รู้จักคล็อปป์โค้ชสุดฮ็อต ณ เวลานี้
เจอร์เก้น คล็อปป์ คนตกงานที่ดังสุดชั่วโมงนี้
รู้จักคล็อปป์แบบคร่าวๆ
กุนซือเคราดกอาจจะมีฤดูกาลสุดท้ายที่ไม่ค่อยดีนักกับเสือเหลืองแห่งเยอรมัน แต่เขาก็ได้รับเครดิตอย่างสูงกับความสำเร็จต่างๆนาๆที่นำมาสู่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งที่นี่ทำให้ลักษณะอันโดดเด่นของเขาฉายแววออกมาได้มากที่สุด
ไม่แน่ว่าการเปลี่ยนแปลงในอดีตเพียงนิดเดียวจะส่งผลให้ปัจจุบันที่เราเห็นกันอยู่นั้นต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2008 ฮัมบวร์กเกือบจะดึงคล็อปป์มาร่วมงานเป็นกุนซือให้ทีมสำหรับครึ่งฤดูกาลหลังได้แล้ว ที่จริงสโมสรตกลงเรื่องค่าจ้างเสร็จแล้วด้วยแต่แล้วเขาก็ต้องกลับไปคุมไมนซ์ตามเดิมในลีก้า 2
เนื่องจากคล็อปป์ไม่ใช่ตัวเลือกเพียงคนเดียว ดังนั้นสเก๊าท์ที่ทำการสัมภาษณ์แคนดิเดตรายต่างๆให้เสนอแนวคิดของตัวเอง แต่สิ่งที่คล็อปป์เจอมานั้นเข้าขั้นแย่เลย เพราะพวกเขาไม่ชอบการแต่งตัวของคล็อปที่ใส่ยีนส์แบบขาดๆ พวกเขายังว่าคล็อปป์โกนหนวดมาไม่เรียบร้อยอีกด้วย คล็อปถึงกับโดนต่อว่าเป็นพวกไร้มารยาท
ฮัมบวร์กกาชื่อคล็อปป์ทิ้งออกจากลิสต์ทำให้จบฤดูกาลนั้นเขาไปรับงานที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แทน หลังจากนั้นสิงห์เหนือเปลี่ยนโค้ชมา 13 คนตลอด 7 ฤดูกาลที่ผ่านมาส่วนคล็อปป์ก็เปลี่ยนดอร์ทมุนด์เป็นทีมที่อาจพูดได้ว่าเล่นเกมรุกตื่นเต้นที่สุดในทวีปและกลายเป็นผู้จัดการทีมเนื้อหอมสุดๆของยุโรปจากบุคลิกส่วนตัวและฝีไม้ลายมือ เขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ 2 สมัยติดในฤดูกาล 2010-11,11-12 รวมทั้งฟุตบอลถ้วยในประเทศ 2011-12 และการพาเสือเหลืองทะลุเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกฤดูกาล 2012-13
เซอร์ไพรส์ที่ไม่มีใครคาดคิด
สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่แผนเมื่อตอนที่ดอร์ทมุนด์จ้างเขาเลยแม้แต่น้อย ในปี 2005 ดอร์ทมุนด์เพิ่งรอดจากสถานะล้มละลาย ทั้งหมดที่โบรุสเซียต้องการก็เพียงแค่คนที่จะเข้ามาสร้างทีมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งเนื่องจากมีแต่นักเตะที่เหนื่อยล้าและใกล้เข้าฝั่งเต็มที
คล็อปป์เองก็รู้ว่าที่นี่ไม่มีงบประมาณให้ใช้จ่ายมากนักในตลาดนักเตะ (แม้หลังจากที่เขาได้สัญญาฉบับเต็มจากดอร์ทมุนด์ เขายังรู้สึกโอเครที่ได้รับงบประมาณมากกว่าสมัยอยู่ไมนซ์ก็ตาม) สิ่งที่คล็อปป์ต้องการก็คือสนานที่สักแห่งซึ่งฟุตบอลเป็นอะไรที่มากกว่าเกมการแข่งขันและธุรกิจ และที่ซึ่งจะทำให้เขาสนุกกับการทำงาน
มันดูบ้าเหมือนกัน ณ เวลาปัจจุบันแต่ในตอนแรกแฟนๆเสือเหลืองก็วิจารณ์คล็อปป์อยู่ไม่น้อยเลย ทั้งๆที่เขามีผลงานที่น่าทึ่งทีเดียวสมัยอยู่กับไมนซ์ โดยการพาสโมสรเล็กๆทะลุขึ้นมายื้อบนบุนเดสลีกาได้นาน 3 ฤดูกาลก่อนจะตกชั้นกลับไป แน่นอนว่าเขาไม่ใช่โค้ชในดวงของแฟนบอลประจำทีมที่มีประวัติศาสตร์และประเพณีอันยาวนาน แบบดอร์ทมุนด์ ดังนั้นหลายๆคนจึงปรามาศเขาว่าเป็นแค่เซียนหน้าจอทีวี เขาพากันพูดว่าเหตุผลที่คล็อปป์โด่งดังนั้นไม่ใช่จากงานกุนซือแต่มาจากเป็นนักวิจารณ์ให้รายการโทรทัศน์ที่เขาวิเคราะห์เกมระดับทีมชาติด้วยท่าทางอันน่าตื่นเต้นและสดชื่นอยู่ตลอด
บางคนพูดว่าจุดแข็งเพียงอย่างเดียวของคล็อปป์นั่นก็คือการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน โจฮานเนส บี เคอร์เนอร์ คู่ขาของเขาในรายการเปิดเผยในภายหลังว่าครั้งหนึ่ง ขณะที่เหลือเวลาไม่กี่นาทีก่อนเริ่มโชว์เขาได้ถามคล็อปป์ว่า “ใครๆก็บอกว่านายจุดไฟในตัวคนอื่นๆได้ หากผมเป็นนักเตะในทีมของคุณ คุณจะทำยังไงให้อดรีนาลีนผมพุ่งพล่าน” คล็อปป์มองหน้าเขาสักพักและจัดการตบหน้าฉาดใหญ่เข้าไปที่ใบหน้าของเคอร์เนอร์
คล็อปป์เป็นโค้ชที่มีสเน่ห์และเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในด้านการสื่อสารกับผู้คน ไม่ว่าจะเป็นกับแฟนบอล, นักเตะ, เจ้าหน้าที่สื่อ เขาจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับว่าคุณเป็นบุคคลสำคัญในเวลานั้นๆตราบนานไปกระทั่งจบบทสนทนา
ทักษะชิ้นนี้ทำให้เขาเป็นโค้ชที่บรรดานักเตะต้องการลงเล่นแบบถวายหัว ตลอด 2 ฤดูกาลแรกที่ดอร์ทมุนด์ เขาสร้างทีมใหม่โดยการขายดาวเตะประจำทีมและแข้งตัวเก๋าๆออกไปและทดแทนด้วยผู้เล่นดาวรุ่งที่ฝันว่าจะมีอนาคตอันรุ่งโรจน์ ขนาดที่แข้งรายหนึ่งซึ่งคล็อปป์ปล่อยตัวออกไปยังบอกว่า “เหตุผลหนึ่งที่ผมเสียใจจากการต้องย้ายออกจากสโมสรนี้ก็คือผมได้หลงรักการทำงานกับโค้ชคนนี้ไปแล้ว”
ศึกษาแผนการเล่นเป๊ป
ไม่ได้มีดีที่ลมปากเพียงอย่างเดียว เขาคิดค้นแผนการเล่นแบบใหม่ขึ้นมาจากการศึกษาระบบเพรสซิ่งของบาร์เซโลน่าและรวมมันเข้าไว้กับเกมสวนกลับที่เน้นความรวดเร็ว, ความเข้าใจกันระหว่างผู้เล่นและการเคลื่อนที่จนกลายมาเป็นสไตกล์การเล่นที่ดุดันสุดๆในชื่อที่เรียกกันโดยทั่วไปจากปากของผู้คิดค้นระบบชาวเยอรมันว่า
“เกเก้นเพรสซิ่ง” (Gegenpressing)
บางทีมันดูเว่อร์ไปถ้าใช้ชื่อคล็อปป์ โดย คล้าก วิทนี่ย์ คอลัมนิสต์กล่าวว่า “คล็อปป์สร้างแท็คติกการเคลื่อนที่รูปแบบใหม่ที่ลอกเลียนมาจากสโมสรระดับท็อปๆของยุโรปหลายๆทีมเข้าไว้ด้วยกัน” และแน่นอนว่าสไตล์การเล่นที่น่าเชียร์ของดอร์ทมุนด์นั้นเป็นอะไรที่ท้าทายอย่างมาก คู่ต่อสู้หลายๆทีมต้องหาวิธีการรับมือกับความเข้มข้นและดุดันนี้
ครั้งแรกที่ เป๊ป กวาดิโอล่า มาเยือนดอร์ทมุนด์ในฐานะของกุนซือบาเยิร์น มิวนิค ช่วงพฤษจิกายน 2013 เขาทำให้ผู้ชมในสนามต้องตกละลึงจากการไม่ใช้แผนการเล่นแบบติกิตาก้าอันเป็นเครื่องหมายการค้าของตัวเอง เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงในการเผชิญกับเกเก้นเพรสซิ่งของคล็อปป์ นักเตะเสือใต้เล่นสิ่งที่ไม่คาดคิด พวกเขาเล่นบอลโด่ง “จากการดูบาร์เยิร์นลงแข่งมาหลายเกมมากๆ ผมแทบไม่เคยเห็นพวกเล่นบอลยาวมากขนาดนี้เลยในรอบ 3 ปี” คล็อปให้สัมภาษณ์หลังจบเกม
กุนซือแห่งยุคที่ได้รับการยกย่องและประสบความสำเร็จมากที่สุดถึงกับต้องตัดสินใจหันหลังให้กับปรัชญาของตัวเองเพื่อแก้เกมกับระบบการเล่นของคล็อปป์ นั้นเป็นเดิมพันที่สูงมากทีเดียวสำหรับการเป็นผู้จัดการทีม
สรุปแท็คติกการเล่นของคล็อปป์แบบพอสังเขป
แม้ว่าฤดูกาลสุดท้ายของคล็อปป์กับดอร์ทมุนด์นั้นจะไม่สวยหรู แม้จะเข้าชิงเดเอฟเบ โพคาล แต่ก็พลาดท่าพ่ายโวล์ฟบวร์ก 3-1 และยังต้องเผชิญกับสถานการณ์ลุ้นหนีตกชั้นของทีมในช่วงต้นซีซั่นอีกด้วย แต่การพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีก้า 2 สมัยและเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีกได้ทำให้คล็อปยังเป็นที่เคารพของแฟนบอลอย่างมาก
ปัจจัยสำคัญต่อแผนการเล่นที่คล็อปป์ใช้ก็คือพลังงานและการเคลื่อนที่ ในช่วงพีคๆดอร์ทมุนด์ทำทุกๆอย่างได้ด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ การสลับหน้าที่ในแนวรับ,รุก การยืนเพรสซิ่งลึกเข้าไปถึงแดนของฝั่งตรงข้ามเพื่อจะแย่งบอลกลับมาให้เร็วที่สุด นักเตะดอร์ทมุนด์คุมพื้นที่ใกล้กันมากพอที่จะเคลื่อนที่บอลต่อได้อย่างคล่องตัว และขับเคลื่อนเกมได้อย่างดุดันจากทุกพื้นที่ของสนาม เมื่อดูจากมุมกว้างแล้วมันเป็นอะไรที่น่าชมอย่างมาก
เริ่มแรกนั้นเขาใช้แผน 4-2-3-1 แต่การทดลองมาใช้ 4-3-3 และ 4-3-1-2 ก็ให้ผลดีเช่นกัน บางครั้งเขาก็สลับมาใช้แผนกองหลัง 3 คนด้วย จนดูเหมือนว่าเขาเปลี่ยนแผนบ่อยและมากเกินไป คำถามอีกอย่างก็คือความสามารถในการเฟ้นหานักเตะฝีเท้าเยี่ยมจากตลาดนักเตะ ชัดเจนที่สุดก็คือกรณีของ โรเบิร์ต เลวานดอว์สกี้ ที่จนถึงตอนนี้ยังหาตัวแทนไม่ได้เลย
แต่ในฐานะของเทรนเนอร์และนักวางแผนแล้ว ชื่อเสียงของชายวัย 48 ปีนั้นมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งทวีป ข้อสงสัยเดียวคือเขาจะนำวิธีการดังกล่าวไปใช้กับสโมสรอื่นๆได้หรือไม่และต้องใช้เวลานานสักเท่าไร
“แผนผังแสดงตำแหน่งที่ดอร์ทมุนด์แย่งบอลจากรีล แมดริด ได้ในการพบกันทั้ง 2 นัดของเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองชนะเลิศในฤดูกาล 2012-13 ที่เสือเหลืองเป็นฝ่ายเอาชนะราชันชุดขาวด้วยสกอร์ 4-1 ทั้ง 2 นัด (x สีเขียวแย่งสำเร็จ x สีส้มแย่งไม่สำเร็จ)”
เครดิต Credit Uli Hesse
http://www.fourfourtwo.com/features/fourfourtwos-50-best-football-managers-world-2015-no6#:iieXjEW_gPHz8A