“โฆเซ่ มูรินโญ่” การเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตกุนซือ (เสือปืนไว)
ถ้าจะบอกว่าชั่วโมงนี้คือช่วงเวลาที่ย่ำแยที่สุดในชีวิตการคุมทีมของ “โฆเซ่ มูรินโญ่” ก็คงจะไม่ผิดหนัก หลังจากพาทีมสิงห์บูลส์ เชลซี พ่ายเป็นเกมที่ 4 จาก 8 เกมที่ลงเตะมีแค่ 8 แต้ม รั้งอันดับ 16 ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกทีมจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ทิ้งห่างไปแล้ว 10 แต้ม คงไม่มีใครคาดคิดว่าผลงานของเชลซีที่มีดีกรีเป็นแชมป์เก่าจะออกมาเลวร้ายได้ขนาดนี้ เวลานี้เชื่อว่ามีแต่คำถามความสงสัยเกิดขึ้นไปทั่ว ไม่ใช่แค่เฉพาะตัว มูรินโญ่ แต่ไม่ว่าจะเป็น นักเตะ ทีมสต๊าฟโค้ช บอร์ดผู้บริหาร และรวมทั้งแฟนบอลสิงโตน้ำเงินคราม เชื่อว่าไม่ว่าใครก็คงยังหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมทีมที่เคยคว้าแชมป์แบบสบายๆ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แพ้แค่ 3 นัดจาก 38 เกมที่ลงเล่นทั้งฤดูกาล กำลังเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งผลการแข่งขันและฟอร์มการเล่นของทีม
อย่างที่เรารู้กันว่า มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีมประเภทที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่เคยแคร์เสียงวิจารณ์ ไม่แค่แม้กระทั่งบอร์ดบริหาร ไม่แคร์นักเตะ บางครั้งก็ถึงขั้นไม่แคร์แฟนบอล นั่นเป็นเพราะเจ้าตัวเชื่อมั่นในความคิดและการตัดสินใจเรื่องการทำทีมของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่สิ่งที่ มูรินโญ่ ทำมักจะถูกต้องเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในฤดูกาลแรกที่เจ้าตัวย้ายมาคุมเชลซีพร้อมกับการหอบเอาทีมงานของตัวเองจากโปรตุเกสเข้ามาจัดการงานด้านการทำทีม พร้อมกับการปลอด สตีฟ คลาร์ก คนที่เป็นทั้งตำนานนักเตะและอยู่เป็นโค้ชให้กับทีมมาอย่างยาวนานออกไปจากทีม แต่ผลที่ได้คือฤดูกาลนั้นเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรกของสโมสรได้สำเร็จ พร้อมกับประกาศตัวเป็นทีมแถวหน้าของลีกพร้อมลุ้นแย่งแชมป์ทุกฤดูกาลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รวมถึงการไม่ยอมอ่อนข้อตามคำสั่งของ โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีม ในปี 2006-07 อับราโมวิช จัดการแต่งตั้ง แฟรงค์ อาร์เนเซ่น เข้ามาเป็นผู้จัดการฝ่ายกีฬาของทีม พร้อมกับการจ่ายเงินสูงเป็นสถิติสโมสรคว้าตัว อันเดร เชฟเชนโก ซึ่งเป็นหนึ่งยอดศูนย์หน้าในเวลานั้นเข้าสู่ทีม เนื่องจากความชื่นชอบในฝีเท้าเป็นการส่วนตัวของ อับราโมวิช และหวังจะสร้างภาพลักษณ์ใหม่ๆ ให้กับทีมเชลซี เพราะ เชฟเชนโก ถือว่าเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกน่าจะดึงดูดให้แฟนบอลทั่วโลกรู้จักทีมเชลซีมากขึ้น แต่ เชฟเชนโก ไม่ใช่นักเตะที่มาจากความตั้งใจของ มูรินโญ่ ปีนั้น เชฟเชนโก ลงเล่นในลีกให้เชลซีไป 30 เกม แต่ยิงให้ทีมได้แค่ 4 ลูก แตกต่างจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา ศูนย์หน้าที่ มูรินโญ่ เป็นคนเลือกที่จะเซ็นสัญญาด้วยตัวเอง ที่ฤดูกาลนั้นกองหน้าไอเวอรี่ โคช ซัดให้ทีมไปเฉพาะในลีก 20 ลูก สูงที่สุดตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับเชลซีเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน แต่ในท้ายที่สุดความไม่ลงรอยกันระหว่าง มูรินโญ่ กับ อับราโมวิช จะมาแตกหักกันจนได้ในฤดูกาล 2007-08 มูรินโญ่ ถูกไล่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม
หรืออย่างสมัยที่ไปคุม เรอัล มาดริด มูรินโญ่ ก็กล้าทำสิ่งที่ทำเอาแฟนบอลราชัญชุดขาดต้องอึ้ง เมื่อจัดการดร๊อป อิเคร์ กาซิยาส นายประตูกัปตันทีมผู้เป็นที่รักของแฟนๆ ให้เป็นเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง หลักจากโชว์ฟอร์มไม่ดีเพราะถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน แต่ถึงแม้นายทวารทีมชาติสเปนจะหายเจ็บกลับมาพร้อมลงเฝ้าเสาให้ทีม แต่ มูรินโญ่ ก็ยังเลือก ดิเอโก้ โลเปซ เป็นมือหนึ่งของทีมในฤดูกาล 2012-13 แต่จบฤดูกาลนั้น เรอัล มาดริด ได้แค่รองแชมป์ลาลีก้า
ฤดูกาลนี้ทีมเชลซีของ มูรินโญ่ จะเจอกับปัญหาตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาล ในเกมที่เปิดบ้านเสมอกับสวอนซี ซิตี้ไป 2-2 เกมนั้น มูรินโญ่ มีปัญหากับ อีวา คาร์เนโร แพทย์สาวคนสวยของทีม โดย มูรินโญ่ โทษว่าการวินิจฉัยอาการบาดเจ็บของนักเตะในทีมผิดพลาด ทำให้นักเตะเชลซีต้องออกไปปฐมพยาบาลที่ข้างสนามทำให้ทีมต้องเหลือผู้เล่นในสนามแค่ 10 คน เป็นเหตุให้ถูกผู้เล่นทีมเยือนบุกขึ้นมาทำประตูได้ ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นข่าวคึกโครม อีวา คาร์เนโร ถูกพักงาน พร้อมกับที่แพทย์สาวนำเรื่องให้ FA พิจารณา แม้ FA จะออกมาชี้แจงว่าเรื่องนี้ มูรินโญ่ ไม่มีความผิด แต่สื่อก็โจมตีกับกระทำนี้ของ มูรินโญ่ ไม่น้อย นอกจากนี้ยังมีเรื่องการใช้สงครามน้ำลายกับ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือของไอ้ปืนใหญ่ ซึ่งสือก็โจมตี มูรินโญ่ เรื่องนี้อีก เพราะสงครามระหว่าง 2 กุนซือคู่นี้มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ และเกือบทุกครั้งมักจะเป็น มูรินโญ่ ที่เป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน รวมทั้งกรณีล่าสุดคือ พฤติกรรมในสนามที่น่ารังเกียจของ ดิเอโก้ คอสต้า ในเกมกับอาร์เซนอล ซึ่งทุกคนต่างลงความเห็นว่า คอสต้า จงใจเล่นนอกเกมและค่อยแต่ยั่วยุคู่แข่ง มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เห็นต่างนั่นคือ มูรินโญ่ แถมยังมีการออกมายกย่องว่า คอสต้า คือฮีโร่ของทีมในเกมดังกล่าวอีกตั้งหาก ชื่อของ มูรินโญ่ ตกเป็นเป้าของสื่ออีกครั้ง
ปัญหานอกสนามก็มากมายนับไม่ถ้วน ส่วนปัญหาในสนามก็ไม่ต้องพูดถึง หยิบยกมาพูดถึงได้แทบทุกจุด
มูรินโญ่ ยอมรับว่านี้คือช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในอาชีพการเป็นกุนซือ แต่เจ้าตัวออกมายืนยันแล้วว่า จะไม่ยอมลาออก ถ้าจะให้เขาพ้นจากตำแหน่งสโมสรต้องไล่เขาออกเท่านั้น หรือถ้าหากนักเตะในทีมไม่ต้องการเขาเขาก็พร้อมจะไป เจ้าตัวยังคงแสดงความมั่นใจตามสไตล์ ว่าเขาคือผู้จัดการที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร แต่ก็ไม่รู้ว่าเกียรติประวัติทั้งหมดที่เจ้าตัวเคยทำมา จะมีค่าพร้อมซื้อใจซื้อความอดทนของ โรมัน อับราโมวิช เจ้าของสโมสรได้มากน้อยแค่ไหน เพราะฟุตบอลสมัยนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้
ที่มา http://banpolballs.com/?p=2160