอีกไม่นานแล้วล่ะ ที่ผมจะต้องการฟุตบอล แต่จริงๆแล้วนะ ผมแค่ไม่อยากจากประเทศของผมไปไหน และได้กลับบ้านเพียงแค่ทุกๆ 5 เดือนเท่านั้น"

"ผมดูหลายๆเกมส์เลยนะ ผมยังต้องการฟุตบอล และผมสามารถกลับไปที่ข้างสนามได้"

ลิปปี้ ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในการคุมทีมยูเวนตุส ไม่ว่าจะสคูเดตโต้ 5 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก อีก 1 สมัย


http://www.football-italia.net/75299/lippi-%E2%80%98i-could-return-coaching%E2%80%99


สาวกว่าไง? โซล่าเผยฝันเป็นจริง หากได้คุมสิงห์


สาวก "สิงห์บลู" จะรู้สึกยังไงกันล่ะคราวนี้ เมื่อจิอันฟรังโก้ โซล่า อดีตปีกความเร็วสูงของเชลซี ออกมายอมรับว่าเหมือนฝันที่เป็นจริง หากเขาได้คุมเชลซี แต่ถึงกระนั้น เจ้าตัวก็ยังคิดว่าโฆเซ่ มูริญโญ่ ควรได้เวลามากกว่านี้



แชมป์เก่า กำลังรั้งอยู่ในอันดับ 15 แพ้ 6 เกมส์ จาก 11 เกมส์แรก แถมผลงานในฟุตบอลถ้วยก็ไม่ดีนะ เมื่อชิงตกรอบแคปิตอล วัน คัพ ไปตั้งแต่ไก่โห่ ส่วนผลงานในฟุตบอลยุโรป ก็รั้งอยู่ในอันดับที่ 3

ความพ่ายแพ้ต่อดินาโม เคียฟ ในคืนนี้ อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายของสโมสรกับมูริญโญ่ แต่ถึงอย่างนั้นโซล่า ก็แนะนำสโมสรเก่าของเขาว่าควรยืนอยู่เคียงข้างกับชายผู้มีฉายา "เดอะ สเปเชียล วัน" ผู้นี้

"มันเจ็บปวดมากเลยครับ เพราะคุณเองก็คงไม่ต้องการเห็นทีมอย่างเชลซี ต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบที่ผ่านมาหรอก"

"ผมรู้สึกเหมือนสโมสร แฟนๆ และผู้จัดการทีม แต่ผมยังเชื่อมั่นในทีม สโมสร และโค๊ช ว่าจะพาสโมสรหลุดจากตำแหน่งตรงนี้ซักที"

"ถ้าเราพูดถึงความทะเยอทะยานของผมแล้ว การได้คุมเชลซี ซักวันนึงในอนาคต มันคือความฝันของผมเลยนะ"

"อย่างไรก็ตาม ผมว่านะตราบใดก็ตามที่กลุ่มคนเหล่านี้ในสโมสรอยู่ด้วยกัน มันเป็นไปได้มากๆเลยที่พวกเขาจะหาทางแก้ปัญหาของพวกเขาได้"

โซล่า มีประสบการ์ณในยุโรปล่าสุดกับกายารี่ โดยปัจจุบันนี้กุนซือวัย 49 ปี กำลังคุมทีมในกาตาร์ ให้กับอัล อราบี อยู่


http://gazzettaworld.gazzetta.it/news/zola-love-coach-chelsea/[/img]
0
0
เชียร์ลิเวอร์พูล ขวัญใจแอต.มาดริด รักนาโปลี บุกเบิกแฟนบอลนาโปลีในไทย lllllllll เหยิน แม่งเทพ

เข้าร่วม: 27 Nov 2013
ตอบ: 12
ที่อยู่: Florence, Italy
โพสเมื่อ: Thu Nov 05, 2015 6:14 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
อีกหนึ่งผลงานการรายงาน ผลฟุตบอล จากอินทรีทอง นะครับ ขอรับไว้พิจารณาด้วยครับ

คืนสยองที่ถ้ำเสือ!!! บาเยิร์นถลุงปืนหมดสภาพ 5-1

เกมในบ้านของบาเยิร์น มิวนิค ยังคงเชื่อใจได้เสมอว่าชนะขาดลอยแน่นอน และเกมนี้ก็เช่นกัน ที่ออกนำเร็วตั้งแต่สิบนาทีแรกจากเลวานดอฟสกี้ หลังจากนั้นก็ครองบอลเหนือกว่าทั้งเกม ก่อนที่จะถล่ม ทีมปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ไป ห้าประตู ชนิดกลับลอนดอนกันไม่ถูกเลยทีเดียว พร้อมกับครองตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่มไว้ต่อไป


ฟุตบอล ยูฟ่า แชมปืเปี้ยนส์ ลีก

สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2558


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม:

บาเยิร์น มิวนิค: นอยเออร์, ลาห์ม (C), บัวเต็ง (เบนาเตีย 68'), มาร์ติเนซ, อลาบ้า, อลอนโซ่, ติอาโก้ อัลคันตาร่า, โกมอง (ร็อบเบน 54'), มุลเลอร์, คอสต้า, เลวานดอฟสกี้ (วิดัล 72')

สำรองไม่ได้ลงสนาม: อูลริช (ผู้รักษาประตู), ราฟินญ่า, บาสตูร์เบอร์, คิมมิช

อาร์เซน่อล: เช็ค, เดอ บูชี่, แมร์เตซัคเคอร์ (C), กาเบรียล, มอนเรอัล, โกเกอแลง, กาซอร์ล่า (แชมเบอร์ส 87'), โอซิล อเล็กซิส, แคมป์เบลล์ (กิ๊บส์ 59'), ชิรูด์ (ไอวอบี 85')

สำรองไม่ได้ลงสนาม: มาซี่ (ผู้รักษาประตู),, กอสเซี่ยลนี่, ฟลามินี่, ไรเน่-อเดลาร์ด

ทีมเสือใต้วันนี้หวังล้างตาจากเกมที่แล้ว จัดแนวรุกมาเต็มทั้ง คอสต้า, มุลเลอร์ และ โรเบริต เลวานดอฟสกี้ ลงกันครบครัน ส่วนปืนใหญ่ขาดผู้เล่นที่บาดเจ็บไปหลายราย แต่ตัวหลักๆของทีมอย่าง เมซุต โอซิล และ อเล็กซิส ซานเชสก็ยังอยู่กันพร้อมหน้า

1' ปืนใหญ่เริ่มต้นคึกคัก
อาร์เซน่อลเริ่มเกม ได้ดี ทักทายเจ้าบ้านก่อน เริ่มจากจังหว่ะที่ต่อบอลเร็วขึ้นมาทางซ้าย มาถึงชิรูด์ ได้ ด้วยซ้ายแต่บอลบดออกหลังไป

7' เสือใต้ตอบโต้บ้าง
เริ่มเกมส์มาทั้งสองทีมยังเล่นกันค่อนข้างรัดกุม คราวนี้เป็นเจ้าบ้านต่อบอลกันไปมาก่อน อลาบาได้สับไกจากนอกกรอบ ต่ไม่มีปัญหาสำหรับปีเตอร์ เช็ครับสบาย


10' Goaaallll!!!!เลวานแผลงฤทธิ์ เสือใต้ออกนำ
แนวรับอาร์เซน่อลพลาดให้ เลวานดอฟสกี้หัวหอกตัวอันตราย ทะลุกับดักล้ำหน้า แล้วโหม่งบอลจากการจ่ายสุดสวยของติอาโก้ เข้าไปอย่างง่ายดาย เจ้าบ้านขึ้นนำอย่างว่องแล้ว เป็นประตูที่สี่ของเลวานในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีกด้วย

11' ปืนใหญ่เกือบตีเสมอทันควัน
อาร์เซน่อลรีบตั้งเกมอย่างรวดเร็วหลังเสียประตูไป โดยอเล็ดซิสเล่นกับมอนเรอัลทางซ้าย ก่อนที่มอนเรอัลจะไปสุดเส้นหลังแล้วตบกลับมาให้โอซิล กระแทกบอลเข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินไม่ให้ประตูพร้อมกับแจกใบเหลืองให้ โอซิล เนื่องจากเป็นการใช้แขนทำประตู ทำให้อาร์เซน่อลพลาดโอกาสตามตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย

16' บาเยิร์นเริ่มครองเกมส์
ทีมเสือใต้เริ่มได้ขึงเกมในแดนของอาร์เซน่อล และมาได้ยิงสองจังหว่ะซ้อนๆกันจาก เลวานดอฟสกี้ ได้ปั่นจากหน้ากรอบเตโทษแล้วปีเตอร์ เช็คปัดออกไป ก่อนที่จะมาได้โหม่งบอลอีกครั้งจากจังหวะเตะมุม แต่ก็ยังไม่ผ่านนายทวารปืนใหญ่

25' ปืนใหญ่ชักแย่ แคมป์เบลล์โดนเหลือง
อาร์เซน่อลมาโดนใบเหลืองคนที่สอง จากโจเอล แคมป์เบลล์ ที่ไปกระแทกตัดเกมใส่อลาบา จนผู้ตัดสินมองว่าเป็นฟาล์วรุนแรง แจกใบเหลืองให้ไป เสียฟรีคิกให้ อลอนโซ่ได้เปิดบอลเข้ามา กองหลังอาร์เซน่อลเคลียร์ออกไปได้ไม่มีปัญหา


29' ไปซะแล้ว มุลเลอร์โผล่มายิงหาย 2-0
หลังจากที่ขึงเกมข้างเดียวมาได้พักใหญ่ บาเยิร์นก็มาได้ประตูทิ้งห่างจนได้ ฟิลิป ลาห์มได้บรรจงเปิดจากทางขวา มาที่โกมองยิงไม่เต็มบอลเลยไปถึง มุลเลอร์ที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา ซัดด้วยซ้าย ตุงตาข่ายเข้าไปอย่างหมดจด

31' สองลูกก็ยังไม่สาสม!!!พี่เสือมาอีกชุด
เหมือนเสือใต้จะเก็บกดจากความพ่ายแพ้ในแมตช์ที่แล้ว หลังขึ้นนำสองลูกก็ยังคงเดินเกมรุกเต็มสูบ คราวนี้เป็น ดั๊กกลาสคอสต้า ปีกบราซิลเลี่ยนตัวจี๊ด เลี้ยงบอลหลอกล่ออยู่ทางกราบขวา ก่อนโยกหลบมอนเรอัลเข้าใน แล้วยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งวาบ ผ่านหน้าประตูไปแบบได้เสียว

40' พี่เสือพับสนามเล่นแล้ว
ลาห์มสบโอกาสพาบอลขึ้นมาทางขวาก่อนจ่ายตามช่องให้มุลเลอร์ ที่วิ่งสอดขึ้นมาได้ยิงอีกครั้ง ไปเข้ามือปีเตอร์ เช็ครับสบาย

42' ปืนใหญ่ไม่ได้หายใจหายคอ มุลเลอร์ได้จบอีก
เป็นผู้เล่นที่หาช่องทำประตูได้เก่งจริงๆสำหรับ โธมัส มุลเลอร์ โดยหาจังหว่ะยิงได้อีกครั้งจากการ สกัดไม่ดีของกองหลังอาร์เซน่อล แต่ก็เป็นปีเตอร์ เช็ค ที่ปฏิกิริยายอดเยี่ยม ปัดไว้ได้


44' อลาบาซัดสุดงาม 3-0 พูนสวัสดิ์
บาเยิร์นยังคงขึงเกมอยู่ในแดนของอาร์เซน่อลเช่นเดิม ต่อบอลกันไปมา คราวนี้เป็นอลาบาที่ขยับดันขึ้นไปอยู่ตรงกลางสนามปั๊มบอลมาจากกาซอร์ล่า ก่อนได้โอกาสยิงปั่นไซส์ บอลพุ่งผ่านเช็ค มุดเข้าสามเหลี่ยมแบบสุดงาม และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

Half Time

50' รูปเกมเหมือนเดิม เสือขย้ำปืน
เข้าสู่ครึ่งหลังก็ยังคงเป็นบาเยิร์นที่บุกเข้าใส่ มาได้จังหว่ะจบอีกจากเกมโต้กลับเร็ว มุลเลอร์จ่อยออกไปให้ทางซ้ายมาถึงโกมอง เลี้ยงยึกยักก่อนที่จะยิงออกไป

52' คอสต้าได้ยิงแต่ไม่ผ่านโกเกอแลง
ดั๊กกลาส คอสต้าได้ยิงอีกครั้งจากความสามารถเฉพาะตัว ที่พาบอลจากริมเส้น ตัดเข้ามายิงด้วยซ้ายข้างถนัด แต่โกเกอแลงที่ยืนอยู่ตรงนั้นรีบเข้ามาบล็อกไว้ได้ทัน


55' พี่เสือยิงไม่เลี้ยง ปืนสลบ 4-0
บาเยิร์น มิวนิคได้ประตูทิ้งห่างไปอีก จากคอสต้าที่วันนี้เล่นได้วูบวาบทำชิ่ง หนึ่งสองกับ อลาบาทางซ้ายก่อนแบ๊คซ้ายออสเตรีย จะตบเข้ากลางให้ร็อบเบน ที่เพิ่งลงมาได้ไม่ถึงนาที แปบอลเสยเพดานตาข่ายเข้าไปอย่างเด็ดขาด เป็นประตูแรกในรอบปีกว่าของปีกชาวดัตช์ในเกมแชมป์เปี้ยนส์ ลีกด้วย

57' ปืนใหญ่เพิ่งได้ตั้งเกม
อาร์เซน่อลเริ่มโงหัวตั้งเกมบุกขึ้นมาได้บ้าง หลังบาเยิร์นเริ่มผ่อนเกม จากเกมสวนกลับเร็ว กาซอร์ล่าได้บอลทะลุจากตรงกลางสนามหลุดเดี่ยวเข้าไปเผชิญหน้ากับนอยเออร์ แต่ก็ยังไม่ผ่านนายทวารทีมชาติเยอรมันไปได้อยู่ดี

61'มอนเรอัลพุ่งจับกบ
ทีมปืนใหญ่เริ่มมีช่วงเวลาได้บุกกันบ้างแล้ว คราวนี้เป็น นาโช่ มอนเรอัล ไหลบอลไปให้กับชิรูด์ แตะบอลคืนให้มอนเรอัล ในเขตโทษ แบ๊คสแปนิชแตะบอลไปหนึ่งครั้งก่อนจะพุ่งล้มหวังเอาจุดโทษ แต่กรรมการยังเฉยๆ โชคดีมากที่ผู้ตัดสินไม่ให้ใบเหลืองในจังหว่ะนี้

68' บาเยิร์นเริ่มพักตัวหลัก
ทีมเสือใต้เริ่มใช้การเปลี่ยนตัวให้พวกที่หายเจ็บได้ลงมายืดเส้นยืดสายกันบ้าง โดยคราวนี้ส่ง เบนาเตียที่เพิ่งหายเจ็บลงมาแทนที่ เจโรม บัวเต็ง


69' ปืนใหญ่ตีไข่แตกดังโผละ!!!หล่อเหลายิงสวย
โอลิวิเยร์ ชิรูด์ วอลเลย์ทำประตูได้อย่างสุดสวย เริ่มมาจากอเล็กซิส หยอดบอลเข้ามาให้ชิรูด์ พักอกหนึ่งจังหว่ะก่อนฟาดบอลผ่านนอยเออร์เข้าไปอย่างสะใจ อาร์เซน่อลตามมาไกลๆแล้ว 4-1

73' หัวไข่เริ่มโชว์ออฟตามสไตล์
อาร์เยน ร็อบเบนมาได้จังหว่ะโซโล่ลากเลื้อยตามถนัดทางขวา เลี้ยงจี้เข้ามาก่อนจะซัดด้วยขวา ไปตรงตัวปีเตอร์ เช็ค ทุบบอลออกไปได้

77' ปืนใหญ่เกือบได้ลูกสอง
อาร์เซน่อลมาเริ่มได้บุกเมื่อสาย ฟรานซิส โกเกอแลงได้ตะลุยมาทางขวก่อนที่จะเปิดบอลให้กาซอร์ล่า ได้ยิงโล่งๆ แต่ดาวเตะสแปนิชวางเท้าไม่ดีทำให้ลูกนี้เสียของ ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

83' พี่เสือเหนือกว่าทุกประตู เกือบได้ลูกห้า
ร็อบเบนได้หลุดเดี่ยวจากกลางสนาม มาดวลกับปีเตอร์ เช็คแล้วก่อนแตะหลบไป แต่เดอบูชี่ แบ๊คขวาอาร์เซน่อลยังใจสู้ วิ่งตามมาสกัดบอลออกหลังไปได้ทัน อาร์เซน่อลรอดจากการเสียประตูไปได้อย่างหวุดหวิด

87' อาร์เซน่อลทะยอยพักตัวหลัก
อาร์แซน เวนเกอร์ ถอดตัวหลักอย่าง กาซอร์ล่าและชิรูด์ ที่จะมีเกมสำคัญในวันอาทิตย์นี้กับสเปอร์ส ออกแล้วส่งพวกดาวรุ่งอย่าง คัลลั่ม แชมเบอร์ส และ เจ้าหนู ไอวอบี วัยสิบเก้าปี ให้ได้โอกาสประเดิมสามเกม แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรก


89' ของเค้าแรงจริง!!!มุลเลอร์ ซัดอีกพาเสือใต้ลอยลำ
บาเยิร์น มิวนิคยังกระหายประตูไม่เลิก เมื่อได้โอกาสสวนกลับเร็วก้ไม่รอช้า พาบอลขึ้นมากันแค่สองคน ก่อนที่จะเป้นมุลเลอร์ ได้จังหว่ะยิงบอลโค้ง หนีมือปีเตอร์ เช็ค เข้าไปเป้นประตูที่ห้าของทีม และเป้นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้

90+3' จบเกม บาเยิร์น มิวนิคเปิดบ้านถล่มอาร์เซน่อลไปแบบยับเยิน 5-1 เป็นการล้างตาจากเกมที่แล้ว พร้อมโอกาสสดใสที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป ส่วนอาร์เซน่อลจ่อตกรอบแบ่งกลุ่มครั้งแรกในรอบหลายปี
0
0
When you believe it, You can archieve it!!!
เข้าร่วม: 02 Feb 2009
ตอบ: 42
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 05, 2015 11:38 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
สนใจแหะ กำลังว่างงานเลย
0
0
เข้าร่วม: 24 Jul 2009
ตอบ: 15
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 09, 2015 11:38 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
แปลข่าวครับ

Spoil
#SaveMourinho เปเญฯออกตัวบอกไม่เข้าใจความอดทนของเจ้าของทีม

มานูเอล เปเญกรินี่ได้ออกมากล่าวถึงความอดทนของเจ้าของทีมทั้งหลายในพรีเมียร์ลีก ดั้งเช่นที่เกิดขึ้นกับโจเซ่ มูรินโญ่ในขณะนี้

โดยภายหลังจากความพ่ายแพ้ของเชลชีในวันเสาร์ที่ผ่านมาทำให้มีข่าวมากมายเกี่ยวกับการพิจารณาตำแหน่งผู้จัดการทีมของโจเซ่ มูรินโญ่ แม้จะพาทีมเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกและลีกคัพในปีล่าสุดก็ตาม

ซึ่งเปเญกรินี่มองว่าตำแหน่งของตนเองก็คงถูกพิจารณาเหมือนกันหากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ล้มเหลวในการป้องกันแชมป์ ซึ่งมีการคาดการณ์เชื่อมโยงไปถึงเป๊ป กวาดิโอล่าในการเข้ามารับช่วงต่อในตำแหน่งผู้จัดการ

"ทุกๆวันผมอ่านไปเจอข่าวว่าเชลชีจะปลดมูรินโญ่" เปเญกรินี่ให้สัมภาษณ์หลังเกมที่เสมอกับแอสตันวิลล่า

"มันเกิดขึ้นกับฟานกัลและผมด้วยเหมือนกัน"

"ทุกสิ่งเปลี่ยนไปและผมไม่เข้าใจว่าทำไมบรรดาเจ้าของทีมถึงใจร้อนกันเหลือเกิน ถ้าผมเป็นเจ้าของน่ะ ผมเลือกที่จะให้ผู้จัดการทีมอยู่กับทีมไป 3 ปีและรอจนกว่าสัญญาจะหมดลง และค่อยมาตัดสินใจอนาคตกันอีกที"

"หลายๆปีก่อนในอังกฤษ สโมสรมากมายในฟรีเมียร์ลีกมีความอดทนในตัวผู้จัดการทีม"

"แต่นั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว และมันไม่ได้ยากสำหรับแค่ผู้จัดการทีมหนุ่มๆ มันยากต่อผู้จัดการทีมทุกคน ซึ่งการที่คุณสามารถอยู่กับทีมอย่างยาวนาน มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้จัดการและสโมสร"

"ดูอย่างอาร์แซน เวนเกอร์สิ เค้าทำงานมาอย่างยาวนาน และนั้นทำให้สโมสรของเค้าพัฒนามากขึ้น"


ที่มา http://www.goal.com/en/news/1862/premier-league/2015/11/08/17121372/pellegrini-defends-mourinho-i-dont-understand-owners?ICID=HP_TS_1  


Spoil
ยังไง!โรนัลโด้ออกตัวเอง อยากไปเล่นที่ MLS

ดาวยิงวัย 30 ปีได้ออกมากล่าวว่าตนยังเปิดโอกาสที่จะไปเล่นในทุกๆที่ของโลก รวมไปถึงอเมริกาก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ท่ามกลางรายงานความสนใจจากปารีส แซงต์ แชร์กแมงและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

คริสติอาโน่ โรนัลโด้ออกมายอมรับว่าตัวเขาเองมี"ความคิดที่ชัดเจน"ในการย้ายออกไปเล่นที่ Major League Soccer ในซักปีหนึ่ง แม้จะมีรายงานว่าจอร์จ เมนเดส เอเยนต์ชื่อดังออกมาบอกว่าดาวเตะคนนี้จะแขวนสตั๊ดที่เบอร์นาบิวก็ตาม

โดยโรนัลโด้ซึ่งมีข่าวเชื่อมโยงกับปารีส แซงต์ แชร์กแมงและสโมสรเก่าของเขา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงแม้ว่าเมนเดสจะออกมาบอกว่าโรนัลโด้นั้นจะยุติค้าแข้งกับเรอัล มาดริดอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามดาวยิงชาวโปรตุเกสออกมาพูดถึงการตัดสินใจพิจารณาข้อเสนอต่างๆจากสโมสรทั่วโลก รวมไปถึงการไปเล่นในอเมริกาซักปี ซึ่งเหมือนอย่างที่เบคแฮม อองรี เจอร์ราด แลมพาร์ด และปีร์โล่ ย้ายไปเล่นในปีที่ผ่านๆมา นั้นดูน่าสนใจและดึงดูดมาก

"ผมไม่ปิดประดูในการย้ายไปเล่นในลีกต่างๆที่ใดก็ตามในโลก" โรนัลโด้บอกกับ FHM Magazine

"ผมมีความคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการย้ายไปเล่นในอเมริกาในซักปีหนึ่ง ผมพูดอยู่เสมอว่าการย้ายไปอยู่และเล่นที่นั้นมันมีความเป็นไปได้"

โรนัลโด้ซึ่งย้ายออกจากโอลแทรฟฟอร์ดมายังมาดริดในปี 2009 ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ได้พูดถึงวิธีที่เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสันและบรรดาเพื่อนร่วมทีมยูไนเต็ดช่วยให้เขากลายเป็นนักเตะเช่นวันนี้ได้

"ที่นั้นผมได้รับการดูแลเหมือนลูกได้รับการสั่งสอนที่ดีจากพ่อ"

"ผมมีช่วงเวลาที่เหลือเชื่อที่นั้น ผมยังคงติดต่อกับริโอ นานี่ แอนเดอร์สัน เนมานย่า ปาทริซ และกับไรอัน ซึ่งตอนนี้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมไปแล้ว ผมมีความทรงจำที่วิเศษมากมาย"

กองหน้ามาดริดยังได้กล่าวถึงสโมสรอื่นๆในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษเกี่ยวกับแฟนบอลในอังกฤษ

"พวกเขาเหลือเชื่อ สำหรับผมพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ดีที่สุดในโลก พวกเขาสุภาพ เคารพคุณ กระตุ้นคุณ และพวกเขาเชียร์คุณอยู่ ผมรักพวกเขาน่ะ"


ที่มา http://www.goal.com/en/news/722/la-liga/2015/11/06/17067402/ronaldo-id-like-to-play-a-year-in-mls?ICID=HP_TS_14  


Spoil
ราคาขึ้นแล้ว!มาร์ติเนซลั่นตอนนี้ราคาลูกากู 55 ล้านปอนด์

โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตันได้แสดงความคิดเห็นถึงราคาตอนนี้ของโรเมลู ลูกากูคือ 55 ล้านปอนด์ ภายหลังจากที่สามารถทำประตูในเกมเสมอกับเวสแฮมเมื่อวันเสาร์

ลูกากูซึ่งทำประตูไปแล้ว 7 ลูกในฤดูกาลนี้และช่วยให้เอฟเวอร์ตันมาแบ่งแต้มในถิ่นอัพตัน พาร์คของเวสแฮมได้ โดยกองหน้าวัย 22 ปีนั้นกำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ท่ามกลางข่าวลือมากมายที่เกี่ยวกับการย้ายทีมของเขา

อย่างไรก็ตามเอฟเวอร์ตันเคยจัดการในเคสของจอร์น สโตนส์ที่ได้รับความสนใจจากเชลชีเป็นอย่างมากเมื่อต้นฤดูกาลมาแล้ว โดยมาร์ติเนชก็คงทำแบบนั้นกับลูกากูเช่นกัน

"หลังจากวันนี้เขามีค่าตัว 55 ล้านปอนด์!" มาร์ติเนชบอกกับนักข่าวภายหลังจากที่ Quizzed ได้รายงานว่าค่าตัวของลูกากูอยู่ที่ 45 ล้านปอนด์

"ปัญหาจริงๆมันอยู่ที่เมื่อประธานหรือเจ้าของสโมสรพูดว่า พวกเราต้องการเงินในการเซ็นสัญญาผู้เล่น 2 ถึง 3 คน แต่สถานการณ์นั้นไม่เกิดขึ้นกับเอฟเวอร์ตัน"

"เขาต้องการทำลายสถิตินะ เขามีเป้าหมายของเขาคือโทนี่ คอททีซึ่งในปี 1993 เป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่ทำ 20 ประตูในหนึ่งปีให้กับสโมสร"

"เขายิงให้สโมสรไปแล้ว 21 ประตูและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาอยากที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นที่สุดของโลกนะ"

นัดต่อไปของลูกากูกับการเล่นให้เอฟเวอร์ตันจะเปิดบ้านพบกับแอสตัน วิลล่า หลังจากกลับมาจากการรับใช้ทีมชาติในการแข่งขันกระชับมิตรกับอิตาลิและสเปน
 


รายงานผลบอลครับ

Spoil
ลงเป็นยิง!ลากาแซตต์ชัดแฮตทริกพาลียงคว้าชัยเหนือแซงต์ เอเตียน

โอลิมปิก ลียงต้องเปิดบ้านทำศึกดาร์บี้แมตซ์กับแซงต์ เอเตียนในนัดนี้ โดยกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาโอลิมปิก ลียงเปิดบ้านพ่ายให้กับเซนิตไป 0-2 โอกาสเข้ารอบแชมป์เปี้ยนลีกค่อนข้างน้อย แม้นัดนี้เจ้าบ้านจะขาดกำลังหลักหลายคนเนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ฟอร์มในลีกยังคงสม่ำเสมอ นัดนี้ก็เช่นกันโดยได้ลากาแซตต์กลับมาฟอร์มเดิมซัดแฮตทริกพาเจ้าบ้านเอาชนะไปได้

ลีกเอิง ฝรั่งเศส

สนาม : สตาด เดอร์ เฌอร์ล็อง,ลียง

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2558

โอลิมปิก ลียง 3 : 0 แซงต์ เอเตียน

ประตู :
1-0 ลากาแซตต์ น.41, 2-0 ลากาแซตต์ น.59, 3-0 ลากาแซตต์ 90' +3'

ครึ่งแรก

เจ้าบ้านทักทายก่อน รุฟฟิเยร์ยังเหนียว
นาที 8 โอกาสที่น่าจะได้ประตูมากที่สุดเกิดขึ้นจากทางขวาโดยวัลบูเอน่าดึงหลอกกองหลังแล้วจ่ายให้ราฟาเอลที่เติมขึ้นมา หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษ บอลเกือบเสียบคานแต่รุฟฟิเยร์ยังไวชุปเปอร์เชพใช้ปลายมือปัดออกไปได้

ทีมเยือนตอบกลับจากโอกาสที่เอ็มบิว่าสกัดพลาด
นาที 16 เป็นโอกาสของทีมเยือนที่ได้ปั๊มบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ เป็นเอ็มบิว่าที่สกัดพลาด บอลเกือบเข้าทางทีมเยือน ยังดีที่โลเปชออกมาเร็ว

ราวกับนัดกันมา! ทั้งลียงและแซงต์ เอเตียนเสียนักเตะจากอาการบาดเจ็บพร้อมกัน
นาที 31 เกมต้องหยุดลงชั่วคราวจากอาการบาดเจ็บของสองนักเตะโดยทางลียงเป็นมักซิม โกนาล็อง ที่เจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนให้เซร์กี้ ดาร์แดร์ลงแทน ฝั่งทีมเยือนเป็นฟาเบียง เลอมวนที่เจ็บกล้ามเนื้อ ต้องเปลี่ยนวาล็องแต็ง เอสเซริคลงมาแทน

บุก บุก บุก! ลียงโหมบุกหนักหวังเป็นประตู
นาที 38 ลียงครองเกมบุกได้เกือบทั้งหมด โดยลากาแซตจ่ายบอลออกมาให้มอรอลได้โอกาสครอสเข้าไปให้เฟอริร์ยิงจะๆแต่ยังติดเซฟ มีวัลบูเอน่าวิ่งตามมาซ้ำแต่รุฟฟิเยร์ยังคงลุกขึ้นมาเซฟทัน

เอาจนได้ ลียงโหมบุกมานานในที่สุดก็ได้ประตู 1-0
นาที 41 เป็นกองหลังที่ทำพลาดสกัดบอลที่โหม่งหนุนมาจากมอรอลไม่ขาด โดนลากาแซตวิ่งฉกเอาบอลเข้าไปกระดกข้ามหัวรุฟฟิเยร์ไปอย่างสวยงาม

จบครึ่งแรกโอลิมปิก ลียงเจ้าบ้านครองเกมบุกใส่แซงต์ เอเตียนอย่างต่อเนื่อง ไม่เปิดโอกาสให้ทีมเยือนมีโอกาสได้บุกคืนมากนัก โดยทีมเยือนยังไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบในครึ่งแรกเลย

ครึ่งหลัง

สวยงาม! ลียงทำเกมสวย ลากาแซตรับส้มหล่นซ้ำเข้าไป 2-0
นาที 59 เป็นการทำเกมที่สวยงามของลียงจากด้านกราบขวาเล่นชิ่งหนึ่งสองระหว่างเฟอริร์ชิ่งให้ราฟาเอล หลุดเข้าไปยิงได้แต่รุฟฟิเยร์ยังปัดออกมาได้ แต่เข้าทางลากาแซตซ้ำเข้าไป 2-0

ลองส่องบ้าง เป็นโอกาสของทีมเยือนได้ยิงไกล
นาที 63 โอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกของทีมเยือนก็มาถึง หลังจากโดนบดมาทั้งเกม โดยเป็นฮามูลม่าได้ลองส่องไกล แต่่ยังคงติดเซฟของโลเปช

เจ็บไปอีก 1! ปัญหานักเตะเจ็บกับลียงเป็นของคู่กัน
นาที 69 คราวนี้เป็นฮุมตีติกองหลังตัวหลักที่เจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเบนิโม่ลงมาเล่นแทน

แฮตทริก! ปิดกล่องสวยงามเป็นลากาแซตที่ชัดปิดให้ลียงเอาชนะไป 3-0
นาที 90+3 ช่วงทดเวลาเกมบุกครั้งสุดท้ายของลียง เป็นลากาแซตที่วิ่งทำทางฉีกกองหลัง ให้เฟอริร์จ่ายทะลุกองหลังให้ลากาแซตหลุดเข้าไปยิงเป็นแฮตทริกของตัวเอง 3-0

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

โอลิมปิก ลียง
(4-3-1-2): อันโทนี่ โลเปช 6.8 | เจเรมี่ มอรอล 7.8 | มาปู ย็องก้า เอ็มบิว่า 7.2 | ซามูแอล ฮุมตีติ 7.5 (อองรี เบดิโม่ น.72 6.2) | ราฟาเอล 7.3 (คริสตอฟ จาเล็ต น.67 7.1) | โกร็องแต็ง โทลิสโซ่ 7.6 | จอร์แดน เฟอริร์ 7.6 | มักซิม โกนาล็อง 6.4 (เซร์กี้ ดาร์แดร์ น.31 6.6) | มาติเยอ วัลบูเอน่า 7.9 | เคลาดิโอ โบวู 6.8 | *อเล็กซ็องเดรีย ลากาแซตต์ 9.9

สำรองไม่ได้ลงสนาม : มาติเยอร์ กอลเกลิน, การ์รี้ คอร์เน็ต, ราชิล กีลซาร์, สตีด มอลบล็องค์
โค้ช : อูแบร์ ฟูร์กนิเย่ร์

แซงค์ เอเตียน (4-3-3) : สเตฟาน รุฟฟิเย่ร์ 7.2 | ฟลอร็องแต็ง ป็อกบา 6.2 (ปิแอร์ เยล โปโลมัต น.54 6.3) | โลอิก แปร์กแร็ง 6.7 | ฟรังซัวส์ แกลร์ก 6.7 | เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ 6.0 (เควิน มอนเนต-ปาเควส น.67 6.0) | แวงซ็องต์ ปาโชต์ 7.2 | เฌเรมี่ เคลมองต์ 6.5 | ฟาเบียง เลอมวน 6.2 (วาล็องแต็ง เอสเซริค น.31 5.8) | โนแลน รูท 5.9 | โรแม็ง อามูม่า 5.8 | โรเบิร์ต เบริช 5.8

สำรองไม่ได้ลงสนาม : เจสซี่ มูลลิน, เบนจามิน คอร์กเน็ต, โจนาธาน บริสัน, นิล มัวเพย์
โค้ช : คริสตอฟ กัลติเย่ร์

ผู้ตัดสิน : โทนี่ แซฟรอน






 


ฝากพิจารณาด้วยครับ ขอบคุณครับ
เข้าร่วม: 26 Nov 2010
ตอบ: 1053
ที่อยู่: Etihad Stadium
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 9:48 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ข่าวครับ
Spoil
มาตามนัด!เนวิลล์คนพี่บอกผีควรซื้อเบลไม่ใช่โด้จิ๋ว

แกรี่ เนวิลล์เชื่อว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นควรซื้อแกเร็ธ เบลจากเรอัล มาดริดดีกว่าจะนำคริสเตียโน่ โรนัลโด้กลับมา

โรนัลโด้ ย้ายจากโอลด์ แทรฟฟอร์ดไปร่วมทีมลอส บลองกอสด้วยค่าตัวสถิติโลกในปี 2009, และได้รับบัลลงดอร์สองครั้งในระหว่างค้าแข้งที่สเปน

ช่วงระยะหลังมานี้ ซุปตาร์โปรตุเกสมีข่าวซ้ำๆที่เชื่อมโยงถึงการย้ายกลับมายังแมนเชสเตอร์ แต่เนวิลล์บอกว่าควรเป็นเพื่อนร่วมทีมของโรนัลโด้ที่อายุอ่อนกว่าถึง 4 ปีอย่างเบลและเป็นการเซ็นที่ชาญฉลาด

“ความคิดที่จะนำโรนัลโด้กลับมาเป็นเหมือนกับผลงานครั้งสุดท้าย มันไม่เหมือนเขาแบบที่เคยเป็นมาก่อน” เนวิลล์กล่าวกับDaily Star

“ที่เขาทำไว้กับยูไนเต็ดช่วงสองฤดูกาลสุดท้ายนั้นมันมหัศจรรย์มากและถือเป็นสิทธิ์พิเศษที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งนั้น ผมไม่ได้ดูหมิ่นโรนัลโด้นะ แต่ผมอยากให้คว้าเบลมาแน่นอนกว่า”

โรนัลโด้เป็นคนยิงให้กับเรอัล มาดริดสูงสุดตลอดกาล ช่วงนี้มีข่าวลือมาอย่างมากมายว่าอาจจะหาทางออกจากสโมสรหลังจากไปได้ไม่ค่อยดีกับโค้ชคนใหม่อย่างราฟาเอล เบนิเตซ


SOURCE: http://www.goal.com/en/news/11/transfer-zone/2015/11/14/17338232/gary-neville-manchester-united-should-sign-bale-not-ronaldo?ICID=HP_PN_10
 



Spoil
ไม่ไปไหน!เอเย่นต์ยันโลเปซไม่ลามิลาน

เอเย่นต์ของดิเอโก้ โลเปซผู้รักษาประตูของเอซี มิลานยันไม่มีแผนที่จะย้ายออกจากซาน ซิโร่แม้จะมีสถานะที่ไม่ค่อยแน่นอนกับสโมสร

โดยขณะนี้กำลังรักษาอาการบาดเจ็บจากเอ็นอักเสบที่บริเวณเข่าซ้าย อดีตนายทวารเรอัล มาดริดได้เสียตำแหน่งให้กับจานลุยจิ ดอนนารุมม่าซึ่งอายุแค่ 16 ปีเท่านั้น

โลเปซมีข่าวว่าจะย้ายมาเล่นเวทีพรีเมียร์ลีกแต่เอเย่นต์ของเขามานูเอล การ์เซีย กิลอน ยืนกรานว่านายทวารวัย 34 ปีนั้นมีเป้าหมายที่จะกลับมาฟิตและเริ่มต้นเป็นตัวจริงกับมิลานอีกครั้ง

“ดิเอโก้ โลเปซกำลังรักษาจากอาการบาดเจ็บ” เขากล่าวกับMilanNews

“เขาทำอย่างหนักเพื่อขจัดอาการบาดเจ็บและเขาฟื้นตัวได้บ้างแล้ว”

“เขาต้องการที่จะหายเพื่ออยู่ต่อที่มิลาน ย้ายตอนมกราคมน่ะหรอ? ที่ผมรู้คือไม่มีอะไรทั้งนั้น”

ดอนนารุมม่า ลงเล่นให้กับมิลานในเซเรีย อา 4 เกมหลังสุดและได้รับการยอมรับจากซินิซา มิไฮโลวิชจากที่ช่วยเก็บแต้มได้ 10 คะแนน จาก 12 เพื่อช่วยต่ออายุต่อไปหลังจากออกสตาร์ทได้แย่ในซีซั่นนี้

SOURCE: http://www.goal.com/en/news/8/main/2015/11/17/17414992/diego-lopez-only-wants-to-stay-at-ac-milan?ICID=SP
 



Spoil
ทีมชาติทำพิษ!ธิอาโก้ซวยเจ็บเข่าอดช่วยพี่เสือหนึ่งเดือน

บาเยิร์น มิวนิคเผยว่าธิอาโก้ จะพลาดลงสนามประมาณ 3-4 อาทิตย์ หลังจากเจ็บบริเวณเข่าขวาระหว่างเกมทีมชาติสเปนพบกับทีมชาติอังกฤษ

ธิอาโก้ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งแรกและสุดท้ายชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 และหลังจากผลแสกนมีการยืนยันว่าได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเข่า

อย่างไรก็ตามบาเยิร์น มิวนิคยืนยันว่า ปัญหานี้ไม่มีอะไรจะแก้ได้ ด้วยอาการบาดเจ็บที่ธิอาโก้สะสมมาจากสมัยก่อน อดีตนักเตะบาเซโลน่าไม่ได้ลงเล่นจนถึงเดือนเมษายน หลังจากบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าเมื่อซีซั่นก่อน

ธิอาโก้น่าจะพลาดการลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่มแชมป์เปี้ยนลีกและประมาณ 5 นัดในลีกบุนเดสลีกา รวมไปถึงการเจอของแข็งอย่างชาลเก้ ในวันเสาร์

SOURCE: http://www.goal.com/en/news/725/bundesliga/2015/11/17/17418052/thiago-to-miss-up-to-a-month-with-knee-injury?ICID=HP_BN_2
 



รายงานผลครับ
Spoil
ทีมชาติก็ยิงนะจ๊ะ!รูนควงอัลลี่ตะปบตราไก่ 2-0
กระชับมิตร
สนาม เวมบลีย์
อังคารที่ 17 พฤศจิกายน 2558


กาบายส่องไกลข้ามคาน
6’ เป็นทางฝรั่งเศสที่เริ่มทักทายก่อนจากโยฮัน กาบายที่ได้บอลจากกลางสนาม ลากจี้เข้าไปยิงบอลพุ่งข้ามคานไปนิดเดียว

มาร์กซิยัลลองยิงบ้างไม่ผ่านฮาร์ท
18’ มาร์กซิยัลได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย กระชากตัดเข้าในแล้วยิงด้วยขวา บอลพุ่งไม่หนีมือฮาร์ทรับได้อยู่หมัด

ขอบ้าง!รูนปั่นฟรีคิกเกือบหาย
22’ อังกฤษได้ฟรีคิกบริเวณฝั่งซ้ายของกรอบเขตโทษระยะกำลังดีประมาณ 25 หลา วิ่งมาปั่นทิศทางดี แต่น้ำหนักไม่ได้ เบาไปนิดทำให้ญอริสที่วิ่งมาดักที่เสาไกลแล้วรับติดมือ

รูนยังยิงไม่ได้
32’ จังหวะสวนกลับของอังกฤษ เคนป้ายบอลไปให้รูนี่ย์ วิ่งแตะหลอกกอสเชียลนี่ได้แล้ว แต่ว่าตอนยิงนั้นเฉือนๆไปหน่อยทำให้บอลปลิ้นออกหลังไป

มาแล้ว!อัลลี่ซัดตูมหายเข้าสามเหลี่ยม
39’ เป็นรูนี่ย์ที่จ่ายบอลให้กับอัลลี่แถวกรอบเขตโทษด้านขวา แตะหาจังหวะก่อนจะซัดตูม บอลพุ่งวาบเสียบสามเหลี่ยมสวยงาม อังกฤษนำแล้ว 1-0

ต่อเนื่อง!ริ่งลากมายิงแฉลบหลุดเสา
44’ สเตอริ่งลากเข้าในจากซ้ายตัดเข้ามายิงบอลแฉลบวารานหลุดเสาสองออกไป


HALF TIME


รูนวอลเล่ย์ชิลๆ 2-0
47’ ป๊อกบาเสียบอลกลางสนามและเป็นอัลลี่ที่ตัดได้ แล้วไหลต่อมาให้สเตอริ่งที่รออยู่ทางด้านซ้ายก่อนจะโยนเข้าไปบอลตกลงเท้ารูนี่ย์พอดีวอลเล่ย์แบบไม่จับเข้าไปเน้นๆ

เคนส่องไกลอย่างเสียว
51’ เคนได้โอกาสลองยิงไกลดูบ้างบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลถากเสาไปชนิดแบบน่าลุ้น

ป๊อกบาปั่นไซค์กดไม่ลง
59’ มาร์กซิยัลได้บอลอยู่ทางริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วส่งต่อเข้าในให้ป๊อกบาก้มหน้าปั่นโค้ง บอลติดไซค์โป้งลอยเหินข้ามคานออกไป

ป๊อกบายิงข้ามคานอีก
89’ ป๊อกบาได้บอลอยู่บริเวณหัวกะโหลกด้านซ้ายแล้ววิ่งสลัดตัวประกบอย่างไดเออร์มาได้แล้วยิงเต็มแรงบอลพุ่งข้ามคานไปอีกเช่นเคย

สิงโตเชือดตราไก่สบายๆ
สุดท้ายจบเกมส์แบบไปเป็นอังกฤษเปิดบ้านชนะฝรั่งเศสไปได้ด้วยสกอร์ 2-0


รายชื่อนักเตะ ทีมชาติอังกฤษ (4-4-2): โจ ฮาร์ท (น.46 แจ็ค บัตต์แลนด์), จอห์น สโตนส์, แกรี่ เคฮิลล์, นาธาเนียล ไคลน์, คีแรน กิ๊บส์, อิริค ไดเออร์, เดเล อัลลี่ (น.88 ฟิล โจนส์), ราฮีม สเตอริ่ง (น.68 อดัม ลัลลาน่า), รอส บาร์คลีย์ (น.79 จอร์โจ้ เชลวี่ย์), เวย์น รูนีย์, แฮร์รี่ เคน (น.80 ไรอัน เบอร์ทรานด์)
สำรอง: ทอม ฮีตัน, ไคลน์ วอล์คเกอร์, คริส สมอลลิ่ง, ไรอัน เมสัน, เจสซี่ ลินการ์ด



รายชื่อนักเตะ ทีมชาติฝรั่งเศส (4-3-3): ฮูโก้ ญอริส, โลลองค์ กอสเชียลนี่, ราฟาเอล วาราน, บาการี่ ซานญ่า, ลูคัส ดีญ, แบรด มาตุยดี้(น.46 พอล ป๊อกบา), โยฮัน กาบาย (น.57 ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า), มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน (น.82 มุสซ่า ซิสโซโก้), อองโตนี่ มารืกซิยาล (น.67 อองตวน กรีซมันน์), ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา(น.46 คิงส์ลี่ย์ เกอม็อง), ปิแอร์ ชีญัก (น.57 โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์)

สำรอง: สตีฟ ม็องด็องด้า, เบโน คอสติล, ปาทริซ เอวร่า, เอเลควิม มองกาล่า, โลอิก แปร์แร็ง, คริสตอฟ ชัลเลต์


















 
0
0
เข้าร่วม: 10 Jan 2008
ตอบ: 8
ที่อยู่: BKK
โพสเมื่อ: Wed Dec 02, 2015 9:40 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ผมอยากให้พี่เบน พิจารณาคอลัมเพื่อนผมครับ เขียนวิเคราะห์เกมส์ลิเวอร์พูลมานานมากๆ เพราะเป็นแฟนพันธุ์แท้หงส์แดง ส่วนผมแมนยู มันใช้คอลัม "เก่งหลังเกมส์"

ขอบคุณครับ

นี่blog มันครับ http://postmatchlp.blogspot.com/



ลิเวอร์พูล 1-0 สวอนซี (พรีเมียร์ลีค)



...เค้ากลับมาแล้ว!...
___________________________

ลิเวอร์พูลเริ่มด้วย 4-2-2-1

-------------------------เบนเทเก้------------------------
--------------------------ลัลลาน่า-------------------ไอบ์
----------------ชาน-------------มิลเนอร์-----------------
โมเรโน่--------ลอฟเรน--------สเคอเทล-------ไคลน์
--------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลกลับมาเล่นเกมลีคเปิดบ้านรับสวอนซี นัดนี้คล็อปปรับทีมจากนัดก่อนเล็กน้อย ที่สำคัญคือการขยับมิลเนอร์มาเล่นกลางแทนที่ลูคัสที่โดนแบน
-------------------------------------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเริ่มเกมอย่างระวัง เคาะต่อบอลช้าเอาชัวร์ไม่เร่งเกม ส่วนสวอนซีบอกกันซื่อๆ ตั้งแต่ต้นเกมว่าจะเอาแค่แต้มเดียวนะ รับกันอยู่แต่ในแดนตัวเองและไม่ตั้งเกมรุก ทั้งยังโกงด้วยการส่งแบ็คลงสนามฝั่งละสองคน เล่นเอาเกมริมเส้นของลิเวอร์พูลดับสนิทได้แต่หาโอกาสเจาะตรงกลางเอา

________ ย่ิ่งเล่นลิเวอร์พูลก็ยิ่งกดดันได้มากขึ้น แดนหน้าและกลางไล่จนสวอนซีเก็บบอลเล่นไม่ได้ ลิเวอร์พูลครองบอลอยู่ข้างเดียว เกมรับไม่ถูกกดดัน ทั้งยังสามารถฉวยโอกาสเล่นบอลฉาบฉวยจนได้ลุ้นประตูจากไอบ์แต่ยังทำไม่สำเร็จ

_______ แต่หลังจากไล่อัดอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วไม่ได้ประตูสักที พอเข้า 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เกมรุกลิเวอร์พูลก็เริ่มตันๆ ไป เป็นโอกาสให้สวอนซีเริ่มเก็บบอลเล่นได้บ้างและได้ลุ้นนิดๆ หน่อยๆ พอให้ตื่นเต้นบ้างจากการเร่งโยนบอลตั้งแต่ยังไม่สุดเส้น แต่บอลเข้าเขตโทษไปก็โดนคู่เซ็นเตอร์เก็บกินหมด จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ไอบ์สลับไปเล่นฝั่งซ้ายบ้าง แต่เกมรุกของลิเวอร์พูลยังเหมือนเดิมคือเจาะไม่ได้ พาบอลมาข้างหน้าได้ก็จริงแต่ช้า และจ่ายบอลเอาชนะแนวรับไม่ได้เลยไม่ว่าจะตรงกลางหรือโยนจากริมเส้น ส่วนสวอนซีกลับลงมาเล่นคล้ายเดิม เพิ่มเติมคือแดนกลางไล่ถึงบอลเร็วกว่าเดิมอีก

_______ ลิเวอร์พูลป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆ เขตโทษอยู่นาน เจาะเองไม่เข้าสุดท้ายมาได้กรรมการช่วยเจาะ นาที 63 ไอบ์(ซึ่งสลับกับมาฝั่งขวา) เปิดบอลไปโดนแขนเทเลอร์ในเขตโทษ ผู้ตัดสินจะไม่เป่าแล้วแต่ผู้ช่วยให้สัญญาณก็เลยเปลี่ยนใจเป่าให้ มิลเนอร์ซัดไม่พลาดพาเด็กๆ ขึ้นนำ 1-0

_______ นาทีถัดมา เฮนเดอร์สันได้ลงสนามทำให้ทีมเล่นครบ 11 คนสักที ถึงตรงนี้รูปเกมเปลี่ยนไปมาก สวอนซีที่โดนแล้วหันมาเปิดเกมรุกทันที แบ็คเบิ๊คลอยขึ้นมาหมดเล่นเกมรุกเต็มตัว ส่วนลิเวอร์พูลเริ่มออกอาการแผ่วอย่างเห็นได้ชัด วิ่งไล่ถึงบอลได้ช้าลง ถอยลงไปรับมากขึ้น

_______ นาที 71 สเตอริดจ์ได้ลงแทนเบนเทเก้ ลิเวอร์พูลเล่นเน้นเอาชัวร์ เคาะบอลแดนหลังมาขึ้น ไล่ให้สวอนซีขึ้นมาไล่สูง ทำให้มีพื้นที่มุมธงให้เล่นแล้ว แต่ตัวเติมไม่มีสุดท้ายก็กลายเป็นพาบอลไปเปิดได้(บ้าง)แต่ไม่ได้ลุ้นอะไรจริงจัง

_______ ทางสวอนซียังได้ลุ้นบ้างจากการเปิดบอลจากริมเส้นตั้งแต่ยังไม่ถึงกรอบเขตโทษ แต่เข้าไม่ถึงบอล จังหวะหวาดเสียวส่วนใหญ่คือการโหม่งเคลียร์ไม่ขาดของแนวรับลิเวอร์พูลซึ่งสุดท้ายแล้วสวอนซีก็เก็บบอลไปส่องไม่ได้อยู่ดีนั่นแหล่ะ

_______ ช่วง 10 นาทีท้าย ลิเวอร์พูลเริ่มเก็บบอลสองได้แย่ลง ขยับตัวเข้าหาบอลช้าลงมาก เกมโต้ก็ไม่ค่อยมีและทำไม่ดี เก็บบอลเล่นก็ไม่ค่อยจะอยู่ แต่สิ่งที่ทำได้ดีต่อเนื่องคือเกมรับ พื้นที่สุดท้ายปิดได้เหนียวแน่น โยนเข้ามาก็โหม่งเคลียร์ได้ สวอนซีอย่าว่าแต่จะลุ้นประตู เอาแค่ง้างเท้ายิงหรือโหม่งให้โดนบอลยังแทบไม่มีโอกาส

_______ ช่วงทดเจ็บที่ทดกันตั้ง 5 นาที ลิเวอร์พูลยืนต่ำ คุมเกมไม่ได้ แต่อาศัยเกมรับเหนียวแน่นเอาตัวรอดมาได้แบบไม่ต้องเสี่ยงหัวใจวายนักและมินโยเล่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย นาที 90+4 ตูเร่ได้ลงแทนไอบ์ สุดท้ายลิเวอร์พูลเฉือนชนะสวอนซีไปได้ 1-0
-----------------------------------------

_______ เกมนี้เล่นใช้ได้นะ ถึงแม้ว่าเกมรุกจะดูแล้วเศร้าแต่เกมรับดูดีทีเดียว ยิ่งถ้าเทียบกับโจทย์คือ พึ่งเล่นยูโรป้ามา + ไม่มีคูตินโย่กับลูคัส + คู่ต่อสู้มาเน้นรับ แล้วยังชนะได้ต้องถือว่าทำได้ดีมากๆ หลังเกมยูโรป้านี่มันเป็นเกมยากมากจริงๆ นะ

_______ 11 ตัวจริงผมแปลกใจที่ไม่เลือกอัลเลนแต่กลับเลือกขยับมิลเนอร์เข้ามา คือด้วยสไตล์การเล่นก็ดี, คู่ต่อสู้(ที่จะมารับ)ก็ดี, ผลงานของมิลเนอร์ตอนเล่นตรงกลางก็ดี มันชวนให้คิดว่าอัลเลนน่าจะเหมาะกว่า แต่พอนึกถึงผลงานของอัลเลนยามลงสนามก็...อือ...เข้าใจคล็อป

_______ ส่วนในเกม อย่างที่บอกตอนต้น เกมรุกวันนี้ดูแล้วเศร้ามาก การประสานงานอย่าเรียกว่าไม่ดีให้เรียกว่าไม่มีจะตรงกว่า แนวรุกต่อบอลให้กันนับครั้งได้ แถวสองไม่มีมาเลย ลูกเตะมุมที่ได้เยอะแต่กดดันอะไรไม่ได้เลย

_______ แต่ในทางกลับกัน เกมรับของทีมวันนี้ดีมาก ในช่วงหนึ่งชั่วโมงแรกที่ยังมีแรงวิ่งกันอยู่ ทีมวิ่งตัดบอลกันได้ตั้งแต่สวอนซียังพาบอลไม่ถึงวงกลมด้วยซ้ำ คือบีบให้คู่ต่อสู้ต้องจ่ายขึ้นหน้ามาพลาดได้บ่อย จะวางมาให้เอเดอร์(หน้าเป้าสวอนซี)ก็จะโดนสเคอเทลตัดก่อน ต่อให้สเคอเทลพลาดก็ยังจะโดนลอฟเรนเก็บต่ออีกชั้น เรียกว่าเกมรุกของสวอนซีหมดพิษสงไปเลย

_______ และแม้แต่ในช่วงครึ่งชั่วโมงท้ายที่วิ่งไม่ออกแล้ว เกมรับมุมธงของทีมก็ถือว่าทำได้ดี ช่องระหว่างแบ็คกับเซ็นเตอร์ที่เคยมีปัญหาวันนี้ไม่เห็นช่องเลย การปิดพื้นที่หน้าเขตโทษก็ทำได้ดีคู่ต่อสู้เล่นงานอะไรไม่ได้ ที่มีปัญหาอยู่บ้างคือการโหม่งเคลียร์ไม่ขาดที่เห็นหลายครั้ง แต่ก็อย่างที่บอกคือต่อให้เคลียร์ไม่ขาดแล้ว จังหวะถัดมาก็ยังช่วยกันเคลียร์ซ้ำได้อยู่ดี

_______ เกมนี้คือเกมที่ทีมเล่นรับได้ ดีที่สุด ตัั้งแต่คล็อปคุมทีมมาเลยครับ

______ ...เป็นสามแต้มที่คู่ควรแล้ว
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้

มินโยเล่ - ไม่ได้เซฟเลย ไม่โดนกดดันด้วย ไม่ต้องออกมาเล่นนอกเส้น ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ถ้าจะมีอะไรที่ดูไม่ดีอยู่บ้างก็คงเป็นการไม่ยอมออกมารับบอลโด่งที่บางลูกบอลมาลึกและช้าพอที่เขาควรจะออกมารับได้

โมเรโน่ - ช่วงครึ่งแรกหาโอกาสเติมขึ้นมาเปิดบอลได้ดีได้ลุ้นอยู่หลายครั้ง ทั้งเกมเชื่อมเกมได้ดีไม่มีพลาด วันนี้เล่นเกมรับใช้ได้ พื้นที่มุมธงไม่โดนแหกและคู่ต่อสู้ได้เปิดแต่ลูกยากๆ ยิ่งถ้ามองจากมุมว่าสวอนซีพยายามจะขึ้นทางนี้ต้องถือว่าโมเรโน่เล่นได้ดีทีเดียว

ลอฟเรน - อยู่ในฟอร์มที่ดี ซ้อนแบ็คได้เร็ว สกัดลูกกลางอากาศได้หมด(แม้บางลูกจะไม่ค่อยไปไหนก็เถอะ) บอลตามช่องที่คู่ต่อสู้จ่ายเข้าเขตโทษมาในพื้นที่ของเขาก็ตัดได้หมด เล่นเป็นตัวสุดท้ายได้ไม่พลาดด้วย

สเคอเทล - เล่นจังหวะประกบเอเดอร์ได้เด็ดขาดดี แต่วันนี้สเคอเทลอ่านจังหวะบอลตกยังไม่รู้ กะพลาดไปหลายลูก ซ้อนแบ็คก็ช้ากว่าลอฟเรน ยังดีว่าการสกัดลูกกลางอากาศที่เป็นอาวุธหลักในการเข้าทำของสวอนซี สเคอเทลไม่พลาด

ไคลน์ - เกมรุกเติมไม่สุดและไม่ค่อยขึ้น เกมรับตอนสกอร์ 0-0 นี่เก็บกินเรียบ มีความเร็วที่จะตามไปปิดได้ทั้งลูกวางยาวหรือการพาบอลขึ้นหน้าเองของคู่ต่อสู้ แต่พอ 1-0 แล้วคู่ต่อสู้เปลี่ยนมอนเทโร่ลงมา+แบ็คเติมช่วย ไคลน์มีปัญหากับการปิดพื้นที่แถวสุดเส้นให้เห็นเหมือนกัน

ชาน - โอ้โห~ หล่อนะนัดนี้ โอเค ก็จริงว่ายังมีจังหวะจับบอลนานให้เห็นเป็นระยะ แต่ก็โดนแซะน้อย ที่สำคัญคือเขาสามารถวิ่งเข้าถึงบอลได้เร็ว หรือถ้าเข้าไม่ทันก็ยังปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้เยี่ยมเลย ไม่มีจังหวะโดนพลิกให้เซ็นเตอร์ต้องงานเข้า เป็นกองกลางที่ฟอร์มดีที่สุดของทีมวันนี้

มิลเนอร์ - ครึ่งแรกโชว์แซะสวยๆ จนทีมเอาไปบุกฉาบฉวยได้ดีหลายครั้ง และยังเป็นหัวหอกสำคัญในการวิ่งไล่จนสวอนซีไปไม่เป็นเล่นไม่ได้ แต่พอครึ่งหลังก็เริ่มแผ่ว วิ่งได้น้อยลง เข้าถึงบอลช้าลง และทั้งเกมมีส่วนร่วมกับเกมรุกน้อย ลุ้นให้กองหลังสวอนซีจ่ายบอลพลาดยังตื่นเต้นน่าลุ้นกว่ารอมิลเนอร์จ่ายบอลดีๆ ให้เพื่อนอีก

ไอบ์ - ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าไอบ์เป็นคนที่มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากที่สุดในทีม เขาทำได้ยอดเยี่ยมในการว่ิ่งทำทาง หาที่ว่างรับบอล เป็นแนวรุกคนเดียวที่กดดันคู่ต่อสู้ได้ แต่พอได้บอลแล้วคิดพลาดทำพังตลอดเวย์ ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมว่าเขานี่แหล่ะเรียกจุดโทษให้ทีมได้

ลัลลาน่า - นัดนี้เล่นสไตล์แมงหวี่ คืองุ้งงิ้งๆ อะไรอยู่รอบเขตโทษคู่ต่อสู้ตลอดเวลาแต่หาสาระไม่ได้ หลังจากโชว์จ่ายทะลุตามช่องให้ไอบ์หลุดในช่วงต้นเกมแล้วหลังจากนั้นลัลลาน่าก็เหมือนลงมาวิ่งไล่อย่างเดียว

เบนเทเก้ - เก็บบอลเล่นได้น้อย ประสานงานกับเพื่อนไม่ได้ โหม่งชงหรือจ่ายเมื่อไหร่มีค่าเท่ากับส่งคืนคู่ต่อสู้หมด แม้จะรักษาตำแหน่งและค้ำแนวรับได้ดี แต่เวลาอยู่ในเขตโทษเคลื่อนที่น้อยไป เป็นเป้านิ่งให้ประกบง่ายและเพื่อนจ่ายให้ยาก

ตัวสำรอง

เฮนเดอร์สัน - ลงมาวิ่งไล่กลางสนามได้ดี แต่นอกนั้นก็ไม่ได้ทำอะไร

สเตอริดจ์ - เสียงปรบมือดังสนั่นแอนฟิลด์ตอนเขาถูกเปลี่ยนลงมานับเป็นจังหวะที่น่าตื่นเต้นที่สุดแล้ว

ตูเร่ - ถ้าทด 10 นาทีก็คงได้ลงตอน 90+9 คือเปลี่ยนเพื่อทำลายจังหวะเกมคู่ต่อสู้อย่างเดียวเลย

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เดยัน ลอฟเรน… ไม่มีคู่แข่งเลยครับ แนวรุกแต่ละคนนี่ต้องไปแย่งมั่วออฟเดอะแมทช์กันมากกว่า ลอฟเรนเล่นดีกว่าสเคอเทลเห็นๆ เด่นกว่าชานที่ไม่ใช่จุดโจมตีของคู่ต่อสู้ (สวอนซีเน้นโยนยัด ไม่เจาะกลาง) และเป็นคนจัดการการเข้าทำของคู่ต่อสู้ได้มากที่สุดในทีม อ่านถึงตรงนี้คงพอเดาได้แล้วนะว่าคำโปรยวันนี้ผมไม่ได้หมายถึงแค่คนในรูป
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.
เขียนโดย Pitch Kaew ที่ 12:29
0
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2009
ตอบ: 1737
ที่อยู่: Rock Bottom, Loserville, Nothing Town
โพสเมื่อ: Mon Dec 07, 2015 1:55 am
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ขอลองดูนะครับ


Spoil
เราคงหวังแค่ท๊อปซิกซ์ : มูรินโญ่

โจเซ่ มูรินโญ่กุนซืออหังการค่ายสิงโตน้ำเงินครามออกมายอมรับว่าทีมของเขามีโอกาสที่จะหลุดจากตำแหน่งลุ้นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีคฤดูกาลหน้า หลังเปิดรังพ่ายต่อน้องใหม่อย่างบอร์นมัธเมื่อคืนวาน

ความปราชัยเป็นนัดที่แปด จากการลงเล่นสิบห้านัด ถึงเวลานี้แชมป์เก่ากำลังตามทีมอันดับสี่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่ถึง 14 คะแนน
“เป้าหมายเราคือท็อปโฟร์”
“ก่อนหน้าเกมนี้เราเชื่อว่าเรามีดีพอที่จะกลับสู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็น แต่นาทีนี้เราคงต้องมองถึงแค่ท๊อปซิกซ์”
ตอนนี้เชลซีมีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียงแค่สามคะแนน และตามจ่าฝูงเลสเตอร์ ซิตี้อยู่สุดกู่ถึงสิบเจ็ดคะแนน

“แน่นอนว่าผมกังวล” มูรินโญ่เพิ่มเติม “แต่ผมไม่คิดว่าเราต้องสู้เพื่อหนีตกชั้นหรอกนะ”
แม้ว่าก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามูรินโญ่ไม่ซีเรียสกับการที่ลูกทีมของเขาออกท่องราตรีเมื่อกลางสัปดาห์ แต่กุนซือสเปเชี่ยลวันก็อดตำหนิที่นักเตะออกอาการเหยาะแหยะไม่ได้ ดังเช่นที่ปรากฏในเกมที่เชลซีพ่ายคารังต่อคริสตัล พาเลส, เซาท์แธมตัน, และลิเวอร์พูลก่อนหน้านี้
“ถ้านักเตะของเราไม่เล่นเต็มความสามารถได้ในทุกๆเกม ผมว่าเรามีปัญหาแล้วล่ะ”
“มันไม่ง่ายที่จะรักษาความสม่ำเสมอในเกมฟุตบอล”
“แต่พวกนี้เล่นกันดีแค่ไม่กี่นาทีเองนะ” มูรินโญ่ทิ้งท้าย


ที่มา http://www.bbc.com/sport/0/football/35016312  


Spoil
สวดยับ! มูรินโญ่จวกเปาตาถั่วส่งสิงห์พังพาบ – เหน็บบอร์นมัธไม่ใจ




โจเซ่ มูรินโญ่กุนซือเก้าอี้ร้อน ออกมาจวกการทำงานของผู้ตัดสิน พร้อมกับแอบจิกกัดบอร์นมัธจากชัยชนะเมื่อคืนวาน

ประตูชัยของบอร์นมัธจากการสัมผัสบอลครั้งแรกของ เกล็นน์ เมอร์เรย์หลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงมาเพียง 99 วินาที กลายเป็นประเด็นปัญหา เนื่องจากจังหวะนั้นดูจะเป็นลูกล้ำหน้า
แต่มูรินโญ่บิ๊กบอสค่ายเชลซีดูจะหัวเสียกับการตัดสินใจของกรรมการ ไมค์ โจนส์ ที่ปฏิเสธจะให้ลูกโทษแก่ทีมของเขาในจังหวะที่ไซม่อน ฟรานซิส สไลด์บอลจากดิเอโก คอสต้าแล้วบอลไปโดนแขนของเขามากกว่า
“เราไม่ควรจะแพ้” กุนซือโปรตุกีสกล่าว
“คู่ต่อสู้ของเรามาตั้งหน้าตั้งตารับลูกเดียว แต่ดันทะลึ่งได้ประตูจากการตัดสินเห่ยๆ”
“ส่วนจังหวะนั้นมันแฮนด์บอลชัดๆ เราสมควรได้จุดโทษ”
“พวกเขา (บอร์นมัธ) เล่นในแบบที่ใครบางคนเรียกว่าฉลาด บางคนเรียกไม่แฟร์ ถ่วงเวลา เรียกแพทย์สนาม แถมยังกระดกน้ำยังกับขอเวลานอกได้”
ทั้งนี้มูรินโญ่ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับจังหวะล้ำหน้าที่ส่งผลให้ทีมเขาแพ้ ซึ่งเป็นการปราชัยนัดที่ 8 ของฤดูกาลเข้าไปแล้ว


ที่มา http://www.bbc.com/sport/0/football/35016312  


Spoil
มโนแปป?! ฟาน ฮาลโวถ้ามีเหยิน, กุน ป่านนี้ยิงกระจุย

หลุยส์ ฟาน ฮาล ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่าทีมของเขาจะยิงประตูเป็นกอบเป็นกำอย่างแน่แท้ ถ้าหากมีกองหน้าอย่างแซร์คิโอ้ อเกวโร่ หรือ หลุยส์ ซัวเรส
กุนซือเลือดกังหันต้องเห็นทีมของเขาเสมอ 0-0 เป็นนัดที่ 5 ใน 9 นัดหลังสุด
“ถ้าอเกวโร่ หรือ ซัวเรส อยู่ที่นี่ พวกเขาจะทำประตูให้เรามั้ย” ฟาน กัล บอกกับนักข่าว BBC

“มันก็ยังเป็นเครื่องหมายคำถามนะ คุณไม่มีทางรู้หรอก แต่ผมว่าพวกเขายิงกระจายแน่”
“เราสามารถสร้างโอกาสได้หลายต่อหลายหน นั่นมันก็ไม่น่าจะมีปัญหา” กุนซือวัย 64 เพ้อ

ทั้งนี้ ผลเสมอเมื่อคืนวานส่งผลให้ปีศาจแดงหล่นลงมาอยู่ที่ 4 ในตาราง แถมยังทิ้งโอกาสในการแซงเพื่อนบ้านอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งปราชัยต่อ “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ค ซิตี้ มาก่อนหน้านั้น

ปัญหาในการทำประตูของแมนยูถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญ จากการที่เวย์น รูนี่ย์และเมมฟิส เดปาย เพิ่งจะยิงไปคนละสองประตูเท่านั้น ส่วนอ็องโตนี่ มาร์กซิยาลไมได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่ที่สามประตู ขณะที่ฆวน มาต้ายิงได้สี่ประตู นำดาวซัลโวของทีมอยู่ในขณะนี้


ที่มา http://www.bbc.com/sport/0/football/35017581  



Spoil
หมดแม๊ก! หงส์บ้อท่าบุกพ่ายสาลิกาช๊อค 2-0
แม้"หงส์แดง" จะเพิ่งโชว์ฟอร์มหรูอัด "นักบุญ" เซาท์แธมตัน มาครึ่งโหลเมื่อกลางสัปดาห์ แต่ก็ต้องมาสิ้นท่าพ่ายต่อ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ถึงถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์คไป 2-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ มาร์ติน สเคอเทล และ จอจินิโอ ไวจ์นาลดุมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

พรีเมียร์ลีก
สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค
อาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2558
กรรมการ อังเดร มาริเนอร์


“สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่แพ้คริสตัล พาเลส เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเกือบทั้งหมด ยกเว้น อโยเซ่ เปเรซ โดยมี ซีม เด ยอง ลงเป็นตัวจริงแทน และเป็นการออกสตาร์ทตัวจริงครั้งแรกในฤดูกาลนี้สำหรับ เด ยอง

ฝั่ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กุนซือเจอร์เก้น คล๊อปป์ โรเตชั่นผู้เล่นหลายคนจากเกมแคปปิตอลวัน คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ โรแบร์โต ฟิร์เมียโน่ และ คริสเตียน เบนเทเก้ จะได้ลงสนามแทน แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ดิว๊อค โอริกิ ส่วนเจมส์ มิลเนอร์ และเจ้าหนู จอร์ดอน ไอบ์ จะลงแทน อดัม ลัลลาน่า และ เอมเร่ ชาน ที่ติดโทษแบน

2’ ลิเวอร์พูลเริ่มได้ร้อนแรง
เริ่มเกมมาเป็นทีมเยือนเปิดฉากบุกใส่ก่อน โดยได้ลูกเตะมุมติดๆกัน แต่ฝั่งเจ้าบ้านยังรับมือไว้ได้

15’ เกมยังทรงๆ
ผ่านมาถึงนาทีที่ 15 ยังไม่มีอะไรหวือหวา โดยทั้งสองทีมยังหาจังหวะเข้าทำกันอยู่ ทางฝั่งลิเวอร์พูลมี จอร์ดอน ไอบ์ ลากบอลขึ้นมาสวยๆ สอง-สามครั้งแล้ว ขณะที่สาลิกาดง บุกขึ้นทางกราบขวาซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของโมเรโน่เป็นส่วนใหญ่

20’ ไอบ์เล่นเอาแบ็คสาลิกาเหนื่อย
เป็นไอบ์อีกแล้วที่ลากบอลขึ้นมา ก่อนจะช่วยให้ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุม ก่อนเจ้าตัวจะไปเล่นลูกเตะมุมเอง

21’ ต้องนำแล้ว! เบนเตเก้ซัดห้าหลาข้ามคานเฉย
ลอฟเรนโขกชงลูกเตะมุมจากไอบ์ ก่อนเบนเตเก้เข้าชาจจ่อๆ ข้ามคานซะอย่างงั้น ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสขึ้นนำ

31’ สาลิกาบุกบ้าง
ซิสเซ่พักบอลบริเวณเสาไกลก่อนจะตะบันผ่านหน้าปากประตูไปนิดเดียว แต่กรรมการเป่าว่าเป็นจังหวะทำฟาวล์ไคลน์ก่อนแล้ว ทำเอาแฟนหงส์ใจหายแว้บ

39’ นิวคาสเซิลสวนได้เสียว
ลิเวอร์พูลบุกอยู่เพลินๆ ก่อนถูกตัดบอลได้ ไวจ์นาลดุมจ่ายแทงช่องให้ซิสเซ่มีโอกาสโซโล่เข้ากรอบเขตโทษหงส์แดง แต่โดนแนวรับหงส์แดงรุมกินโต๊ะจนทำอะไรไม่ได้

43’ สาลิกาเตะมุมครั้งแรก
นิวคาสเซิลได้ลูกเตะมุม ปาปิส ซิสเซ่โขกชงไปเสาไกล ก่อนเอ็มเบ็มบาโขกข้ามคาน

44’ เจ้าบ้านตั้งเกมได้ – ลูคัสรับเหลือง
ลูคัสเบรกเกมนิวคาสเซิลด้วยการทำฟาวล์ เด ยอง ก่อนรับใบเหลืองไปเป็นคนแรกของฝั่งหงส์แดง โดยทางฝั่งนิวคาสเซิลเป็นแจ็ค คอลแบ็คที่รับใบเหลืองไปก่อนหน้านั้น

45’ ไอบ์เด่นเลย
คราวนี้เจ้าหนูไอบ์ขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนแตะหลบผู้เล่นนิวคาสเซิล ก่อนพยายามจะปั่นบอลเข้าเสาไกล แต่บอลหลุดกรอบไป ถือว่าวูบวาบทีเดียวสำหรับในครึ่งแรก

HALF TIME

48’ เอ็มเบ็มบ้าฝืนเกินไป
เอ็มเบ็มบ้าตัดได้สวย ก่อนพาบอลลากจากกลางสนามขึ้นมาก่อนมาจอดที่กรอบเขตโทษลิเวอร์พูล

51’ ก็ยังไม่เข้ากรอบ
ไอบ์แทงบอลให้ฟิเมียร์พลิกบอลหนีกองหลังนิวคาสเซิลก่อนจ่ายเข้ากลางให้โจ อัลเลน แต่ลูกยิงก็หลุดกรอบไป

59’ JK ปรับแผน
ลิเวอร์พูลเตรียมขยับเปลี่ยนตัว เมื่อคล๊อปป์เรียกลัลลานาและสเตอริดจ์ออกมา โดยจะลงมาแทนเบนเทเก้และฟิเมียร์โน่

61’ เฮ้ยผมเพิ่งลง
เป็นซิสเซ่ที่พยายามจะวิ่งไล่บอล ก่อนจะกลายเป็นเข้าช้าใส่ลัลลาน่า ส่งผลให้เจ้าตัวรับใบเหลืองไป

67’ แม็คลาเรนปรับหมาก
นิวคาสเซิลขยับบ้าง โดยถอดเด ยอง แล้วส่งเปเรซลงมาทำเกมแทน

68’ นิวฯทะยาน 1-0
ซิสเซ่เปิดบอลจากกราบขวาเข้ากลางกรอบเขตโทษลิเวอร์พูล เป็นไวจ์นาลดุมที่จับบอลแรกเหมือนจะไม่ดี แต่ยังหาจังหวะยิงได้ก่อนบอลจะแฉลบมาร์ติน สเคอเทลเข้าประตูไป สาลิกาดงนำแล้ว 1-0!

74’ แฮททริกฮีโร่มาแล้ว
JK ปรับหมากตัวสุดท้ายโดยส่งแฮททริกฮีโร่จากเกมกลางสัปดาห์อย่างโอริกีลงมาแทนไอบ์

75’ หริดยิงเสียของ
ลัลลานา จ่ายทะลุช่องให้สเตอร์ริดจ์หลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนยิงด้วยเท้าข้างไม่ถนัด บอลหลุดกรอบไปแบบไม่ได้ลุ้น

77’ กุฟฟรองลงมาเลื้อย
แม็คลาเรนถอดคอลแบ็คที่ติดใบเหลืองอยู่ออก แล้วส่งโยฮัน กุฟฟรองลงมาแทน

79’ โมเรโน่ซัดอย่างงาม แต่โดนเปาจับล้ำหน้า
มิลเนอร์เปิดให้โมเรโน่กระโดดวอลเล่อย่างงาม แต่โดนจับล้ำหน้า แต่จากภาพช้าดูเหมือนไม่น่าล้ำ ลิเวอพูลพลาดโอกาสตีเสมอ

86’ หงส์เดินหน้าบุก
โจ อัลเลนแหวกผู้เล่นสามสี่คนมาสวย พร้อมช่วยให้ทีมได้เตะมุม ลอฟเรนเติมขึ้นมาโขกแต่บอลไม่เข้ากรอบ หงส์แดงยังคงหาโอกาสตีเสมอต่อไป

89’ หงส์หลังลอย
หงส์แดงดาหน้าบุกต่อ แล้วเป็นลอฟเรนคนเดิมที่ได้โหม่ง คราวนี้เข้ากรอบแต่ไปเข้าซองร๊อบ เอลเลียทนายทวาร

90’ ฝัง! นิวฯสวนโป้ง ไวจ์นาลดุมปิดบัญชี
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซิสโซโก้ใช้ความแข็งแกร่งเบียดแย่งบอลมาจากกลางสนามก่อนคิดเร็วทำเร็วจ่ายให้ไวจ์นาลดุมที่เติมขึ้นมาซัดนิ่มๆผ่านมิญโญ่เลต์เข้าไป สาลิกาดงทะยานหนีเป็น 2-0 พร้อมทำท่าจะจบที่สกอร์นี้แล้ว
จบเกม แม้ว่านิวคาสเซิลจะเริ่มต้นได้ป้อแป้ แต่ก็ตั้งเกมของตัวเองจนเป็นฝ่ายกำชัยเหนือลิเวอร์พูลไป 2 – 0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญก่อนส่ง ซันเดอร์แลนด์ คู่ปรับร่วมเมืองลงไปอยู่อันดับที่ 19 แทน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
(4-4-1-1): ร๊อบ เอลเลียท - พอล ดัมเมทท์, ชานเซล เอ็มเบ็มบา, ฟาบริซิโอ โคล๊อชชินี่, ดาริล ยานมัท – จอจินิโอ ไวจ์นาลดุม, เวอร์นอน อนิต้า, แจ๊ค คอลแบ็ค (โยฮัน กุฟฟรอง น.77), มุซซ่า ซิสโซโก้ – ซีม เด ยอง (อโยเซ่ เปเรซ น. 68)– ปาปิส ซิสเซ่ (ฟรอเรียง โธแว็ง น. 82)

สำรองไม่ได้ลงสนาม: คาร์ล ดาร์โลว์, เจมี่ สเตอร์รี่, เควิน เอ็มบาบู, อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช

ผู้จัดการทีม: สตีฟ แม็คลาเรน

ลิเวอร์พูล (4-3-2-1): ซิมง มิญโญเลต์ – อัลแบร์โต้ โมเรโน่, เดยัน ลอฟเรน, มาร์ติน สเคอเทล, นาธาเนียล ไคลน์ – โจ อัลเลน, ลูคัส เลว่า, เจมส์ มิลเนอร์ – โรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่ (แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น. 62), จอร์ดอน ไอบ์ (ดิว๊อค โอริกี น.75) – คริสเตียน เบนเทเก้ (อดัม ลัลลาน่า น.62)

สำรองไม่ได้ลงสนาม: โคโล ตูเร่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อดัม บ๊อกดาน, คอนเนอร์ แรนดอลล์

ผู้จัดการทีม: เจอร์เก้น คล๊อปป์







 


0
0
เข้าร่วม: 31 Jan 2014
ตอบ: 174
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Dec 15, 2015 2:00 pm
[RE: ด่วน !!รับนักข่าว SS 1 ตำแหน่ง]
ทำใจยอมรับ มัน!!! โจเซ่ มูริญโย่ ยอมรับสถานการ เชลซีไม่มีโอกาศ ไป เตะ ยูฟ่า ฤดูกาลหน้า

โจเซ่ มูริญโย่ The special one ของเชลซี ออกมายอมรับว่า ทางต้นสังกัตของตนไม่มีรู้พื้นสำหรับ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แล้ว หลังจาก พ่ายแพ้ให้กับ จิ้งจอกสยาม Leiceter city เมื่อวานนี้ และเป็นการแพ้ 9 นัดภายใน 16 เกมของสโมรสร

ทั้งนี้ The special one ได้ออกมาตอบคำถามจากนัก ข่าวในเรื่องของการหมดลุ้นพื้นที่ Uf champian

" ใช่ ทุกอย่างมันกระจ่างแล้ว" มูริญโย่ตอบกับ สำนักข่าว Sky sport

ปัจจุบัน เชลซี อยู่ในตำแหน่ง ที่ 16 ของตาราง และ มีคะแนนห่างจากโซนตกชั้นเพียง 1 คะแนน ใน ครึ่งฤดูกาลแรก

อันดับ 4 ณ ปัจจุบัน คือ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ท โดยมีคะแนน 29 แต้ม ห่างจาก สิงห์บลูถึง 14 แต้ม

http://www.goal.com/en/news/1862/premier-league/2015/12/14/18359952/mourinho-top-four-is-out-the-window-for-chelsea

-----------------------------------------------------

นิวเมสซี่? - เจมี่ คาร์ราเกอร์ อวย เมเรซ ''มีเพียงเขาที่ทำได้เหมือนเมสซี่''

ซุปตาร์วัย 24 ปีแห่ง จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ซิตี้ ช่วยให้ทีมของเขามีชัยเหนือเชลซี 2 - 1 ในวันจันทร์ที่ผ่านมา และส่ง ทีมของเขาขึ้นสู่อันกับ 1

''ผมไม่เคยเห็นนักเตะคนใด ใช้เท้าซ้ายได้คล้ายคลึงเมซซี่ เหมือน มาห์เรซ'' - เจมี่ คาร์ราเกอร์

ดาวเตะทีมชาติ แอลจีเรีย โชวฟอร์มได้อย่าง เจิศจรัส ในนัดที่เอาชนะเชลซี และ ประตูของเขานั้นช่วยให้ จิ้งจอกสยาม มีชัยเหนือ สิงบลู 2 - 1 พร้อมทั้งส่งทีมของตนกลับสู่อันดับ 1 ของตารางอีกครั้ง

ปัจจุบัน ริยาด มาห์เรซ สังหารไปทั้งสิ้น 11 ประตู และ แอซซิสอีก 7 แอซซิส ในซีซั่นนี้ ทั้งนี้ ้ เจมี่ คาร์ราเกอร์ มองว่า ดาวเตะวัย 24 ปี จะต้องถูกจับจ้องจากทีม ยักษ์ใหญ่ใน ยุโรปเป็นแน่ เนื่องจากผลงานที่เขาได้โชว์ภายในสนาม

มีเพียงคนเดียวที่ผมเคยเห็น การใช้เท้าซ้ายได้เหมือน เมสซี่ นั่นคือ เขา เมเรซ - - เจมี่ คาร์ราเกอร์ บอกกับ Sky sport.

แม้แต่ เซซาร์ อัซปีลีกูเอตา ซึ่งถูกจัดว่าเป็น 1 ในยอดกองหลังของ พรีเมี่ย ลีค ฤดูกาลก่อน ยังไม่สามารถรับมือกับเขาได้ หลายทีมใน ยุโรปจะต้องจับจ้องมาที่เขาแน่

สิ่งสำคัญ พวกเขา(เลสเตอร์ ซิตี้) ต้องรักษานักเตะของพวกเขาไว้ใน มกรา นี้ , ทุกคนจะจับจ้องมาที่ วาร์ดี้ และ เมเลซ แต่ถ้าพวกเขาฉลาด พวกเขาจะคงอยู่กับ ทีมของพวกเขา

พวกเขา เล่นฟุตบอลได้ สุดยอด และ หากพวกเขาติด ท๊อป 4 มันจะเป็นเรื่องที่สุดยอดไปเลย

http://www.goal.com/en/news/1862/premier-league/2015/12/15/18362492/mahrez-is-doing-things-only-messi-can-achieve?ICID=OP

------------------------------------------------------------------


0
0