ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 12 Sep 2013
ตอบ: 1036
ที่อยู่: ฺBKK
โพสเมื่อ: Wed Oct 07, 2015 1:17 pm
สาธุ : สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?
สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?
จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๓๑๓ หน้าที่ ๓๖ โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน




เป็นอันว่า เหตุ ๕ ประการนี้ ทั้งสัตว์ทั้งคนต้องการ ที่ชาวบ้านซึ่งมีจิตใจระยำๆ เขาบอกว่า สัตว์น่ะเกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์ แล้วเขาก็ตั้งใจฆ่าสัตว์เอาเนื้อสัตว์มากิน
ถามว่า มันบาปไหม ?

เขาบอกว่า "ไม่บาป"
ถามว่า เพราะอะไร ?
เขาบอกว่า "เพราะว่าสัตว์มันเกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์" ว่ายังงั้น



ไอ้คำว่า "บาป" นี่ก็แปลว่า ชั่ว
ทีนี้เรามานั่งนึกกันดูว่า ถ้าสัตว์มันเกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์โดยเจตนา แล้วมันก็รู้ตัวมันมีหน้าที่เลี้ยงมนุษย์ยังงั้นละก็ เมื่อบุคคลหรือบรรดามนุษย์ทั้งหลายมีความต้องการจะเอาสัตว์มากิน บรรดาเจ้าสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นมันไม่วิ่งหนีหรอก มันวิ่งเข้ามาหมอบให้ฆ่ามันด้วยความเต็มใจ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นนี่ ไม่ว่าสัตว์ประเภทไหน ถ้ามันไม่เผลอ เราจะไปฆ่ามันละก็ เห็นวิ่งโทงๆ ทุกรายแหละ บางทีจับมาได้กำลังจะฆ่ามันยังดิ้นอีก แล้วก็จะมานั่งคิดว่าสัตว์มันมีเจตนา คือ มีความรู้สึกในจิต หรือตั้งใจไว้ว่าเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ นี่มันจะใช้ได้หรือเปล่า มันก็ใช้ไม่ได้ อารมณ์แบบนี้แหละบรรดาท่านทั้งหลายที่เรียกกันว่า "อารมณ์ของพาลแปลว่าโง่" ทำไมจึงว่าโง่ ไอ้ทีตัวเองล่ะรักชีวิต ตามที่พูดมาแล้วไม่อยากให้ใครมาฆ่าตัวเอง ไม่อยากให้ใครมาประทุษร้าย แม้แต่บอบช้ำก็ไม่ต้องการ แล้วก็ทรัพย์ศฤงคารต่างๆ ที่มีอยู่ ไม่ต้องการให้ใครมายื้อแย่งมาคดมาโกง หรือว่าคนรักของเราก็ไม่อยากให้ใครมาป้วนเปี้ยนๆ ด้อมๆ มองๆ แย่งความรัก แล้วเราก็ไม่ต้องการพูดโกหกมดเท็จกับใคร เราไม่มีความตั้งใจอยากจะเป็นคนบ้า ตานี้ เมื่อเรามาเกิดในโลก มีความรู้สึกอย่างนี้ เราก็ไปนั่งมองดูตามความเป็นจริง ว่าคนและสัตว์ในโลกนี้น่ะมีความรู้สึกเหมือนเราบ้างไหม อันนี้เห็นจะไม่ต้องตอบให้มันยากเพราะอะไร เพราะว่าเราเองมีความรู้สึกเช่นนี้คนอื่นก็ต้องมีความรู้สึกเหมือนกัน ทั้งคนและสัตว์ ถ้ามิฉะนั้นละก็ ไม่มีใครเขาหนีภัยกันเวลาอันตรายมาถึง นี่คือกฎธรรมดาของคนและสัตว์มีความต้องการอย่างนี้.











กราบสาธุพ่อแม่ครูอาจารย์ครับ

เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 51027
ที่อยู่: สเปอร์ส&ชมรมคนรักหนัง&เนย
โพสเมื่อ: Wed Oct 07, 2015 1:19 pm
[RE: สาธุ : สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?]
สาธุ

โดย whitehunter เมื่อวันที่ 30 April 2019 20.04 [เหตุผล]
เข้าร่วม: 23 Jan 2009
ตอบ: 3581
ที่อยู่: , Now reap the whirlwind
โพสเมื่อ: Wed Oct 07, 2015 1:19 pm
[RE: สาธุ : สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?]
ก็มันอร่อยอ่ะ
เข้าร่วม: 13 Jul 2009
ตอบ: 8256
ที่อยู่: บนโลกที่ใดที่หนึ่ง
โพสเมื่อ: Wed Oct 07, 2015 1:25 pm
[RE: สาธุ : สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?]
นะโม ตัสสะ
เข้าร่วม: 06 Sep 2013
ตอบ: 1814
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 07, 2015 1:37 pm
[RE: สาธุ : สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?]
คนโชคดีที่ธรรมชาติสร้างมาให้ฉลาด และสามารถฉลาดยิ่งๆขึ้นไป ถ้าคนไม่ฉลาดยังเหมือนยุคโบราณ เราก็มีสิทธิสูงที่จะเป็นอาหารของสัตว์ เช่นเดียวกันนั่นแหละ ผมว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับ บุญ บาป อะไรหรอก แค่เป็นเรื่องของ อาหาร ที่ คนหรือสัตว์อื่นๆ ต้องการเพื่อ ดำรงชีพ แค่นั้นเอง
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 851
ที่อยู่: Bangkok
โพสเมื่อ: Wed Oct 07, 2015 1:39 pm
[RE: สาธุ : สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?]
สาธุครับ

เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1789
ที่อยู่: London
โพสเมื่อ: Wed Oct 07, 2015 2:12 pm
[RE: สาธุ : สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?]
กฎธรรมชาติ
Blue is the colour

เข้าร่วม: 12 Sep 2013
ตอบ: 1036
ที่อยู่: ฺBKK
โพสเมื่อ: Wed Oct 07, 2015 4:41 pm
[RE: สาธุ : สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?]
มาสเตอร์โยดา พิมพ์ว่า:
คนโชคดีที่ธรรมชาติสร้างมาให้ฉลาด และสามารถฉลาดยิ่งๆขึ้นไป ถ้าคนไม่ฉลาดยังเหมือนยุคโบราณ เราก็มีสิทธิสูงที่จะเป็นอาหารของสัตว์ เช่นเดียวกันนั่นแหละ ผมว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับ บุญ บาป อะไรหรอก แค่เป็นเรื่องของ อาหาร ที่ คนหรือสัตว์อื่นๆ ต้องการเพื่อ ดำรงชีพ แค่นั้นเอง  

ต้องพิจารณาดีดีนะครับ การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตโดยเจตนา ในทางพระพุทธศาสนาถือว่าเป็นบาปนะครับ
0
0

เข้าร่วม: 12 Sep 2013
ตอบ: 1036
ที่อยู่: ฺBKK
โพสเมื่อ: Wed Oct 07, 2015 4:48 pm
[RE: สาธุ : สัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์จริงหรือ ?]
ขออธิบายถึงศีลข้อปาณาติบาต คือ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ นั้นจะผิดศีลก็ต่อเมื่อประกอบด้วย องค์ ๕ คือ

๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต
๒. ปาณสญฺญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
๓. วธกจิตฺตํ จิตคิดจะฆ่า
๔. อุปกฺกโม พยายามที่จะฆ่า
๕. เตน มรณํ สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น

เมื่อครบองค์ประกอบทั้ง ๕ ข้อ จึงถือว่าเป็นการฆ่าสัตว์ ผิดศีลข้อที่ ๑ เป็นบาป แต่ถ้าไม่ได้ลงมือฆ่าเอง และไม่ได้ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ก็ไม่เป็นบาป ตัวอย่าง เราไปจ่ายตลาด ซื้อกุ้งแห้ง ปลาดุกย่าง ปลาทู เนื้อหมู ฯลฯ เราได้มีส่วนร่วมในการฆ่าสัตว์เหล่านั้นหรือไม่ สัตว์เหล่านั้นย่อมตายก่อนที่เราจะไปซื้อมาเป็นอาหาร ถึงเราจะซื้อหรือไม่ซื้อ สัตว์เหล่านั้นก็ตายอยู่แล้ว เราไม่ได้มีส่วนทำให้ตาย

มีพุทธภาษิตบทหนึ่งว่า
“นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโต”
“บาป ไม่มีแก่ผู้ไม่ทำ”

การกินผักก็อาจจะต้องฆ่าสัตว์ทางอ้อมไปด้วยเช่นกัน เพราะต้องไถดิน ใส่ปุ๋ย ใช้ยากำจัดแมลง อาจทำให้แมลงต่างๆ ไส้เดือนตายได้ ถ้าแบบนี้บาปก็คงไม่ต้องทำสัมมาอาชีพกันเลย

ที่มา : วิสัชนาธรรมโดย พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ
1
0