ได้ยินคำว่า Gegenpressing มาหลายวัน ไปเจอบทความนี้มาเลยคิดว่าน่าเอามาให้อ่านกันครับ
จาก
http://www.thekop.in.th/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=160776#2986574
ถ้าปรัชญาหลักของเป๊ป คือ Tiki Taka ปรัชญาหลักของคล็อปก็คือ Gegenpressing ซึ่งเขาใช้มาตั้งแต่คุมทีมที่ไมนส์ และ ผลิดอกออกผลเต็มที่กับดอร์ทมุน
Gegenpressing แปลเป็นอังกฤษตรงตัวว่า Pressing Against แปลเป็นไทยโหดๆ ก็คงจะได้ว่า "บี้ แม่มมม" แต่เว็ปภาษาอังกฤษหลายแห่งสรุป Gegenpressing ว่าแท้จริงแล้วคือ Counter Pressing คล็อปรวบกลยุทธในการตั้งรับ(Pressing) เข้ากับการทำเกมรุก(Counter)
ในขณะที่ทั้ง Tiki Taka และ Gegenpressing เน้นการเข้าบีบเร็วทันทีที่เสียบอล ตัวปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังนั้นกลับแตกต่างกันมาก Tiki Taka ต้องการบอลกลับมาให้เร็วด้วยความเชื่อว่าถ้าครองบอลอยู่กับตัว ก็จะมีโอกาสเข้าทำเรื่อยๆ และตัดโอกาสเข้าทำของฝ่ายตรงข้าม Gegenpressing มีแนวคิดตรงข้ามว่า หากกดดันให้ฝ่ายตรงข้ามเสียบอลในแดนได้แล้ว พริบตานั้นจะเป็นโอกาสในการรุกที่ยิ่งใหญ่ เพราะ
1 ใกล้ประตูฝ่ายตรงข้าม
2 ฝ่ายตรงข้ามเสียตำแหน่งตั้งรับไปแล้ว ปีกกับกองหน้าขึ้นไปรอบอล ฟูลแบ็คเติมแล้ว แม้แต่เซนเตอร์ก็อาจจะลอยขึ้นมาสนับสนุนเกมรุกแล้ว
ด้วยเหตุนี้เปอร์เซนต์ครองบอลของดอร์ทมุนจึงไม่สูงมาก เพราะนั่นไม่จำเป็น สิ่งจำเป็นคือตัดบอลในแดนฝ่ายตรงข้ามได้กี่ครั้ง แล้วทำ Pass งามๆไปแดนหน้าได้เท่าไหร่ต่างหาก
อย่างไรก็ตาม Gegenpressing ก็เหมือนกับแผนอื่นๆที่ไม่ได้เพอร์เฟ็คครับ และผลงานของดอร์ทมุนในปีสุดท้ายก็ฟ้องมันออกมาด้วย แรกสุด Gegenpressing ต้องการความฟิตของนักเตะอย่างมาก ซึ่งเป็นประเด็นที่คาดเดาได้อยู่แล้ว อย่างที่สองคือเนื่องจากต้องการเล่นโต้กลับทันทีที่ตัดบอลได้ จำนวนนักเตะที่วิ่งเข้าบีบ และแพทเทิร์นจะซับซ้อนมาก นักเตะต้องไม่บีบชิดเกินไป ไม่อย่างนั้นตัดบอลได้แล้วจะโต้กลับไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องเร็วพอที่จะไม่เปิดโอกาสให้ฝั่งตรงข้ามลงมาตั้งโซนรับ
จากรูปเป็นการเพลสซิ่งชองบาร์เยิร์นในยุคจุป ไฮเกส โดยเน้นการประกบตัว-ตัวผู้เล่นที่ไม่ได้ครองบอลทั้งหมดแล้วอาศัยผู้เล่นหนึ่งคนเข้าแย่ง
อันนี้ของเป๊ป สังเกตว่าเป็ปไม่ได้คุมคน แต่เน้นตัดเส้นทางส่ง โดยอาศัยล้อมกักไว้เฉยๆ ไม่ให้ออก ไม่ให้จ่ายบอล ครองบอลได้ครองบอลไป
ของคล็อป ไม่ได้ประกบ Man-Man เพราะแย่งบอลได้แล้วฉีกตัวออกยาก ในขณะเดียวกันก็เพรสเข้าบีบเร็ว เพื่อแย่งบอลให้ได้ ก่อนฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสลงมาคุมโซน
อย่างที่สาม Gegenpressing เป็นดาบสองคม ในขณะที่ตัดบอลได้โครงสร้างฝ่ายตรงข้ามเสียก็จริง แต่โครงสร้างฝ่ายตัวเองก็เสียไปด้วย การเข้าทำที่ไม่เฉียบขาด การจ่ายบอลผิดพลาดหลังจากตัดบอลมาได้แล้ว จะเป็นอันตรายถึงเสียประตูทันที ดอร์ทมุนชดเชยปัญหานี้ด้วยความเร็วในการเข้าทำ ความคมของแดนหน้า(เลวาน) และการจ่ายบอลควบคุมโครงสร้างอย่างชาญฉลาดในแดนกลาง(ซาฮิน)
ข้อสุดท้ายอาจเป็นคำตอบได้ว่า ทำไมเมื่อเสียเลวานดอฟสกี้ ดอร์ทมุนก็เผชิญปัญหาบุกได้ จบไม่ได้ และแพ้อยู่บ่อยๆ
้house001
เรียบเรียงจาก
http://www.dailysabah.com/sports/2015/04/13/rise-and-fall-of-gegenpressing
http://spielverlagerung.com/2014/10/07/counter-or-gegenpressing/
http://bleacherreport.com/articles/1781622-inside-the-tactical-mind-of-borussia-dortmunds-juergen-klopp
ต่อจากนี้ก็ต้องมาดูกันว่ากลยุทธ์นี้ที่คล๊อปสร้างชื่อที่ดอร์ทมุน จะนำมาปรับใช้กับลิเวอร์พูลได้หรือไม่ เพราะต้องมาเจอกับทีมเล็กที่เล่นรับลึก แน่นสุดๆในพรีเมียร์ ไม่มีพื้นที่ให้โต้จะจีเจนได้อย่างไร หรือคล๊อปจะได้บทเรียนจากปีสุดท้ายที่ดอร์ทมุนไปคิดกลยุทธ์ Gegen advance มา และเอามาใช้ได้ผลสุดๆ ช่างน่าติดตามชะมัด