ยูไนเต็ดกับผู้เล่นเกมใหญ่ [บทความ]
ยูไนเต็ดกับผู้เล่นเกมใหญ่ (หลังเกมแพ้อาเซน่อลแบบหมดรูป)
.
.
ถึงแม้จะผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ความพ่ายแพ้ต่อคู่ปรับอย่างอาเซน่อล ยังคงติดในใจผมอยู่ และอยากจะเขียนถึงเกมๆนั้น
.
ในวันนั้นเรานอนดูผ่านคอมที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นการดูบอลครั้งสุดท้ายก่อนออกโรงบาลด้วย 55 ซึ่งมันไม่น่าประทับใจเท่าไหร่เลย
.
ต้องบอกเลยว่า เกมมันจบตั้งแต่ครึ่งของครึ่งแรกแล้วครับนาย.. .
ยูไนเต็ดเริ่มเกมด้วยผู้เล่นชุดเดิมๆ จะมีสับเปลี่ยนบ้างในตำแหน่งกองหลังที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่น โดยเฉพาะในตำแหน่งแบ็คซ้าย เกมนี้เลยได้ อ.ยัง มาประจำการตรงนี้ ส่วน 4 คนในแนวรุกก็ยังเป็นชุดเดิม
.
แต่เมื่อมาดูในตำแหน่งกองกลาง เป็นอะไรที่ตะขิดตะขวงใจตั้งแต่เริ่มเกม เพราะการส่งทั้งคาร์ริค และบาสตี้ ลงมาพร้อมกัน คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนักในการที่จะต้องเผชิญกับแนวรุกเร็วมหาประลัย ของอาเซน่อล
.
และก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ
.
พลพรรคไอ้ปืนใหญ่ เปิดฉากบุกใส่ยูไนเต็ดแบบสุดกำลังตั้งแต่เริ่มเกม ด้วยแนวรุกความเร็วสูง เพื่อหวังจะได้ประตูเร็ว และกดยูไนเต็ดให้โงหัวไม่ขึ้น
.
และพวกเขาก็ทำได้
.
สองประตูของอาเซน่อลมาตั้งแต่ 5 นาทีแรก และประตูที่สามก็ตามมาตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งของครึ่งแรกเลยด้วยซ้ำ
.
ถ้าเปรียบเป็นมวย ถึงตอนนั้นยูไนเต็ดเหมือนโดนต่อยอยู่ข้างเดียว ไม่มีเสียงระฆังช่วย ไม่มีการให้หยุดพักหายใจแต่อย่างใด และไม่สามารถตั้งตัว ต่อเกมของตัวเองได้เลย เป็นนักมวยที่ยืนไม่ได้ ทรงตัว ไม่อยู่ และได้แต่ประคองตัวไปก็เท่านั้น
.
สิ่งที่ผมอยากจะพูดคือ ในวันนั้นยูไนเต็ดไม่มีผู้เล่นที่เรียกได้ว่าเป็น “ผู้เล่นในเกมใหญ่” เหมือนที่เราจะเห็นได้บ่อยๆในยุคป๋า
.
หลังหมดยุครุ่งเรืองของระบบ 4-4-2 บวกกับการที่ตัวผู้เล่นเก๋ายุคเดิมเริ่มโรยรา ทำให้ป๋าต้องทดแทนด้วยผู้เล่นหน้าใหม่ที่อาจจะไม่ได้มีความเก่งมากนัก แต่เป็นผู้เล่นประเภทที่ว่า เล่นดี เล่นได้ตามแผน โดนเฉพาะในเกมใหญ่ๆ อาจจะเรียกอีกอย่างว่าเป็นพวกผึ้งงาน เล่นได้ตามสั่งก็ได้
.
ยูไนเต็ดในยุค Gen ใหม่หลังจบบอลโลก 2006 ที่คว้าแชมป์ได้หลังจบฤดูกาลนั้น มักจะมีผู้เล่นประเภทที่ว่านี้อยู่เสมอ
.
อาจเพราะปัจจัยต่างๆ ด้วยระบบการเล่น การช่วงชิงพื้นที่ในแดนกลางซึ่งเป็นหัวใจของฟุตบอลสมัยใหม่ ทำให้หลายๆทีม รวมทั้งแมนฯ ยูไนเต็ดของป๋าเอง จะใช้ระบบที่มีกองหน้าเพียงคนเดียว และมีกองกลางถึง 5 คน ในเกมสำคัญ
.
และจะมีนักเตะประเภทที่เรียกว่า นักเตะในเกมใหญ่ อยู่ในทีมอย่างน้อย 1 คน
.
หน้าที่หลักของนักเตะประเภทที่ว่านี้คือ ไล่บี้ บทขยี้เกมฝั่งตรงข้ามอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมกับทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อทีมให้มากที่สุด
.
คนที่จะเห็นได้ชัดในตอนนั้นก็คือ ดาร์เร็น เฟร็ทเชอร์และพาร์ค จี ซอง นั่นเอง
.
จุดเด่นที่ทั้ง 2 คนมีคือการเล่นเพื่อทีม ความขยันและการรับคำสั่งแล้วสามารถทำตามได้อย่างดีนั่นเอง ทำให้ทั้งคู่มักจะได้รับโอกาสลงเล่นเพื่อเป็นหมากตัวสำคัญของทีมในเกมใหญ่ๆ
.
และนี่คือสิ่งที่ทีมขาดหายไปในเกมกับอาเซน่อลนี้ ฟาน กัล ส่งกองกลางตัวคุมเกมมาพร้อมกัน 2 คน ด้วยความคิดที่ว่าจะสามารถครองบอลเหนือไอ้ปืนใหญ่ได้ และจะสามารถคุมเกมได้เองตั้งแต่ต้น
.
แต่เกมไม่เป็นแบบนั้น ฟาน กัล คงลืมไปว่าอาเซน่อลคือพวกบ้าครองบอลมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉะนั้น DNA ในการครองบอล ต่อบอล อาเซน่อลไม่แพ้ใครแน่นอน และด้วยแท็กติกของเวนเกอร์ในวันนั้น ทำให้ทุกอย่างลงล็อก เข้าทางอาเซน่อลพอดี
.
นั่นคือความผิดพลาดที่ต้องปรับกันต่อไปของฟาน กัล ในการเลือกตัวผู้เล่นให้เหมาะสมในแต่ละเกม
.
.
การแพ้ครั้งนี้คงทำให้เขาได้รู้ว่า ยูไนเต็ดของเขาไม่สามารถครองบอลเหนือกว่าคู่แข่งได้เสมอไป และเขาจะทำอย่างไรให้ยูไนเต็ดไม่เป็นบอลหน้าเดียวแบบนี้ ให้คู่แข่งที่จับทางได้เล่นงานพวกเขาอีกในครั้งต่อไป .
ขอบคุณภาพจาก : Manchester United
ฝากติดตามผลงานอื่นๆด้วยครับ :
https://www.facebook.com/MeMyWord