มี ss เวอร์ชั่นเปิดตัวครั้งแรกไหมครับ  

มี ss เวอร์ชั่นเปิดตัวครั้งแรกไหมครับ  

ภาพยังไม่มี เอาเนื้อหาไปอ่านเล่นๆเวลาเข้าห้องน้ำก็ได้

ประวัติ
ซอคเกอร์ซัคดอตคอม ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ซึ่งตรงกับช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ค.ศ. 2000 โดยเจ้าของเว็บไซต์ที่ใช้นามปากกาว่า เบน ฟรีคิก แต่เดิมซอคเกอร์ซัคดอตคอมถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวิจารณ์นักฟุตบอลที่เล่นไม่ดี โดยสิ่งดลใจของเบน ฟรีคิกในการสร้างเว็บไซต์นี้คือเจมี คาร์ราเกอร์ กองหลังของลิเวอร์พูล ที่ในขณะนั้นเล่นผิดพลาดบ่อยเพราะยังเป็นดาวรุ่งอยู่นั่นเอง
ข่าวสารฟุตบอลในช่วงแรกๆนั้น เบน ฟรีคิก จะคัดลอกมาจากเว็บไซต์กีฬาอื่นๆ เพราะเดิมทีตั้งใจว่าจะทำเป็นงานอดิเรก ยอดผู้เข้าชมช่วงแรกๆนั้นมีเพียงวันละ 4-5 คน ส่วนใหญ่ก็เป็นเบน ฟรีคิกเอง,พี่ชายและน้องสาว หลังจากนั้นไม่นาน เบน ฟรีคิกก็มีเรื่องราวทะเลาะกับเว็บไซต์ hotlinesoccer (ปัจจุบันปิดตัวไปแล้ว ) เรื่องการคัดลอกข่าว จึงหันมาฝึกแปลข่าวด้วยตัวเอง แต่จะเสริมความฮาและมีคำหยาบผสมเพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้แตกต่างจากแหล่งข่าว อื่นๆ
หลังจากที่เว็บไซต์ได้ก่อตั้งขึ้นระยะหนึ่งแล้ว แนวทางการแปลข่าวค่อยๆเปลี่ยนไปเน้นรูปแบบที่เป็นทางการมากขึ้น แต่ก็ยังแฝงไปด้วยมุกตลกและการแซวแสบๆคันๆเช่นเดียวกับช่วงแรกสร้างเว็บไซต์ หลังจากนั้น เบน ฟรีคิก มีโอกาสพัฒนาฝีมือการเขียนข่าวฟุตบอลมากขึ้น เมื่อได้เข้ามาทำงานในบริษัทหนังสือพิมพ์คิกออฟ อดีตหนังสือพิมพ์รายวันในประเทศไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับฟุตบอล จากการชักชวนของเพื่อนร่วมงานที่ใช้นามปากกาว่า

 

สรุปเพื่อนใช้นามปากกาว่าอะไรครับ ทำไมข้อมูลมาไม่หมด
ผมอยาก #Saveสาระ By กลกลซ. ใจจะขาดแล้ว  

ภาพยังไม่มี เอาเนื้อหาไปอ่านเล่นๆเวลาเข้าห้องน้ำก็ได้

ประวัติ
ซอคเกอร์ซัคดอตคอม ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ซึ่งตรงกับช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ค.ศ. 2000 โดยเจ้าของเว็บไซต์ที่ใช้นามปากกาว่า เบน ฟรีคิก แต่เดิมซอคเกอร์ซัคดอตคอมถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวิจารณ์นักฟุตบอลที่เล่นไม่ดี โดยสิ่งดลใจของเบน ฟรีคิกในการสร้างเว็บไซต์นี้คือเจมี คาร์ราเกอร์ กองหลังของลิเวอร์พูล ที่ในขณะนั้นเล่นผิดพลาดบ่อยเพราะยังเป็นดาวรุ่งอยู่นั่นเอง
ข่าวสารฟุตบอลในช่วงแรกๆนั้น เบน ฟรีคิก จะคัดลอกมาจากเว็บไซต์กีฬาอื่นๆ เพราะเดิมทีตั้งใจว่าจะทำเป็นงานอดิเรก ยอดผู้เข้าชมช่วงแรกๆนั้นมีเพียงวันละ 4-5 คน ส่วนใหญ่ก็เป็นเบน ฟรีคิกเอง,พี่ชายและน้องสาว หลังจากนั้นไม่นาน เบน ฟรีคิกก็มีเรื่องราวทะเลาะกับเว็บไซต์ hotlinesoccer (ปัจจุบันปิดตัวไปแล้ว ) เรื่องการคัดลอกข่าว จึงหันมาฝึกแปลข่าวด้วยตัวเอง แต่จะเสริมความฮาและมีคำหยาบผสมเพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้แตกต่างจากแหล่งข่าว อื่นๆ
หลังจากที่เว็บไซต์ได้ก่อตั้งขึ้นระยะหนึ่งแล้ว แนวทางการแปลข่าวค่อยๆเปลี่ยนไปเน้นรูปแบบที่เป็นทางการมากขึ้น แต่ก็ยังแฝงไปด้วยมุกตลกและการแซวแสบๆคันๆเช่นเดียวกับช่วงแรกสร้างเว็บไซต์ หลังจากนั้น เบน ฟรีคิก มีโอกาสพัฒนาฝีมือการเขียนข่าวฟุตบอลมากขึ้น เมื่อได้เข้ามาทำงานในบริษัทหนังสือพิมพ์คิกออฟ อดีตหนังสือพิมพ์รายวันในประเทศไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับฟุตบอล จากการชักชวนของเพื่อนร่วมงานที่ใช้นามปากกาว่า

 

ช่วงนี้ klks เน้นสาระเป็นพิเศษ ต่อโปรให้อีก 1 เดือน พ.ย.ค่อยแบน [ฺเบน ฟรีคิก]