ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 28 Oct 2008
ตอบ: 6692
ที่อยู่: anfield road
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 8:02 pm
ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมรายงานผลการประเมินโครงการประเมินกรอบหลักสูตร Cambridge International Examinations (CIE) ร่วมกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ว่า ได้ขอให้มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ช่วยดูแลการปฏิรูปการศึกษาของไทย ซึ่งผลวิเคราะห์พบว่า การปฎิรูปจะสำเร็จได้ต้องคำนึงถึงบริบทของประเทศ ไม่ใช่เลียนแบบต่างประเทศ และต้องอาศัยการผลักดันจากทุกฝ่าย รวมถึง หลักสูตรการศึกษาที่ต้องเรียนให้รู้ และลึก แต่ไม่เยอะ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล

http://campus.sanook.com/1379273/

ถ้าเป็นคุณจะปรับปรุงอย่างไรครับ

ผมคงให้เรียนเหมือนๆเดิม คงให้การบ้านรวบ เป็นการบ้านน้อยลง แต่ในนั้นมีหลายวิชามากขึ้น

ไม่ก็ คงให้มีคล้ายๆห้อง หรือระบบที่เลียนแบบคณะ เพื่อทดลองว่าอยากเรียนอะไร
ชอบอะไร ไม่ชอบอะไรก็ย้ายห้องได้ระหว่างทาง

0
0
Liverpool Liverpool Liverpool Liverpool

RedMachine : Iron-Team : Heavy Matal Machine

เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 10073
ที่อยู่: ตามแหล่งอโคจร
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 8:19 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
บางวิชาเช่นภาษาไทย ม.ปลายควรเลิกสอนได้แล้วนะไม่ก็สอนแค่ที่ใช้ก็พอ มาเรียนทำไมก็ไม่รู้พวกนิราศทั้งหลายการบ้านก็เยอะ แค่พวกวิชาหลักๆก็ตายห่านแล้ว
เข้าร่วม: 12 Aug 2015
ตอบ: 664
ที่อยู่: ยุคคลาสซิก
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 8:23 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
หลักสูตร วิทย์-คณิตเมืองไทย นี้ระดับโลกจริงๆนะ
อาจจะเป็นรองแค่ จีนเกาหลีญี่ปุ่น

แต่ชาติตะวันตกนี้เทียบไม่ได้เลย
0
0
เข้าร่วม: 03 Apr 2009
ตอบ: 1444
ที่อยู่: Castle of glass
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 8:31 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
วิชา พระพุทธศาสนา ยุบเถอะ เรียนก็เรียนแต่เนื้่อหาเดิมๆ เรียนปีละ 1 ครั้งก็ได้ หรือยุบรวมกับวิชาสังคม

วิชา ภาษาไทย ลดๆหน่อยก็ดีนะ แบบเด็กเรียนสายนี้ เค้าคงไม่ได้หวังว่าจะไปเป็นนักภาษาศาสาตร์หรอก ไปเพิ่มวิชาอังกฤษดีกว่า

ลดการบ้านทุกวิชา เน้นปฏิบัติ ทำแลป เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ ไรงี้
0
0
+++ กดแผล่บให้ผม แล้วโควทผมด้วยะครับ จะได้กดกลับให้ +++

credit : Troll footbal
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3083
ที่อยู่: Anfeild
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 8:40 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
ม.ปลาย ผมเรียนสายวิทย์คณิต แต่แดก0ทุกเทอม

เอาจริงๆ วิชา พระพุทธ ประวัติศาสตร์ อะไรพวกนี้เอาออกไปได้ละนะ เรียนซ้ำๆกันมาเป็น 10ปี แล้วข้อมูลก็เข้าข้างตัวเองเหลือเกิน
0
0
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 642
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 8:46 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
tonglovedt พิมพ์ว่า:
ม.ปลาย ผมเรียนสายวิทย์คณิต แต่แดก0ทุกเทอม

เอาจริงๆ วิชา พระพุทธ ประวัติศาสตร์ อะไรพวกนี้เอาออกไปได้ละนะ เรียนซ้ำๆกันมาเป็น 10ปี แล้วข้อมูลก็เข้าข้างตัวเองเหลือเกิน  
ศาสนาผมว่าควรเป็นวิชาเลือก ส่วนประวัติศาสตร์ไม่ควรเอาออก แต่ควรชำระใหม่ เอาความจริงมาสอน ไม่ใช่เอาแต่อวยอย่างเดียว
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 5398
ที่อยู่: Santiago bernabeu
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 8:51 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
พุทธศาสนา ไม่ควรเรียน เสียดายเวลา เพราะเรียนไปไม่บรรเทาจิตใจอะไรเด็กเลย หรือควรจะเรียนให้จบๆตั้งแต่ประถมก็พอแล้ว ทุกวันนี้ เด็กรุนแรงมากขึ้นมากกว่ายุคผมเยอะมาก แล้วไอพวกสภาพแวดล้อมสร้างเด็กแว้นซ์ ขอเถอะ พวกคุณก็มองสาเหตุกันออก มีอำนาจแต่กลับแก้ไม่ได้


ควรจะใส่วิชา พัฒนาบุคลิกภาพเสริมสร้างศักยภาพให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออกมากกว่า ใส่หลักสูตรการรับผิดชอบการแบ่งเวลาเข้าไปด้วย เพราะผมมองว่าพื้นฐานทางครอบครัวไม่เพียงพอที่จะสอนเรื่องพวกนี้ เพราะพ่อแม่บางคนนิสัยเสียมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็ทำเดิมๆลูกก็เลียนแบบ ถ้าเด็กพร้อมจะเรียนรู้ ผมว่าเรื่องการรับผิดชอบ จะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เพราะถ้าแบ่งได้ เรียนก็เรียน เล่นก็เล่น งานก็งาน สร้างวินัยพื้นฐานไป อย่างน้อยๆ ก็ปลูกฝังไว้ ห้องนึง40คน ผมว่าเห็นผลลัพธ์สัก5-10คนก็สุดยอดแล้ว ไม่ใช่เหมือนรุ่นเรา การบ้านลอกตอนเช้าก่อนเข้าแถว


หลักสูตรการทำงานเป็นทีม ควรเพิ่มเข้าไปในวิชาไหนวิชานึง แบบแบ่งงานกันยังไง จ่ายงานกันยังไง ลีดเดอร์ควรทำอะไร ทุกวันนี้คงไม่ต่างจากตอนเราเด็กๆ งานกลุ่มทำเดี่ยว งานเดี่ยวลอกทั้งห้อง


ส่วนเรื่องวิทย์-คณิต ผมว่าควรแยกสายเรียนให้จะแจ้งจริงๆ เพราะเด็กบางคนไม่พร้อมจะเรียนคณิตจริงๆ คนที่เก่งก็เก่ง เซ้นดีก็ไป แล้วคนที่ไม่ไหว ทำยังไงก็ไม่ได้หรอก คาดหวังอะไรไม่ได้เลย ผมสอนน้องแทบตาย สุดท้าย มันทำไม่ได้สักอย่างแต่มันดันเป็นคนที่เรียนอย่างอืนเก่งมากซะงั้น


จริงๆผมอยากให้มีหลักสูตรเทคโนโลยีเพิ่มเข้าไป เรียนวิทย์-คอมพิวเตอร์แต่เด็กไปเลย เปิดบางที่ก็ได้ เพราะมันใช้งบเยอะ ไม่ต้องทั่วประเทศก็ได้


หรือไม่ก็อย่างน้อยๆ ทำอะไรให้เทียบเคียง หลักสูตรมหาลัยบ้างก็ดี

โลกมหาลัย กับโลก มัธยม คนละเรื่อง

หลักสูตรการใช้ชีวิตพื้นฐานควรสอนให้เยอะๆในมัธยมด้วยซ้ำ แล้วมหาลัยก็เน้นอัดแน่นด้วยวิชาการไปเลย

เหมือนประเทศเรามันสอนย้อนแย้งกันยังไงไม่รู้
เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 5605
ที่อยู่: บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอนถ้ามองจากตรงนี้เดี๋ยวก็มืดแล้วก็สว่าง
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 8:53 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
ผมคนไทย แต่ตกไทยแทบทุกเทอม
0
0
#ManUsupport#ชอบกดแผล่บรักกดเรื้อน#คนรักเพนกวิ้น#รักหรอกจึงเรื้อนเล่น
เข้าร่วม: 12 Aug 2015
ตอบ: 664
ที่อยู่: ยุคคลาสซิก
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 8:55 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:
พุทธศาสนา ไม่ควรเรียน เสียดายเวลา เพราะเรียนไปไม่บรรเทาจิตใจอะไรเด็กเลย หรือควรจะเรียนให้จบๆตั้งแต่ประถมก็พอแล้ว ทุกวันนี้ เด็กรุนแรงมากขึ้นมากกว่ายุคผมเยอะมาก แล้วไอพวกสภาพแวดล้อมสร้างเด็กแว้นซ์ ขอเถอะ พวกคุณก็มองสาเหตุกันออก มีอำนาจแต่กลับแก้ไม่ได้


ควรจะใส่วิชา พัฒนาบุคลิกภาพเสริมสร้างศักยภาพให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออกมากกว่า ใส่หลักสูตรการรับผิดชอบการแบ่งเวลาเข้าไปด้วย เพราะผมมองว่าพื้นฐานทางครอบครัวไม่เพียงพอที่จะสอนเรื่องพวกนี้ เพราะพ่อแม่บางคนนิสัยเสียมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็ทำเดิมๆลูกก็เลียนแบบ ถ้าเด็กพร้อมจะเรียนรู้ ผมว่าเรื่องการรับผิดชอบ จะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เพราะถ้าแบ่งได้ เรียนก็เรียน เล่นก็เล่น งานก็งาน สร้างวินัยพื้นฐานไป อย่างน้อยๆ ก็ปลูกฝังไว้ ห้องนึง40คน ผมว่าเห็นผลลัพธ์สัก5-10คนก็สุดยอดแล้ว ไม่ใช่เหมือนรุ่นเรา การบ้านลอกตอนเช้าก่อนเข้าแถว


หลักสูตรการทำงานเป็นทีม ควรเพิ่มเข้าไปในวิชาไหนวิชานึง แบบแบ่งงานกันยังไง จ่ายงานกันยังไง ลีดเดอร์ควรทำอะไร ทุกวันนี้คงไม่ต่างจากตอนเราเด็กๆ งานกลุ่มทำเดี่ยว งานเดี่ยวลอกทั้งห้อง


ส่วนเรื่องวิทย์-คณิต ผมว่าควรแยกสายเรียนให้จะแจ้งจริงๆ เพราะเด็กบางคนไม่พร้อมจะเรียนคณิตจริงๆ คนที่เก่งก็เก่ง เซ้นดีก็ไป แล้วคนที่ไม่ไหว ทำยังไงก็ไม่ได้หรอก คาดหวังอะไรไม่ได้เลย ผมสอนน้องแทบตาย สุดท้าย มันทำไม่ได้สักอย่างแต่มันดันเป็นคนที่เรียนอย่างอืนเก่งมากซะงั้น


จริงๆผมอยากให้มีหลักสูตรเทคโนโลยีเพิ่มเข้าไป เรียนวิทย์-คอมพิวเตอร์แต่เด็กไปเลย เปิดบางที่ก็ได้ เพราะมันใช้งบเยอะ ไม่ต้องทั่วประเทศก็ได้


หรือไม่ก็อย่างน้อยๆ ทำอะไรให้เทียบเคียง หลักสูตรมหาลัยบ้างก็ดี

โลกมหาลัย กับโลก มัธยม คนละเรื่อง

หลักสูตรการใช้ชีวิตพื้นฐานควรสอนให้เยอะๆในมัธยมด้วยซ้ำ แล้วมหาลัยก็เน้นอัดแน่นด้วยวิชาการไปเลย

เหมือนประเทศเรามันสอนย้อนแย้งกันยังไงไม่รู้
 


จะให้เรียน วิทย์-คอม แต่ให้แยกวิทย์-คณิต
คอมพิวเต้อแก่นของวิชาคือคณิตศาสตร์ นะครับ

ถ้าคิดเป็นระบบได้ คิดมาตรรกะ ก็เอามาใช้กับคอมพิวเต้อได้
เพราะคอมพิวเต้อพัฒนามาจาก คณิตศาสตร์
0
0
เข้าร่วม: 03 Mar 2008
ตอบ: 537
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 8:59 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:
พุทธศาสนา ไม่ควรเรียน เสียดายเวลา เพราะเรียนไปไม่บรรเทาจิตใจอะไรเด็กเลย หรือควรจะเรียนให้จบๆตั้งแต่ประถมก็พอแล้ว ทุกวันนี้ เด็กรุนแรงมากขึ้นมากกว่ายุคผมเยอะมาก แล้วไอพวกสภาพแวดล้อมสร้างเด็กแว้นซ์ ขอเถอะ พวกคุณก็มองสาเหตุกันออก มีอำนาจแต่กลับแก้ไม่ได้


ควรจะใส่วิชา พัฒนาบุคลิกภาพเสริมสร้างศักยภาพให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออกมากกว่า ใส่หลักสูตรการรับผิดชอบการแบ่งเวลาเข้าไปด้วย เพราะผมมองว่าพื้นฐานทางครอบครัวไม่เพียงพอที่จะสอนเรื่องพวกนี้ เพราะพ่อแม่บางคนนิสัยเสียมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็ทำเดิมๆลูกก็เลียนแบบ ถ้าเด็กพร้อมจะเรียนรู้ ผมว่าเรื่องการรับผิดชอบ จะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เพราะถ้าแบ่งได้ เรียนก็เรียน เล่นก็เล่น งานก็งาน สร้างวินัยพื้นฐานไป อย่างน้อยๆ ก็ปลูกฝังไว้ ห้องนึง40คน ผมว่าเห็นผลลัพธ์สัก5-10คนก็สุดยอดแล้ว ไม่ใช่เหมือนรุ่นเรา การบ้านลอกตอนเช้าก่อนเข้าแถว


หลักสูตรการทำงานเป็นทีม ควรเพิ่มเข้าไปในวิชาไหนวิชานึง แบบแบ่งงานกันยังไง จ่ายงานกันยังไง ลีดเดอร์ควรทำอะไร ทุกวันนี้คงไม่ต่างจากตอนเราเด็กๆ งานกลุ่มทำเดี่ยว งานเดี่ยวลอกทั้งห้อง


ส่วนเรื่องวิทย์-คณิต ผมว่าควรแยกสายเรียนให้จะแจ้งจริงๆ เพราะเด็กบางคนไม่พร้อมจะเรียนคณิตจริงๆ คนที่เก่งก็เก่ง เซ้นดีก็ไป แล้วคนที่ไม่ไหว ทำยังไงก็ไม่ได้หรอก คาดหวังอะไรไม่ได้เลย ผมสอนน้องแทบตาย สุดท้าย มันทำไม่ได้สักอย่างแต่มันดันเป็นคนที่เรียนอย่างอืนเก่งมากซะงั้น


จริงๆผมอยากให้มีหลักสูตรเทคโนโลยีเพิ่มเข้าไป เรียนวิทย์-คอมพิวเตอร์แต่เด็กไปเลย เปิดบางที่ก็ได้ เพราะมันใช้งบเยอะ ไม่ต้องทั่วประเทศก็ได้


หรือไม่ก็อย่างน้อยๆ ทำอะไรให้เทียบเคียง หลักสูตรมหาลัยบ้างก็ดี

โลกมหาลัย กับโลก มัธยม คนละเรื่อง

หลักสูตรการใช้ชีวิตพื้นฐานควรสอนให้เยอะๆในมัธยมด้วยซ้ำ แล้วมหาลัยก็เน้นอัดแน่นด้วยวิชาการไปเลย

เหมือนประเทศเรามันสอนย้อนแย้งกันยังไงไม่รู้
 

เห็นด้วยกับท่านอย่างแรงครับ แต่วิชาการมัธยมปลายก็ควรจะอัดแน่นด้วยนะครับเพื่อให้สอดคล้องกับมหาลัยที่เขาเลือก และควรมีวิชาพร้อมครูในสาขาวิชาในมหาลัยพวกตัวพื้นฐานไรงี้ด้วย
ในสายวิทย์ ควรมีครูสอนฟิสิกส์เก่งๆนะครับ ผมเข้าไปมหาลัยเนี่ย ครูฟิสิกส์ม.ปลาย กับ อ.มหาลัย หรือ อ.สอนวิศวะ ระดับฟิสิกส์นี่คนละเลเวลเลย
0
0
เข้าร่วม: 03 Mar 2008
ตอบ: 537
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 8:59 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
papaya_pokpok พิมพ์ว่า:
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:
พุทธศาสนา ไม่ควรเรียน เสียดายเวลา เพราะเรียนไปไม่บรรเทาจิตใจอะไรเด็กเลย หรือควรจะเรียนให้จบๆตั้งแต่ประถมก็พอแล้ว ทุกวันนี้ เด็กรุนแรงมากขึ้นมากกว่ายุคผมเยอะมาก แล้วไอพวกสภาพแวดล้อมสร้างเด็กแว้นซ์ ขอเถอะ พวกคุณก็มองสาเหตุกันออก มีอำนาจแต่กลับแก้ไม่ได้


ควรจะใส่วิชา พัฒนาบุคลิกภาพเสริมสร้างศักยภาพให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออกมากกว่า ใส่หลักสูตรการรับผิดชอบการแบ่งเวลาเข้าไปด้วย เพราะผมมองว่าพื้นฐานทางครอบครัวไม่เพียงพอที่จะสอนเรื่องพวกนี้ เพราะพ่อแม่บางคนนิสัยเสียมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็ทำเดิมๆลูกก็เลียนแบบ ถ้าเด็กพร้อมจะเรียนรู้ ผมว่าเรื่องการรับผิดชอบ จะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เพราะถ้าแบ่งได้ เรียนก็เรียน เล่นก็เล่น งานก็งาน สร้างวินัยพื้นฐานไป อย่างน้อยๆ ก็ปลูกฝังไว้ ห้องนึง40คน ผมว่าเห็นผลลัพธ์สัก5-10คนก็สุดยอดแล้ว ไม่ใช่เหมือนรุ่นเรา การบ้านลอกตอนเช้าก่อนเข้าแถว


หลักสูตรการทำงานเป็นทีม ควรเพิ่มเข้าไปในวิชาไหนวิชานึง แบบแบ่งงานกันยังไง จ่ายงานกันยังไง ลีดเดอร์ควรทำอะไร ทุกวันนี้คงไม่ต่างจากตอนเราเด็กๆ งานกลุ่มทำเดี่ยว งานเดี่ยวลอกทั้งห้อง


ส่วนเรื่องวิทย์-คณิต ผมว่าควรแยกสายเรียนให้จะแจ้งจริงๆ เพราะเด็กบางคนไม่พร้อมจะเรียนคณิตจริงๆ คนที่เก่งก็เก่ง เซ้นดีก็ไป แล้วคนที่ไม่ไหว ทำยังไงก็ไม่ได้หรอก คาดหวังอะไรไม่ได้เลย ผมสอนน้องแทบตาย สุดท้าย มันทำไม่ได้สักอย่างแต่มันดันเป็นคนที่เรียนอย่างอืนเก่งมากซะงั้น


จริงๆผมอยากให้มีหลักสูตรเทคโนโลยีเพิ่มเข้าไป เรียนวิทย์-คอมพิวเตอร์แต่เด็กไปเลย เปิดบางที่ก็ได้ เพราะมันใช้งบเยอะ ไม่ต้องทั่วประเทศก็ได้


หรือไม่ก็อย่างน้อยๆ ทำอะไรให้เทียบเคียง หลักสูตรมหาลัยบ้างก็ดี

โลกมหาลัย กับโลก มัธยม คนละเรื่อง

หลักสูตรการใช้ชีวิตพื้นฐานควรสอนให้เยอะๆในมัธยมด้วยซ้ำ แล้วมหาลัยก็เน้นอัดแน่นด้วยวิชาการไปเลย

เหมือนประเทศเรามันสอนย้อนแย้งกันยังไงไม่รู้
 

เห็นด้วยกับท่านอย่างแรงครับ แต่วิชาการมัธยมปลายก็ควรจะอัดแน่นด้วยนะครับเพื่อให้สอดคล้องกับมหาลัยที่เขาเลือก และควรมีวิชาพร้อมครูในสาขาวิชาในมหาลัย เช่นทำเป็นตัววิชาพื้นฐานเพื่อรับรองวิชาที่จะเรียนในมหาลัยไรงี้ด้วย
ในสายวิทย์ ควรมีครูสอนฟิสิกส์เก่งๆนะครับ ผมเข้าไปมหาลัยเนี่ย ครูฟิสิกส์ม.ปลาย กับ อ.มหาลัย หรือ อ.สอนวิศวะ ระดับฟิสิกส์นี่คนละเลเวลเลย  
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 5398
ที่อยู่: Santiago bernabeu
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:00 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
aristotle_life พิมพ์ว่า:
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:
พุทธศาสนา ไม่ควรเรียน เสียดายเวลา เพราะเรียนไปไม่บรรเทาจิตใจอะไรเด็กเลย หรือควรจะเรียนให้จบๆตั้งแต่ประถมก็พอแล้ว ทุกวันนี้ เด็กรุนแรงมากขึ้นมากกว่ายุคผมเยอะมาก แล้วไอพวกสภาพแวดล้อมสร้างเด็กแว้นซ์ ขอเถอะ พวกคุณก็มองสาเหตุกันออก มีอำนาจแต่กลับแก้ไม่ได้


ควรจะใส่วิชา พัฒนาบุคลิกภาพเสริมสร้างศักยภาพให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออกมากกว่า ใส่หลักสูตรการรับผิดชอบการแบ่งเวลาเข้าไปด้วย เพราะผมมองว่าพื้นฐานทางครอบครัวไม่เพียงพอที่จะสอนเรื่องพวกนี้ เพราะพ่อแม่บางคนนิสัยเสียมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็ทำเดิมๆลูกก็เลียนแบบ ถ้าเด็กพร้อมจะเรียนรู้ ผมว่าเรื่องการรับผิดชอบ จะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เพราะถ้าแบ่งได้ เรียนก็เรียน เล่นก็เล่น งานก็งาน สร้างวินัยพื้นฐานไป อย่างน้อยๆ ก็ปลูกฝังไว้ ห้องนึง40คน ผมว่าเห็นผลลัพธ์สัก5-10คนก็สุดยอดแล้ว ไม่ใช่เหมือนรุ่นเรา การบ้านลอกตอนเช้าก่อนเข้าแถว


หลักสูตรการทำงานเป็นทีม ควรเพิ่มเข้าไปในวิชาไหนวิชานึง แบบแบ่งงานกันยังไง จ่ายงานกันยังไง ลีดเดอร์ควรทำอะไร ทุกวันนี้คงไม่ต่างจากตอนเราเด็กๆ งานกลุ่มทำเดี่ยว งานเดี่ยวลอกทั้งห้อง


ส่วนเรื่องวิทย์-คณิต ผมว่าควรแยกสายเรียนให้จะแจ้งจริงๆ เพราะเด็กบางคนไม่พร้อมจะเรียนคณิตจริงๆ คนที่เก่งก็เก่ง เซ้นดีก็ไป แล้วคนที่ไม่ไหว ทำยังไงก็ไม่ได้หรอก คาดหวังอะไรไม่ได้เลย ผมสอนน้องแทบตาย สุดท้าย มันทำไม่ได้สักอย่างแต่มันดันเป็นคนที่เรียนอย่างอืนเก่งมากซะงั้น


จริงๆผมอยากให้มีหลักสูตรเทคโนโลยีเพิ่มเข้าไป เรียนวิทย์-คอมพิวเตอร์แต่เด็กไปเลย เปิดบางที่ก็ได้ เพราะมันใช้งบเยอะ ไม่ต้องทั่วประเทศก็ได้


หรือไม่ก็อย่างน้อยๆ ทำอะไรให้เทียบเคียง หลักสูตรมหาลัยบ้างก็ดี

โลกมหาลัย กับโลก มัธยม คนละเรื่อง

หลักสูตรการใช้ชีวิตพื้นฐานควรสอนให้เยอะๆในมัธยมด้วยซ้ำ แล้วมหาลัยก็เน้นอัดแน่นด้วยวิชาการไปเลย

เหมือนประเทศเรามันสอนย้อนแย้งกันยังไงไม่รู้
 


จะให้เรียน วิทย์-คอม แต่ให้แยกวิทย์-คณิต
คอมพิวเต้อแก่นของวิชาคือคณิตศาสตร์ นะครับ

ถ้าคิดเป็นระบบได้ คิดมาตรรกะ ก็เอามาใช้กับคอมพิวเต้อได้
เพราะคอมพิวเต้อพัฒนามาจาก คณิตศาสตร์  



เหมือนท่านจะตีความผมผิดนะฮะนะ วิทย์-คณิต ยังไงก็ต้องไปด้วยกัน ผมหมายถึงว่า ถ้าเด็กคนไหนพร้อมเรียน ก็ให้เรียนวิทคณิต ตั้งแต่มอต้นไปเลย ไอพวกที่ไม่ไหว ให้มันไปโซนกีฬา โซนภาษา โซนหลักสูตรอื่นเอา หรือไม่ก็เรียนบ้าง ให้มันได้ตรรกะ การคิดวิเคราะห์มา พูดง่ายๆ เรียนสักเทอมก็ได้

วิทย์คอม มาต่อยอดจากวิทย์คณิตอีกทางอ่าฮะ

เพราะเด็กบางคนมันพร้อมจะเป็นโปรแกรมเมอร์แต่เด็กเลย สนใจ สนอะไร บางคนแม่งโค้ดดิ้งเก่งกว่าผมอีกตอนนี้
0
0
เข้าร่วม: 03 Oct 2013
ตอบ: 5986
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:09 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
ทำไมถึงอยากให้ตัดวิชาภาาาไทยกับพระพุทธศาสนาจัง
ผมว่ามีประโยชน์ออก คือพวกเรียนสายวิทย์ก้บอกเรียนไปทำไมไม่ได้ใช้อะไร
งั้นถ้าพวกเรียนสายศิลป์แย้งมั้งคณิตมันวิทย์มันก็ไม่จำเป้นสำหรับเขาเหมือนกัน

ผมชอบเรียนจะตายวิชาภาาาไทยหนุกกว่าคณิตเป้นไหนๆๆๆ
ผมจบมาผมยังงงอยู่เลย เรียนคณิตพวกตรีโกณมิติ พาราโบล่า วิทย์พวกชีวะ ฟิสิกส์
เรียนมาทำไมโคตรรกสมองเลย ไม่ได้ใช้ไรเลย

แต่มันต้องเรียนครับเรียนไปแข่งกับเขาช่วงเข้ามหาลัย
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 5398
ที่อยู่: Santiago bernabeu
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:12 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
papaya_pokpok พิมพ์ว่า:
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:
พุทธศาสนา ไม่ควรเรียน เสียดายเวลา เพราะเรียนไปไม่บรรเทาจิตใจอะไรเด็กเลย หรือควรจะเรียนให้จบๆตั้งแต่ประถมก็พอแล้ว ทุกวันนี้ เด็กรุนแรงมากขึ้นมากกว่ายุคผมเยอะมาก แล้วไอพวกสภาพแวดล้อมสร้างเด็กแว้นซ์ ขอเถอะ พวกคุณก็มองสาเหตุกันออก มีอำนาจแต่กลับแก้ไม่ได้


ควรจะใส่วิชา พัฒนาบุคลิกภาพเสริมสร้างศักยภาพให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออกมากกว่า ใส่หลักสูตรการรับผิดชอบการแบ่งเวลาเข้าไปด้วย เพราะผมมองว่าพื้นฐานทางครอบครัวไม่เพียงพอที่จะสอนเรื่องพวกนี้ เพราะพ่อแม่บางคนนิสัยเสียมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็ทำเดิมๆลูกก็เลียนแบบ ถ้าเด็กพร้อมจะเรียนรู้ ผมว่าเรื่องการรับผิดชอบ จะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เพราะถ้าแบ่งได้ เรียนก็เรียน เล่นก็เล่น งานก็งาน สร้างวินัยพื้นฐานไป อย่างน้อยๆ ก็ปลูกฝังไว้ ห้องนึง40คน ผมว่าเห็นผลลัพธ์สัก5-10คนก็สุดยอดแล้ว ไม่ใช่เหมือนรุ่นเรา การบ้านลอกตอนเช้าก่อนเข้าแถว


หลักสูตรการทำงานเป็นทีม ควรเพิ่มเข้าไปในวิชาไหนวิชานึง แบบแบ่งงานกันยังไง จ่ายงานกันยังไง ลีดเดอร์ควรทำอะไร ทุกวันนี้คงไม่ต่างจากตอนเราเด็กๆ งานกลุ่มทำเดี่ยว งานเดี่ยวลอกทั้งห้อง


ส่วนเรื่องวิทย์-คณิต ผมว่าควรแยกสายเรียนให้จะแจ้งจริงๆ เพราะเด็กบางคนไม่พร้อมจะเรียนคณิตจริงๆ คนที่เก่งก็เก่ง เซ้นดีก็ไป แล้วคนที่ไม่ไหว ทำยังไงก็ไม่ได้หรอก คาดหวังอะไรไม่ได้เลย ผมสอนน้องแทบตาย สุดท้าย มันทำไม่ได้สักอย่างแต่มันดันเป็นคนที่เรียนอย่างอืนเก่งมากซะงั้น


จริงๆผมอยากให้มีหลักสูตรเทคโนโลยีเพิ่มเข้าไป เรียนวิทย์-คอมพิวเตอร์แต่เด็กไปเลย เปิดบางที่ก็ได้ เพราะมันใช้งบเยอะ ไม่ต้องทั่วประเทศก็ได้


หรือไม่ก็อย่างน้อยๆ ทำอะไรให้เทียบเคียง หลักสูตรมหาลัยบ้างก็ดี

โลกมหาลัย กับโลก มัธยม คนละเรื่อง

หลักสูตรการใช้ชีวิตพื้นฐานควรสอนให้เยอะๆในมัธยมด้วยซ้ำ แล้วมหาลัยก็เน้นอัดแน่นด้วยวิชาการไปเลย

เหมือนประเทศเรามันสอนย้อนแย้งกันยังไงไม่รู้
 

เห็นด้วยกับท่านอย่างแรงครับ แต่วิชาการมัธยมปลายก็ควรจะอัดแน่นด้วยนะครับเพื่อให้สอดคล้องกับมหาลัยที่เขาเลือก และควรมีวิชาพร้อมครูในสาขาวิชาในมหาลัยพวกตัวพื้นฐานไรงี้ด้วย
ในสายวิทย์ ควรมีครูสอนฟิสิกส์เก่งๆนะครับ ผมเข้าไปมหาลัยเนี่ย ครูฟิสิกส์ม.ปลาย กับ อ.มหาลัย หรือ อ.สอนวิศวะ ระดับฟิสิกส์นี่คนละเลเวลเลย  


ก็แน่นแหละฮะ แต่ต้องเน้นพวกเรื่องพื้นฐานในการใช้ชีวิตให้มากกว่าน่ะนะ
เช่น เต็ม10 ก็พื้นฐานการใช้ชีวิต 10 แล้ววิชาการก็สัก8.5 - 9 ไม่ได้ให้ทิ้งห่างแบบ 10 - 6 ไรงี้


โลกมหาลัย เจอแต่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์สอน จบกันปริญญาเอก บางคนวิจัยผลงานเต็ม มาสอน แถมฟังแกโม้แต่ละอย่าง จุดประกายในตัวได้ทั้งนั้น ผมว่าสุดยอดมากอะ

ผมว่านี่แหละสิ่งที่แตกต่างของ มัธยมกับมหาลัยเลย
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2015
ตอบ: 664
ที่อยู่: ยุคคลาสซิก
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:12 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:

เหมือนท่านจะตีความผมผิดนะฮะนะ วิทย์-คณิต ยังไงก็ต้องไปด้วยกัน ผมหมายถึงว่า ถ้าเด็กคนไหนพร้อมเรียน ก็ให้เรียนวิทคณิต ตั้งแต่มอต้นไปเลย ไอพวกที่ไม่ไหว ให้มันไปโซนกีฬา โซนภาษา โซนหลักสูตรอื่นเอา หรือไม่ก็เรียนบ้าง ให้มันได้ตรรกะ การคิดวิเคราะห์มา พูดง่ายๆ เรียนสักเทอมก็ได้

วิทย์คอม มาต่อยอดจากวิทย์คณิตอีกทางอ่าฮะ

เพราะเด็กบางคนมันพร้อมจะเป็นโปรแกรมเมอร์แต่เด็กเลย สนใจ สนอะไร บางคนแม่งโค้ดดิ้งเก่งกว่าผมอีกตอนนี้  


จริงๆแล้วผมเห็นความสำคัญของคณิตศาสตร์ เพราะเป็นศาสตร์แรกของโลก และปัจจุบันที่ก่อให้เกิดความคิดในการแก้ไขปัญหา และหาความถูกต้อง

คนที่เก่งคณิตศาสตร์ จะมีวิธีคิดที่ดีและเหตุผลจากการหาคำตอบ ไม่เดาไม่คาดการ สามารถอธิบายคำตอบได้

ที่สำคัญคือการพิสูจน์ความจริง และความถูกต้อง ทุกวิชาด้านสังคมล้วนต้องประยุกต์ คณิตศาสตร์เข้ามาให้ ในการวิเคราะห์ทั้งสิ้นครับ


ขนาดทนายความยังต้องสอบคณิตศาสตร์ ก็เพราะว่าต้อง หาคำตอบ และพิสูจน์ความถูกต้องของกระบวนการ

ภาษาอังกฤษ หากมองไวยกรณ์เป็นตรรกะก็สามารถผัน Tense ได้อย่างง่ายดายเพราะมีหลักการทางไวยกรณ์ที่เป็นระบบ เข้าเงื่อนไขใดแล้วต้องผันแปรตัวใด นี้เป็นหลักการของคณิตศาสตร์

กีฬา ยิ่งต้องมีการทำสถิติ หลักการคิดคำนวน การวางแผนการตามสถานะการ เพื่อวิเคราะห์แลัจัดการทั้งเรื่อง เวลา ระยะสั้น ระยะยาว กำหนดคิว หรือหาค่าที่ถูกต้องในการซ้อมต่างๆ

จะอาสัยแต่ประสบการณ์ล้วนๆไม่ได้ ต้องอาศัยทฤษฎีด้วย จะช่วยให้พัฒนาได้ตั้งแต่ต้น
พื้นฐานทางความคิดดี ต่อยอดได้ทุกแขนงครับ

ชีวิตสั้นจะอยู่กับปัจจุบันคงไม่พอ ต้องสร้างอนาคตไว้ด้วยครับ
หลายเหตุการณ์ที่ เห็นว่านักกีฬา ต้องพึ่งพาผุ้จัดการ จนทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็น พอหมดอายุไขแล้ว ก็ไม่สามารถอยู่กับอนาคตได้ หลุดรอดเป็นโค้ชต่อ เป็นกรรมการ เป็นนักวิเคราะห์ได้น้อยมาก
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 5398
ที่อยู่: Santiago bernabeu
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:17 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
aristotle_life พิมพ์ว่า:
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:

เหมือนท่านจะตีความผมผิดนะฮะนะ วิทย์-คณิต ยังไงก็ต้องไปด้วยกัน ผมหมายถึงว่า ถ้าเด็กคนไหนพร้อมเรียน ก็ให้เรียนวิทคณิต ตั้งแต่มอต้นไปเลย ไอพวกที่ไม่ไหว ให้มันไปโซนกีฬา โซนภาษา โซนหลักสูตรอื่นเอา หรือไม่ก็เรียนบ้าง ให้มันได้ตรรกะ การคิดวิเคราะห์มา พูดง่ายๆ เรียนสักเทอมก็ได้

วิทย์คอม มาต่อยอดจากวิทย์คณิตอีกทางอ่าฮะ

เพราะเด็กบางคนมันพร้อมจะเป็นโปรแกรมเมอร์แต่เด็กเลย สนใจ สนอะไร บางคนแม่งโค้ดดิ้งเก่งกว่าผมอีกตอนนี้  


จริงๆแล้วผมเห็นความสำคัญของคณิตศาสตร์ เพราะเป็นศาสตร์แรกของโลก และปัจจุบันที่ก่อให้เกิดความคิดในการแก้ไขปัญหา และหาความถูกต้อง

คนที่เก่งคณิตศาสตร์ จะมีวิธีคิดที่ดีและเหตุผลจากการหาคำตอบ ไม่เดาไม่คาดการ สามารถอธิบายคำตอบได้

ที่สำคัญคือการพิสูจน์ความจริง และความถูกต้อง ทุกวิชาด้านสังคมล้วนต้องประยุกต์ คณิตศาสตร์เข้ามาให้ ในการวิเคราะห์ทั้งสิ้นครับ


ขนาดทนายความยังต้องสอบคณิตศาสตร์ ก็เพราะว่าต้อง หาคำตอบ และพิสูจน์ความถูกต้องของกระบวนการ

ภาษาอังกฤษ หากมองไวยกรณ์เป็นตรรกะก็สามารถผัน Tense ได้อย่างง่ายดายเพราะมีหลักการทางไวยกรณ์ที่เป็นระบบ เข้าเงื่อนไขใดแล้วต้องผันแปรตัวใด นี้เป็นหลักการของคณิตศาสตร์

กีฬา ยิ่งต้องมีการทำสถิติ หลักการคิดคำนวน การวางแผนการตามสถานะการ เพื่อวิเคราะห์แลัจัดการทั้งเรื่อง เวลา ระยะสั้น ระยะยาว กำหนดคิว หรือหาค่าที่ถูกต้องในการซ้อมต่างๆ

จะอาสัยแต่ประสบการณ์ล้วนๆไม่ได้ ต้องอาศัยทฤษฎีด้วย จะช่วยให้พัฒนาได้ตั้งแต่ต้น
พื้นฐานทางความคิดดี ต่อยอดได้ทุกแขนงครับ

ชีวิตสั้นจะอยู่กับปัจจุบันคงไม่พอ ต้องสร้างอนาคตไว้ด้วยครับ
หลายเหตุการณ์ที่ เห็นว่านักกีฬา ต้องพึ่งพาผุ้จัดการ จนทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็น พอหมดอายุไขแล้ว ก็ไม่สามารถอยู่กับอนาคตได้ หลุดรอดเป็นโค้ชต่อ เป็นกรรมการ เป็นนักวิเคราะห์ได้น้อยมาก
 


จริงๆผมเห็นเด็กมาเยอะ เลยอาจจะมองอะไรแคบๆไปหน่อย
ถ้าเอาความเห็นท่านเป็นหลัก อย่างน้อยๆ ก็ควรจะทำให้เขารู้ว่า เรียนไปเพื่ออะไรบ้างก็ดี คำถามนี้ ผมก็เคยถามตอนเด็กๆ ไม่มีใครตอบได้ชัดแจ้งสักคน

แต่ความเห็นท่านยอดเยี่ยมเลยครับ ผมจะเอาไปเป็นแนวทางใช้พูดกับเด็กที่หาปลายทางไม่เจอด้วย ให้มันรู้ว่าเรียนไปทำไม เรียนไปเพื่ออะไร อย่างน้อยๆ ก็เพิ่มทางเลือกหรือสร้างความมั่นใจให้พวกเขาได้ ดีกว่าเรียนเลื่อนลอย จบๆไปงั้นแหละ สุดท้ายไม่ได้อะไรเลย
เข้าร่วม: 12 Aug 2015
ตอบ: 664
ที่อยู่: ยุคคลาสซิก
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:19 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:
 

0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 5398
ที่อยู่: Santiago bernabeu
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:22 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
aristotle_life พิมพ์ว่า:
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:
 

 


มันจะมีพวกคนบางกลุ่ม ชอบเตะตัดขากันเอง กลัวเด็กเก่งกว่า กลัวมันมาแย่งงานทำ ผมนี่โคตรงงเลย แถมเคยเจอมากับตัว แถมตอนนี้มีมากขึ้นทุกวันๆ


จริงๆประเทศเราปรับเปลี่ยนหลักสูตรทุกๆ3ปีแหละ

แต่ที่มันดูไม่ไปไหน ผมว่าส่วนใหญ่เป็นเพราะสภาพแวดล้มมากกว่า
เข้าร่วม: 16 Nov 2009
ตอบ: 2045
ที่อยู่: SS
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:33 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
สอนปรัชญา แทนศาสนาเหอะ
จริยศาสตร์ก้ได้
0
0

เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 10353
ที่อยู่: แฟลตรูหนู
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:41 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
ผมอยากให้เอาดนตรี นาฏศิลป์ออกมากกว่า ไม่เคยได้ใช้ในมหาลัยเลย
ส่วนภาษาไทย สังคมยังมีประโยชน์มากๆ
0
0




เข้าร่วม: 08 Sep 2013
ตอบ: 1576
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:46 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
aristotle_life พิมพ์ว่า:
หลักสูตร วิทย์-คณิตเมืองไทย นี้ระดับโลกจริงๆนะ
อาจจะเป็นรองแค่ จีนเกาหลีญี่ปุ่น

แต่ชาติตะวันตกนี้เทียบไม่ได้เลย  


ผมเห็นด้วยนะ อายุน้อยๆควรเรียนให้กว้างๆดีกว่า จะได้เจอหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง จะได้เลือกได้ว่าจะเป็นแบบใหน จะทำอาชีพอะไร ประเทศเราเรียนชะลึกเลย คณิตกับวิทย์
0
0
เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 838
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:50 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:
aristotle_life พิมพ์ว่า:
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:

เหมือนท่านจะตีความผมผิดนะฮะนะ วิทย์-คณิต ยังไงก็ต้องไปด้วยกัน ผมหมายถึงว่า ถ้าเด็กคนไหนพร้อมเรียน ก็ให้เรียนวิทคณิต ตั้งแต่มอต้นไปเลย ไอพวกที่ไม่ไหว ให้มันไปโซนกีฬา โซนภาษา โซนหลักสูตรอื่นเอา หรือไม่ก็เรียนบ้าง ให้มันได้ตรรกะ การคิดวิเคราะห์มา พูดง่ายๆ เรียนสักเทอมก็ได้

วิทย์คอม มาต่อยอดจากวิทย์คณิตอีกทางอ่าฮะ

เพราะเด็กบางคนมันพร้อมจะเป็นโปรแกรมเมอร์แต่เด็กเลย สนใจ สนอะไร บางคนแม่งโค้ดดิ้งเก่งกว่าผมอีกตอนนี้  


จริงๆแล้วผมเห็นความสำคัญของคณิตศาสตร์ เพราะเป็นศาสตร์แรกของโลก และปัจจุบันที่ก่อให้เกิดความคิดในการแก้ไขปัญหา และหาความถูกต้อง

คนที่เก่งคณิตศาสตร์ จะมีวิธีคิดที่ดีและเหตุผลจากการหาคำตอบ ไม่เดาไม่คาดการ สามารถอธิบายคำตอบได้

ที่สำคัญคือการพิสูจน์ความจริง และความถูกต้อง ทุกวิชาด้านสังคมล้วนต้องประยุกต์ คณิตศาสตร์เข้ามาให้ ในการวิเคราะห์ทั้งสิ้นครับ


ขนาดทนายความยังต้องสอบคณิตศาสตร์ ก็เพราะว่าต้อง หาคำตอบ และพิสูจน์ความถูกต้องของกระบวนการ

ภาษาอังกฤษ หากมองไวยกรณ์เป็นตรรกะก็สามารถผัน Tense ได้อย่างง่ายดายเพราะมีหลักการทางไวยกรณ์ที่เป็นระบบ เข้าเงื่อนไขใดแล้วต้องผันแปรตัวใด นี้เป็นหลักการของคณิตศาสตร์

กีฬา ยิ่งต้องมีการทำสถิติ หลักการคิดคำนวน การวางแผนการตามสถานะการ เพื่อวิเคราะห์แลัจัดการทั้งเรื่อง เวลา ระยะสั้น ระยะยาว กำหนดคิว หรือหาค่าที่ถูกต้องในการซ้อมต่างๆ

จะอาสัยแต่ประสบการณ์ล้วนๆไม่ได้ ต้องอาศัยทฤษฎีด้วย จะช่วยให้พัฒนาได้ตั้งแต่ต้น
พื้นฐานทางความคิดดี ต่อยอดได้ทุกแขนงครับ

ชีวิตสั้นจะอยู่กับปัจจุบันคงไม่พอ ต้องสร้างอนาคตไว้ด้วยครับ
หลายเหตุการณ์ที่ เห็นว่านักกีฬา ต้องพึ่งพาผุ้จัดการ จนทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็น พอหมดอายุไขแล้ว ก็ไม่สามารถอยู่กับอนาคตได้ หลุดรอดเป็นโค้ชต่อ เป็นกรรมการ เป็นนักวิเคราะห์ได้น้อยมาก
 


จริงๆผมเห็นเด็กมาเยอะ เลยอาจจะมองอะไรแคบๆไปหน่อย
ถ้าเอาความเห็นท่านเป็นหลัก อย่างน้อยๆ ก็ควรจะทำให้เขารู้ว่า เรียนไปเพื่ออะไรบ้างก็ดี คำถามนี้ ผมก็เคยถามตอนเด็กๆ ไม่มีใครตอบได้ชัดแจ้งสักคน

แต่ความเห็นท่านยอดเยี่ยมเลยครับ ผมจะเอาไปเป็นแนวทางใช้พูดกับเด็กที่หาปลายทางไม่เจอด้วย ให้มันรู้ว่าเรียนไปทำไม เรียนไปเพื่ออะไร อย่างน้อยๆ ก็เพิ่มทางเลือกหรือสร้างความมั่นใจให้พวกเขาได้ ดีกว่าเรียนเลื่อนลอย จบๆไปงั้นแหละ สุดท้ายไม่ได้อะไรเลย  


ที่จริงต้องยอมรับว่าครูมัธยมที่สอนคณิตศาสตร์นั้น หาดีได้ยากจริงๆ เพราะจบแค่ ป.ตรี ยัง

ไม่รู้เลยว่าคณิตศาสตร์แก่นแท้คืออะไร มีการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่า่งไรได้บ้าง

มีตัวอย่างเยอะแยะมากมาย ใกล้ๆตัวที่เป็นผลมาจากการพัฒนาความรู้ทางคณิตศาสตร์

แต่ครูที่จะอธิบายพวกนี้ได้ ต่ำๆต้องจบ ป.โท สำหรับผมเวลาผมเจอเด็กที่เรียนกับผมแล้ว

ถามว่าเรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม ผมจะมองออกว่าเด็กถามจริงหรือถามกวนตีน คนที่ถาม

จริง ผมจะอธิบายเลยว่าแก่นแท้ของคณิตศาสตร์ไม่ใช่การคิดเลข แต่เป็นการใช้เหตุผล

เรียนคณิตศาสตร์ให้ดี จะฝึกให้เป็นคนมีเหตุมีผล และคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบได้

ส่วนพวกที่ถามเล่นกวนตีนผมก็จะบอกเลย ว่ายังไม่ทันทำเลขได้เลย ดันอยากรู้ซะหล่ะว่า

จะเรียนเลขไปทำไม แน่จริงก็ทำให้ได้ก่อนแล้วครูจะบอก

0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 5398
ที่อยู่: Santiago bernabeu
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 9:55 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
Spoil
wrwwrw พิมพ์ว่า:
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:
aristotle_life พิมพ์ว่า:
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:

เหมือนท่านจะตีความผมผิดนะฮะนะ วิทย์-คณิต ยังไงก็ต้องไปด้วยกัน ผมหมายถึงว่า ถ้าเด็กคนไหนพร้อมเรียน ก็ให้เรียนวิทคณิต ตั้งแต่มอต้นไปเลย ไอพวกที่ไม่ไหว ให้มันไปโซนกีฬา โซนภาษา โซนหลักสูตรอื่นเอา หรือไม่ก็เรียนบ้าง ให้มันได้ตรรกะ การคิดวิเคราะห์มา พูดง่ายๆ เรียนสักเทอมก็ได้

วิทย์คอม มาต่อยอดจากวิทย์คณิตอีกทางอ่าฮะ

เพราะเด็กบางคนมันพร้อมจะเป็นโปรแกรมเมอร์แต่เด็กเลย สนใจ สนอะไร บางคนแม่งโค้ดดิ้งเก่งกว่าผมอีกตอนนี้  


จริงๆแล้วผมเห็นความสำคัญของคณิตศาสตร์ เพราะเป็นศาสตร์แรกของโลก และปัจจุบันที่ก่อให้เกิดความคิดในการแก้ไขปัญหา และหาความถูกต้อง

คนที่เก่งคณิตศาสตร์ จะมีวิธีคิดที่ดีและเหตุผลจากการหาคำตอบ ไม่เดาไม่คาดการ สามารถอธิบายคำตอบได้

ที่สำคัญคือการพิสูจน์ความจริง และความถูกต้อง ทุกวิชาด้านสังคมล้วนต้องประยุกต์ คณิตศาสตร์เข้ามาให้ ในการวิเคราะห์ทั้งสิ้นครับ


ขนาดทนายความยังต้องสอบคณิตศาสตร์ ก็เพราะว่าต้อง หาคำตอบ และพิสูจน์ความถูกต้องของกระบวนการ

ภาษาอังกฤษ หากมองไวยกรณ์เป็นตรรกะก็สามารถผัน Tense ได้อย่างง่ายดายเพราะมีหลักการทางไวยกรณ์ที่เป็นระบบ เข้าเงื่อนไขใดแล้วต้องผันแปรตัวใด นี้เป็นหลักการของคณิตศาสตร์

กีฬา ยิ่งต้องมีการทำสถิติ หลักการคิดคำนวน การวางแผนการตามสถานะการ เพื่อวิเคราะห์แลัจัดการทั้งเรื่อง เวลา ระยะสั้น ระยะยาว กำหนดคิว หรือหาค่าที่ถูกต้องในการซ้อมต่างๆ

จะอาสัยแต่ประสบการณ์ล้วนๆไม่ได้ ต้องอาศัยทฤษฎีด้วย จะช่วยให้พัฒนาได้ตั้งแต่ต้น
พื้นฐานทางความคิดดี ต่อยอดได้ทุกแขนงครับ

ชีวิตสั้นจะอยู่กับปัจจุบันคงไม่พอ ต้องสร้างอนาคตไว้ด้วยครับ
หลายเหตุการณ์ที่ เห็นว่านักกีฬา ต้องพึ่งพาผุ้จัดการ จนทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็น พอหมดอายุไขแล้ว ก็ไม่สามารถอยู่กับอนาคตได้ หลุดรอดเป็นโค้ชต่อ เป็นกรรมการ เป็นนักวิเคราะห์ได้น้อยมาก
 


จริงๆผมเห็นเด็กมาเยอะ เลยอาจจะมองอะไรแคบๆไปหน่อย
ถ้าเอาความเห็นท่านเป็นหลัก อย่างน้อยๆ ก็ควรจะทำให้เขารู้ว่า เรียนไปเพื่ออะไรบ้างก็ดี คำถามนี้ ผมก็เคยถามตอนเด็กๆ ไม่มีใครตอบได้ชัดแจ้งสักคน

แต่ความเห็นท่านยอดเยี่ยมเลยครับ ผมจะเอาไปเป็นแนวทางใช้พูดกับเด็กที่หาปลายทางไม่เจอด้วย ให้มันรู้ว่าเรียนไปทำไม เรียนไปเพื่ออะไร อย่างน้อยๆ ก็เพิ่มทางเลือกหรือสร้างความมั่นใจให้พวกเขาได้ ดีกว่าเรียนเลื่อนลอย จบๆไปงั้นแหละ สุดท้ายไม่ได้อะไรเลย  


ที่จริงต้องยอมรับว่าครูมัธยมที่สอนคณิตศาสตร์นั้น หาดีได้ยากจริงๆ เพราะจบแค่ ป.ตรี ยัง

ไม่รู้เลยว่าคณิตศาสตร์แก่นแท้คืออะไร มีการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่า่งไรได้บ้าง

มีตัวอย่างเยอะแยะมากมาย ใกล้ๆตัวที่เป็นผลมาจากการพัฒนาความรู้ทางคณิตศาสตร์

แต่ครูที่จะอธิบายพวกนี้ได้ ต่ำๆต้องจบ ป.โท สำหรับผมเวลาผมเจอเด็กที่เรียนกับผมแล้ว

ถามว่าเรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม ผมจะมองออกว่าเด็กถามจริงหรือถามกวนตีน คนที่ถาม

จริง ผมจะอธิบายเลยว่าแก่นแท้ของคณิตศาสตร์ไม่ใช่การคิดเลข แต่เป็นการใช้เหตุผล

เรียนคณิตศาสตร์ให้ดี จะฝึกให้เป็นคนมีเหตุมีผล และคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบได้

ส่วนพวกที่ถามเล่นกวนตีนผมก็จะบอกเลย ว่ายังไม่ทันทำเลขได้เลย ดันอยากรู้ซะหล่ะว่า

จะเรียนเลขไปทำไม แน่จริงก็ทำให้ได้ก่อนแล้วครูจะบอก

 
 


ผมมาเข้าใจตอนเรียนมหาลัยครับ เรื่องนี้ เรียนสถิติ

บอกเลยผมได้อะไรเยอะมาก วิธีการคิดผมเปลี่ยนไปสุดๆ ทัศนคติเปลี่ยนไปเยอะมาก

กับสิ่งที่เราเรียนแทบตาย ยากสุดๆ พบทางสว่าง พบแก่นของมัน ผมยิ่งเข้าใจ ผมยิ่งตั้งใจเลยครับ

ได้Bมา ภูมิใจสุดๆเลย เป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่มาก ผมจะไม่ลืมเลย

ตอนเด็กๆ ถ้าเอาผมเป็นมาตรฐาน ถ้าเด็กไม่เข้าใจถึงแก่น ไฟมันจะหมดครับ เพราะบางอย่างมันยากที่จะค้นคว้าหรือทำความเข้าใจจริงๆ ถ้าไม่มีไกด์
0
0
เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 1261
ที่อยู่: หอสมุดมหาวิทยาลัย
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 11:18 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
ผมสอนสังคมน่ะ
ที่มันเป็นเเบบนี้เพราะโครงสร้างหลักสูตร
เหมือน ม.1 2 3 4 5 6 เรียนๆไปก้วนลูปเรื่องเดิม เเต่เนื้อหาเเค่ลึกกว่าเดิม
อย่างพระพุทธก้ อริยสัจ4 เบื้องต้น ม.ต้น พอม.ปลายก้อริยสัจ4ที่ลึกกว่า
ถ้าหาก เลือกสายวิทย์-คณิต ผมเห็นด้วยที่ตัดสังคมออก เเต่ควรให้เรียนเป็นพื้นฐานตอนม.4
ถ้าหาก เลือกสายศิลป์-ภาษา ก้ตัดคณิตไปเลย เรียนภาษากับสังคมไปเลย

ถ้าเด็กเรียนๆไปเเล้วไม่ไหว ก้ควรให้ย้ายห้องได้
เเละควรมีสิทธิให้เด็กได้เลือกวิชา เลือกอย่างน้อย 3วิชา ต่อ1เทอม
เเต่ที่กล่าวๆมาขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของเด็กด้วย พอมีวิชาเลือกเด็กไทยส่วนนึงจะเลือกที่อยากเรียน มีวางเเผนอนาคต ไว้เเล้ว เช่นวิชาเลือก ทดลองวิทยาศาสตร์ เพื่อเรียนต่อ
เเต่อีกส่วนนึงต้องยอมรับด้วยมันตามเพื่อน เพื่อนเรียนไรมันเรียนด้วย
วิชาเลือกที่มันเกิดไม่ได้เพราะเขาเทียบกับชุมนุมหรือชมรมในโรงเรียน ที่มีอยู่เเต่ไม่ได้จริงจังอะไรเรย มีส่วนน้อยที่ต่อยอดความสำเร็จให้นักเรียนได้
0
0
เข้าร่วม: 15 Sep 2009
ตอบ: 3311
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 04, 2015 11:54 pm
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
ขอบ่นบ้างงง วิชาพระพุทธนี่แยกมาทำไม ทำไมไม่รวมกับสังคมละสังคมก็แบ่งซอยเป็นหลายอันมากพระพุทธดันแยก เนื้อหาก็อย่างน้อย

คอมเนี่ย เรียนปีเดียว เข้ามหาลัย เรียนวิศวะเขียนโปรแกรมแทบไม่เป็นเรียนมาไม่ช่วยเลย แลปเคมีแลปฟิจะกลัวเครื่องมือพังอะไรนักหนา โน้นก็ไม่ให้จับนี่ก็ไม่ให้จับ

นี่ก็ทดลองไม่ได้เดี๋ยวโน้นเดี๋ยวนี่ อังกฤษ ผมว่าพอแล้ว6หน่วยต่อเทอม ที่ควรเพิ่มน่าจะพวกพื้นฐานอาชีพ พวกเขียนแบบ ออโต้แคด แลปวิทย์ ภาษา

มันจะโอเคขึ้นเยอะ แต่เด็กๆเราๆก็ผ่านมาแบบชีวิตแทบไม่เคยว่าง เด็กบางคนเคว้ง จนเรียนจบยังไม่รู้ตัวเองชอบอะไรอยากทำอาชีพอะไร
0
0


เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8890
ที่อยู่: PSU
โพสเมื่อ: Mon Oct 05, 2015 3:26 am
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
บางเรื่องในมัธยมนี่ไปเรียนในมหาลัยดีกว่ามั้ง เรียนไปอย่างลึกไม่ได้ใช้ทำไรสักอย่าง
0
0
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 3660
ที่อยู่: KU
โพสเมื่อ: Mon Oct 05, 2015 5:23 am
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
papaya_pokpok พิมพ์ว่า:
INNOCENT LIFE พิมพ์ว่า:
พุทธศาสนา ไม่ควรเรียน เสียดายเวลา เพราะเรียนไปไม่บรรเทาจิตใจอะไรเด็กเลย หรือควรจะเรียนให้จบๆตั้งแต่ประถมก็พอแล้ว ทุกวันนี้ เด็กรุนแรงมากขึ้นมากกว่ายุคผมเยอะมาก แล้วไอพวกสภาพแวดล้อมสร้างเด็กแว้นซ์ ขอเถอะ พวกคุณก็มองสาเหตุกันออก มีอำนาจแต่กลับแก้ไม่ได้


ควรจะใส่วิชา พัฒนาบุคลิกภาพเสริมสร้างศักยภาพให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออกมากกว่า ใส่หลักสูตรการรับผิดชอบการแบ่งเวลาเข้าไปด้วย เพราะผมมองว่าพื้นฐานทางครอบครัวไม่เพียงพอที่จะสอนเรื่องพวกนี้ เพราะพ่อแม่บางคนนิสัยเสียมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็ทำเดิมๆลูกก็เลียนแบบ ถ้าเด็กพร้อมจะเรียนรู้ ผมว่าเรื่องการรับผิดชอบ จะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เพราะถ้าแบ่งได้ เรียนก็เรียน เล่นก็เล่น งานก็งาน สร้างวินัยพื้นฐานไป อย่างน้อยๆ ก็ปลูกฝังไว้ ห้องนึง40คน ผมว่าเห็นผลลัพธ์สัก5-10คนก็สุดยอดแล้ว ไม่ใช่เหมือนรุ่นเรา การบ้านลอกตอนเช้าก่อนเข้าแถว


หลักสูตรการทำงานเป็นทีม ควรเพิ่มเข้าไปในวิชาไหนวิชานึง แบบแบ่งงานกันยังไง จ่ายงานกันยังไง ลีดเดอร์ควรทำอะไร ทุกวันนี้คงไม่ต่างจากตอนเราเด็กๆ งานกลุ่มทำเดี่ยว งานเดี่ยวลอกทั้งห้อง


ส่วนเรื่องวิทย์-คณิต ผมว่าควรแยกสายเรียนให้จะแจ้งจริงๆ เพราะเด็กบางคนไม่พร้อมจะเรียนคณิตจริงๆ คนที่เก่งก็เก่ง เซ้นดีก็ไป แล้วคนที่ไม่ไหว ทำยังไงก็ไม่ได้หรอก คาดหวังอะไรไม่ได้เลย ผมสอนน้องแทบตาย สุดท้าย มันทำไม่ได้สักอย่างแต่มันดันเป็นคนที่เรียนอย่างอืนเก่งมากซะงั้น


จริงๆผมอยากให้มีหลักสูตรเทคโนโลยีเพิ่มเข้าไป เรียนวิทย์-คอมพิวเตอร์แต่เด็กไปเลย เปิดบางที่ก็ได้ เพราะมันใช้งบเยอะ ไม่ต้องทั่วประเทศก็ได้


หรือไม่ก็อย่างน้อยๆ ทำอะไรให้เทียบเคียง หลักสูตรมหาลัยบ้างก็ดี

โลกมหาลัย กับโลก มัธยม คนละเรื่อง

หลักสูตรการใช้ชีวิตพื้นฐานควรสอนให้เยอะๆในมัธยมด้วยซ้ำ แล้วมหาลัยก็เน้นอัดแน่นด้วยวิชาการไปเลย

เหมือนประเทศเรามันสอนย้อนแย้งกันยังไงไม่รู้
 

เห็นด้วยกับท่านอย่างแรงครับ แต่วิชาการมัธยมปลายก็ควรจะอัดแน่นด้วยนะครับเพื่อให้สอดคล้องกับมหาลัยที่เขาเลือก และควรมีวิชาพร้อมครูในสาขาวิชาในมหาลัยพวกตัวพื้นฐานไรงี้ด้วย
ในสายวิทย์ ควรมีครูสอนฟิสิกส์เก่งๆนะครับ ผมเข้าไปมหาลัยเนี่ย ครูฟิสิกส์ม.ปลาย กับ อ.มหาลัย หรือ อ.สอนวิศวะ ระดับฟิสิกส์นี่คนละเลเวลเลย  


ก้พี่ท่านไม่ให้พวกจบเฉะาะทางสอบเปนครู แล้วจะเอา
คนเก่งที่ไหนไปสอนล่ะครับ
0
0
เข้าร่วม: 31 Jan 2014
ตอบ: 9638
ที่อยู่: บนต้นไม้
โพสเมื่อ: Mon Oct 05, 2015 9:00 am
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
ก่อนจะคิดทบทวน ช่วยกรุณาทำให้เห็นผลหน่อยได้ไหมว่า เรียนจบไปแล้วได้อะไร บางคนเค้ามีปัญหาทางบ้าน จบ ม.6 งานรองรับแทบไม่มีความใกล้เคียงเลย อย่างน้อยช่วยหาสายงานหรือจุดที่รองรับคนที่มีปัญหาจริงๆดีกว่า

บางทีไปให้พวกสายอาชีพ หรือพาณิชย์ดีกว่ามะ สังคมและพุทธศาสนา เผื่อจะได้ขัดเกลาจิตใจบางคนได้ ให้เลิกอ้างสถาบันตีกันซะที ไม่ก็เอาเป็นวิชาหลักเลย เช็กชื่อ ควิสทุกคาบ ไม่มาเรียนก็ปรับตกแม่ง
0
0

Spoil
 
เข้าร่วม: 29 Oct 2010
ตอบ: 2726
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 05, 2015 9:50 am
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
อืมมม บอกเลยประเทศไทย ปรับแค่ มัธยม ไม่พอ ครับ ต้องปรับทั้งกระปิ ตั้งแต่ อนุบาล - มหาลัย ไปจนถึง บ.ที่ทำงานนั่นแหละ

คำถามการแก้ไขปัญหามันเริ่มมาจากว่า "การเรียนของเด็กไทย เอาไปทำอะไรไม่ได้"

ทำไมถึงทำไม่ได้หละ
1. ประเทศไทย เป็นประเทศโลกที่ 3 เป็นประเทศด้านฐานการผลิต ดังนั้น แรงงานอันดับ 1 ที่ popular ต้องเป็น งานที่ใช้แรงงานเป็นหลัก แต่หลักสูตรที่เราๆ เรียนกัน ตั้งแต่ เด็ก จนจบ ป.ตรี มันคือ การเรียนเพื่อพัฒนาแล้ว แต่ประเทศเรามันไม่ได้ต้องการขนาดนั้น R&D ที่ทำอะไรใหม่ๆจริงๆ โคตรน้อย ส่วนมากออกไปแนวทางบริหารต้นทุนซะมาก แต่ไม่มี Innovation อะไรเท่าไร (มีแต่ โครงงาน โปรเจคจบ Thesis ที่นานๆๆๆๆๆๆ จะได้เอาไปใช้ทำจริงๆสักที) ดังนั้นแก้ตรงนี้ไม่ได้ ก็จบ

2. การเรียนมหาลัยมันต้องใช้พื้นฐานจากความรู้มัธยมปลาย ดังนั้น การจะเข้าไปเรียนคณะนั้นๆ ความรู้มันต้อง Match จริงๆ มีพื้นมาจริงๆ ไม่ใช่ไปเรียน วิทยาศาสตร์ เพราะเข้าคณะอื่นไม่ได้ แล้วคนในคณะนั้นก็ล้วนเต็มไปด้วยคนแบบนี้ หลักสูตรที่ออกก็ต้องปรับให้ง่ายลง ไม่งั้นอัตราคนจบต่ำอีก แล้วพอจบมาคุณภาพหาได้ยาก ก็ย้อนกลับไปข้อ 1 ทำให้เราเป็นประเทศโลกที่ 3

3. เหตุที่ทำให้เกิดผลข้อ 2 คือ อะไร? คือเด็กมัธยมปลาย มันไม่มีพื้นฐานนั้นจริงๆหน่ะซิ ถามว่า เราแบ่งสาย วิทย์-คณิต ศิลป์-ภาษา ศิลป์คำนวณ ไปทำไม แบ่งไป วิชาที่ต่างกันเล็กน้อยเนี่ยนะ เห้ยไม่ใช่มั้ง แล้วอย่างหนังสือของการทรวงนี่ ยกตัวอย่างวิชา คณิตศาสตร์ ถามจริงๆเถอะว่าใช้ได้จริงขนาดไหน สมัยเรียนผมไม่แตะเลย หนังสือพวกนั้นเพราะมันไม่ Match กับสิ่งที่สอบ เราสอบแบบ คำนวณๆๆๆๆๆ จบ แล้วเด็กก็จะคิดว่า คณิตศาสตร์คือวิชาคำนวณ มันไม่ใช่ว้อยยย "คณิตศาสตร์ไม่ใช่วิชาคำนวณ" แต่มันเป็นหลักเหตุและผล ล้วนๆ เคยไปดูข้อสอบเข้า มหาลัยที่ญี่ปุ่นไหม ผมซื้อหนังสือมาเล่มนึง 100 ข้อโจทย์ญี่ปุ่น สอบเข้า ป.ตรี ผมนี่ทำไม่ได้เลยตอนนั้น ทำไม่ได้แบบ NO IDEA เลย เพราะการสอนไม่เหมือนกัน เขาสอนคณิตแบบคณิตจริงๆ หาเหตุผล พิสูจน์ ไม่ใช่แค่คำนวณ

สรุปแล้ว ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหน่ะ ตอบคำถามของตัวเองได้หรือเปล่า ว่าอยากให้ประเทศเราเป็น ประเทศแรงงาน หรือ ประเทศนักพัฒนา ถ้าตอบได้ การปรับโครงสร้างหลักสูตรเด็กมันจะง่ายมากๆเลยหละ

อ้อละอีกอย่างนึง อยากให้เด็กมีความรู้ในสายนั้นดีๆหน่ะ อย่าเอาใบประกอบวิชาชีพครูมาทำให้ถดถอยครับ คนเรียนเฉพาะทางจริงๆนี่เก่งบรรลัยเลย ปฏิรูปเรื่องพวกนี้ด้วย ครูที่มีจิตวิญญาณการสอนดี เป็นครูที่ดีมันน่าชื่นชม แต่ถ้าไม่เก่งมันก็เท่านั้น
0
0

เข้าร่วม: 22 Aug 2008
ตอบ: 153
ที่อยู่: โคมไฟไม้ไผ่
โพสเมื่อ: Mon Oct 05, 2015 10:38 am
[RE: ศธ.ทบทวนหลักสูตร ′วิทย์-คณิต′ ใหม่]
วิชาศาสนา ประวัติศาสตร์ เป็นวิชาที่จะต้องเรียน แต่เหมือนเราจะเรียนผิดๆไป

ศาสนาควรให้เรียนกับพระจะดีกว่ามั้ย แบบให้พระมาเทศน์ให้นักเรียนฟัง มันจะได้ส่งผลกับโรงเรียนและวัดให้ผูกพันธ์กัน ไม่ใช่เรียนแบบวิชาการ มันไม่ได้ทำให้จิตใจดีขึ้นเลย

ประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรู้ ว่าอดีตนั้นเกิดอะไรขึ้นบนโลกบ้าง ประเทศไทย ประเทศอื่นๆ มันมีสิ่งที่น่าสนใจมากจริงๆ อดีตเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำอีก

อยากให้หลายๆวิชาไม่ต้องมีเกรด เกรดมีเฉพาะวิชาหลักก็พอ


0
0