สาธุ : สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?
สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?
จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๓๑๓ หน้าที่ ๓๖ โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
เป็นอันว่า เหตุ ๕ ประการนี้ ทั้งสัตว์ทั้งคนต้องการ ที่ชาวบ้านซึ่งมีจิตใจระยำๆ เขาบอกว่า สัตว์น่ะเกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์ แล้วเขาก็ตั้งใจฆ่าสัตว์เอาเนื้อสัตว์มากิน
ถามว่า มันบาปไหม ?
เขาบอกว่า
"ไม่บาป"
ถามว่า
เพราะอะไร ?
เขาบอกว่า
"เพราะว่าสัตว์มันเกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์" ว่ายังงั้น
ไอ้คำว่า
"บาป" นี่ก็แปลว่า
ชั่ว
ทีนี้เรามานั่งนึกกันดูว่า ถ้าสัตว์มันเกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์โดยเจตนา แล้วมันก็รู้ตัวมันมีหน้าที่เลี้ยงมนุษย์ยังงั้นละก็ เมื่อบุคคลหรือบรรดามนุษย์ทั้งหลายมีความต้องการจะเอาสัตว์มากิน บรรดาเจ้าสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นมันไม่วิ่งหนีหรอก มันวิ่งเข้ามาหมอบให้ฆ่ามันด้วยความเต็มใจ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นนี่ ไม่ว่าสัตว์ประเภทไหน ถ้ามันไม่เผลอ เราจะไปฆ่ามันละก็ เห็นวิ่งโทงๆ ทุกรายแหละ บางทีจับมาได้กำลังจะฆ่ามันยังดิ้นอีก แล้วก็จะมานั่งคิดว่าสัตว์มันมีเจตนา คือ มีความรู้สึกในจิต หรือตั้งใจไว้ว่าเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ นี่มันจะใช้ได้หรือเปล่า มันก็ใช้ไม่ได้ อารมณ์แบบนี้แหละบรรดาท่านทั้งหลายที่เรียกกันว่า
"อารมณ์ของพาลแปลว่าโง่" ทำไมจึงว่าโง่ ไอ้ทีตัวเองล่ะรักชีวิต ตามที่พูดมาแล้วไม่อยากให้ใครมาฆ่าตัวเอง ไม่อยากให้ใครมาประทุษร้าย แม้แต่บอบช้ำก็ไม่ต้องการ แล้วก็ทรัพย์ศฤงคารต่างๆ ที่มีอยู่ ไม่ต้องการให้ใครมายื้อแย่งมาคดมาโกง หรือว่าคนรักของเราก็ไม่อยากให้ใครมาป้วนเปี้ยนๆ ด้อมๆ มองๆ แย่งความรัก แล้วเราก็ไม่ต้องการพูดโกหกมดเท็จกับใคร เราไม่มีความตั้งใจอยากจะเป็นคนบ้า ตานี้ เมื่อเรามาเกิดในโลก มีความรู้สึกอย่างนี้ เราก็ไปนั่งมองดูตามความเป็นจริง ว่าคนและสัตว์ในโลกนี้น่ะมีความรู้สึกเหมือนเราบ้างไหม อันนี้เห็นจะไม่ต้องตอบให้มันยากเพราะอะไร เพราะว่าเราเองมีความรู้สึกเช่นนี้คนอื่นก็ต้องมีความรู้สึกเหมือนกัน ทั้งคนและสัตว์ ถ้ามิฉะนั้นละก็ ไม่มีใครเขาหนีภัยกันเวลาอันตรายมาถึง นี่คือกฎธรรมดาของคนและสัตว์มีความต้องการอย่างนี้.
กราบสาธุพ่อแม่ครูอาจารย์ครับ