"บีร็อด" เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่หงส์แดง เคยมีวาทะเด็ด ๆ เอาไว้มากมายนับตั้งแต่เจ้าตัวเข้ามาคุมทีม ซึ่งแต่ละวาทะดูเหนือ ๆ ทั้งนั้น ทว่าหลังจากจบการแข่งขันในฤดูกาลล่าสุดคำพูดเหล่านั้นมันดูเป็นเรื่องที่น่าตลกไปในทันที จากรายงานของ mirror.co.uk เมื่อ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เป็นผู้จัดการทีมประเภทนักปรัชญา เขามักจะมีแนวทางการพูดหรือวาทะที่ดี ๆ ออกมาเสมอ ๆ ทว่าบางสิ่งที่เขาพูดออกไป ในที่สุดมันก็กลับมาหาเขาเองอย่างน่าเจ็บปวด การเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลมันไม่มีอะไรมาก นอกจากจะต้องทำผลงานให้ดี สวนเรื่องปรัชญาเก็บเอาไว้ใจในการทำทีมก็น่าจะเพียงพอ

9 วาทะเด็ดจากปาก บีร็อด

1.) ดูอย่างสเปอร์สสิ..ถ้าคุณใช้เงินเสริมทัพไปกว่าร้อยล้านปอนด์ สิ่งเดียวที่ควรจะเกิดขึ้นคือลุนแชมป์เท่านั้น

2.) ให้โอกาสผมสัก 3 ปี แล้วค่อยมาตัดสินผม (พูดในปี 2012)

3.) ที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของผม คือตัวผมเอง ผมศึกษามาแล้วเป็นอย่างดีว่าผมควรจะต้องเป็นผู้นำของตัวเอง

4.) ผมบอกอยู่ตลอดว่าทีมเป็นเหมือนกับอาหารที่ดี แม้ว่าผมจะไม่ใช่พ่อครัวทีดีนัก แต่อาหารที่ดีต้องใช้เวลา

5.) ผมศึกษามาแล้วเป็นอย่างดีว่า ถ้าเราสามารถเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าคู่แข่ง เราจะมีโอกาสเอาชนะได้มากถึง 79%

6.) ผู้เล่นดาวรุ่งจะพยายามวิ่งชนกำแพงเพื่อคุณ ในขณะที่ผู้เล่นเก๋า ๆ มักจะหาทางข้ามกำแพงไปให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าผู้เล่นวัยรุ่นจะสู้เพื่อคุณ

7.) ถ้าคุณสามารถครองบอลต่อบอลกันได้มากถึง 65-70% ต่อเกม แน่นอนว่ามันจะเป็นการเล่นฟุตบอลทร่ยอดเยี่ยม ซึ่งมันจะทำให้คู่แข่งของคุณเจอกับงานหนักแน่ ๆ

8.) ทีมของเราลงเล่นทั้งหมด 11 คน แต่ทีมอื่น ๆ มีผู้เล่นแค่ 10 คน กับผู้รักษาประตูอีก 1 คน

9.) เราจะไม่เป็นอย่างสเปอร์ส (ฤดูกาลที่แล้วสเปอร์สใช้เงินไป 100ล้าน ได้อันดับ6 #ลิเวอร์พูลปีนี้ก็เช่นกัน)

#FootballGenius

โอ้โห รวมวาทะฆ่าตัวเองทั้งน้านนนนน โรจน์เอ๊ย โดยเฉพาะเสปอร์ส

..... แหม๋ คิดถึงบีรอดกันใหญ่ ..

สม

1.) ดูอย่างสเปอร์สสิ..ถ้าคุณใช้เงินเสริมทัพไปกว่าร้อยล้านปอนด์ สิ่งเดียวที่ควรจะเกิดขึ้นคือลุนแชมป์เท่านั้น
อันดับก็ไม่ได้ดีไปกว่าสเปอร์เลย

2.) ให้โอกาสผมสัก 3 ปี แล้วค่อยมาตัดสินผม (พูดในปี 2012)
3ปี มีแนวโน้มสำเร็จด้านแท็คติคขั้นไร้กระบวนท่า แบบ 9 กระบี่เดียวดาย ตามนิยายกิมย้ง นับถือเลย

3.) ที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของผม คือตัวผมเอง ผมศึกษามาแล้วเป็นอย่างดีว่าผมควรจะต้องเป็นผู้นำของตัวเอง
การเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นการพัฒนาตนเอง

4.) ผมบอกอยู่ตลอดว่าทีมเป็นเหมือนกับอาหารที่ดี แม้ว่าผมจะไม่ใช่พ่อครัวทีดีนัก แต่อาหารที่ดีต้องใช้เวลา
วัตถุดิบชั้นเลิศ แต่ถ้าทำอาหารไม่เป็นมันก็กินไม่ได้

5.) ผมศึกษามาแล้วเป็นอย่างดีว่า ถ้าเราสามารถเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าคู่แข่ง เราจะมีโอกาสเอาชนะได้มากถึง 79%
ในวันที่แพ้ เวสแฮม 0-3 ลิ้วพู ครองบอลถึง 76 %

6.) ผู้เล่นดาวรุ่งจะพยายามวิ่งชนกำแพงเพื่อคุณ ในขณะที่ผู้เล่นเก๋า ๆ มักจะหาทางข้ามกำแพงไปให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าผู้เล่นวัยรุ่นจะสู้เพื่อคุณ
ราฮีม สเตอร์ริ่งสู้เพื่อย้ายไปเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

7.) ถ้าคุณสามารถครองบอลต่อบอลกันได้มากถึง 65-70% ต่อเกม แน่นอนว่ามันจะเป็นการเล่นฟุตบอลทร่ยอดเยี่ยม ซึ่งมันจะทำให้คู่แข่งของคุณเจอกับงานหนักแน่ ๆ
ดูข้อที่ 5 แต่ว่าครองบอลเยอะเกินไปหน่อย เกิน 70%

8.) ทีมของเราลงเล่นทั้งหมด 11 คน แต่ทีมอื่น ๆ มีผู้เล่นแค่ 10 คน กับผู้รักษาประตูอีก 1 คน
โกลนาย ไม่ใช่ O'Henry นะ

9.) เราจะไม่เป็นอย่างสเปอร์ส (ฤดูกาลที่แล้วสเปอร์สใช้เงินไป 100ล้าน ได้อันดับ6 #ลิเวอร์พูลปีนี้ก็เช่นกัน)
ให้กลับไปดูข้อนี่ 1

มีอีกคำที่ผมจำได้คือบอกกับ LVG ว่า "พรีเมียร์ลีกมันไม่หมูนะจ่ะ"

แต่จบที่ LVG พาทีมไป UCL ส่วน BR....

คำคมไว้บาดตัวเองนะสิ

ในเพจมีอีกข้อนะครับ

เขาคือ ชาบี้ชาวเวลส์

ปรัชญาเดียวกับ อาจานหลุย ป่ะเนี่ย ครองเข้าไปบอล ครองไป