ZeedZaIce พิมพ์ว่า:
NoomNeverdie พิมพ์ว่า:
recca111 พิมพ์ว่า:
ค่อยๆแก้ไปครับทีละอย่าง เอาที่เร่งด่วนก่อน
-คนเจ็บที่โดนรถชน ให้ประกันเคลมไปก่อน ถ้ารถไม่มีประกันไว้ไปเจรจาในศาลอีกที ยื้อเวลาจ่ายไปก่อน เราสามารถผ่อนจ่ายได้เป็นรายเดือนกรณีศาลตัดสินแล้ว ซึ่งเงินที่ลูกค้าเรียกมาอาจน้อยลงกว่านี้อีก
-เรื่องทอง กระเป๋าตังค์ เป็นของเรา เรากัดฟันสู้เพื่อหาใหม่ได้ อย่าท้อครับ ผมก็เคยหายเป็นแสนเหมือนกัน
-ระวังเรื่องทรัพย์สินที่จะไว้ในรถ อย่าประมาท ตั้งแต่ของในรถหาย ผมจะซ่อนไว้ตามช่องต่างๆ หรือไม่ก็ ใต้พรมรองเท้า
-มีเรปนึงบอกว่าสงสัยเรื่องเพื่อนสมรู้ร่วมคิด ผมก็สงสัยประเด็นนี้นะครับ ไม่ได้อยากให้เพื่อนแตกแยก แต่ไม่ควรทิ้งประเด็นนี้
- คนที่เจ็บผมก็ให้ประกันคุยครับ...เมื่อเช้าก็เอากระเช้าผลไม้ไปเยี่ยมเขามาครับ ส่วนเงินที่เขาเรียกค่าทำขวัญผมบอกว่า ผมจะจ่ายให้ครับ แต่ขอผ่อนเป็นเดือนๆละ 1 หมื่นบาท ซึ่งเขาก็ตกลง และบอกว่างั้นเขาลดให้เหลือ 50,000.-
- ส่วนของในรถผมเก็บไว้ในถาดรองตรงใต้เบาะคนนั่งข้างหลัง ซึ่งผมก็คิดว่ามิดชิดและก็ปลอดภัย แต่สุดท้ายก็โดนจนได้ครับ
- ส่วนเรื่องคิดว่าเพื่อนมั๊ย ผใก็คิดนะครับ แต่กล้องตัวที่มันเปิดได้ด้านนหน้าท้างเข้าคอร์ส ตอนคนเข้าออก ซึ่งกล้องตัวนี้ไม่เสีย ซึ่งเพื่อนผมทุกคนก็ไม่ได้มีคนไหนออกไปข้างนอกในช่วงเวลา ที่เล่นแบต แต่กล้องตัวที่ส่องมาตรงที่นั่งที่วางของมันดันเสีย บััลัยเกิดครับ
เงินในรถผมสงสัยเพื่อนท่านมากเลย ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสนามแบตตลอดแต่โทรไปบอกคนอื่นไปทุบเอาได้นะ เงิน 2แสน5มันไม่เข้าใครออกใครนะ เพราะถ้าท่านเก็บดีขนาดนั้นลำพังคนข้างนอกไม่เห็นมันไม่มีใครจะมาทุบรถใครกันง่ายๆนะผมบอกเลย
" เพราะถ้าท่านเก็บดีขนาดนั้นลำพังคนข้างนอกไม่เห็นมันไม่มีใครจะมาทุบรถใครกันง่ายๆนะผมบอกเลย "
... เป็นผมนะ ผมสงสัยคนใกล้ตัวก่อนเลย
เพราะ คนนอกที่ไม่เกี่ยวกับชีวิตท่าน และไม่รู้กิจกรรมทางการเงินของท่าน
มันไม่น่าจะบังเอิญขนาดว่า มาทุบรถ แล้วได้เงินไปเลย 2 แสน...
----------------------------------------------------------------------
เป็นกำลังใจให้นะครับ
ผมอ่านแล้วยังหดหู่แทน คงขาอ่อนไปหลายวัน
ของผมของหายที่จำได้ คงเป็นจักรยานที่บ้านอ่ะครับ
เอาไปจอดไว้ตรงที่จอดของหมู่บ้าน ล๊อกโซ่กับเสาไว้ด้วยนะ
ปรากฎว่า โจรมันเอาเครื่องมาตัดโซ่ผมออก แล้วเอาจักรยานไปเลย
แต่ราคาไม่กี่พันหรอกครับ เป็นจักรยานแม่บ้านเฉยๆ
นอกนั้นชีวิตไม่ค่อยมีไรหาย หรือถ้าหายก็ของราคาต่ำๆทั้งนั้น
-----------------------------------------------------------------------
ส่วนเรื่องที่ว่าดวงตก ดวงซวยที่ท่านว่ามา
ผมจะบอกว่า ผมเจอมาหลายปีแล้ว
หมายถึง ชีวิตมันเข้าสู่ความวิกฤต ปัญหาเยอะ อุปสรรคมาก
แก้กันชนิดที่ว่า แทบทุกเดือนเลย
โคตรเหนื่อยใจ แค่ปัญหามันไม่หนักหรือเสียหายเท่าที่ท่านเจอ
อารมณ์ประมาณว่า ทำอะไรก็ติดขัด ซวยตลอด เรื่องที่ตั้งใจทำให้ได้
ก็พังไปหลายเรื่องครับ โคตรหดหู่ ชีวิตผมแย่สลัดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
----------------------------------------------------------------------------
ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องตลกนะ
- วันสอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัย แน่นอนว่ามันสำคัญมาก
ผมดันท้องเสียหนัก แล้วปวดท้องบนทางด่วน ที่แวะข้างทางไม่ได้เลย
คือไม่มีห้องน้ำให้เข้าอ่ะครับ อั้นอยู่ 30-40 นาทีได้
โชคดีว่าอั้นไหว ในใจตอนนั้นคิดว่า ถ้ามันไม่ไหว คงต้องกลับบ้าน
- ผมนั่งเรือไปเรียนมหาลัยบ่อยๆนะ
แล้วจู่ๆวันนึงที่เป็นวันสอบ นั่งๆไป เรือมันดันเสียระหว่างทางครับ
ผมไปสอบสายราวๆ ชั่วโมงกว่าๆ (ใจแป้วเลยนะครับ)
จะเสียวันไหนไม่เสีย มาเสียเอาตอนวันสอบ
- อีกครั้งหนึ่งคือ วันสอบเหมือนกัน เรือเสีย ผมไปสายอีกแล้ว
ราวๆชั่วโมงกว่าเลย (อีกปีถัดมา จากเหตุการณ์ครั้งน้ัน)
ซึ่งในชีวิตนี้ ผมนั่งเรือ แล้วเรือเสีย 2 ครั้งเอง
ซึ่ง... 2 ครั้งนี้ แม่งเป็นการเสียวันสอบผมทั้งคู่
- จริงๆเรื่องที่ซีเรียสมากๆก็มี แต่ขอไม่เล่าดีกว่า มันยาวมากจริงๆ
แต่นับได้ว่าเป็นอะไรที่วิกฤตที่สุดแล้วมั้งของชีวิตที่ผ่านมา
เอาเป็นว่า ผมลงทุนและตั้งใจทำอะไรไปอย่างนึง คือตั้งใจไว้มาก
ตั้งเป้าหมายไว้ ยอมเสียแทบทุกอย่างไปเลย
... แต่ผลคือ ล้มเหลวครับ ทุกอย่างกลายเป็น 0 และอาจจะติดลบ
และยังเสียใจอยู่จนทุกวันนี้
- เรื่องความรัก ดวงซวยเหมือนกัน
เพราะมีคนมาเกาะแกะผม แล้วเขาเหมือนมโนไปว่า ผมไปจีบเขา
แล้วก็เอาผมไปพูดเสียหาย ตอนหลังไปคบกับรุ่นพี่ที่ผมรู้จัก
ยังดีว่า ไม่มีปัญหากัน ... อันนี้เป็นดวงซวยจากคนใกล้ตัว
(ไอผม ไม่เคยไปคิดร้ายกับใครนะ แม่งเชี่ยจริง มาเจออะไรแบบนี้)
ที่ผ่านมาก็มีคุยๆหลายคน แต่ส่วนใหญ่ถ้าไม่จบแบบเงียบกันไปเฉยๆ
ก็คือ จบไม่สวย... คือมันมีเหตุซวยอ่ะท่าน ให้ผมต้องจบไม่สวยกับหลายๆคน
ยกตัวอย่างรายนึงคือ เจ้าตัวมีคนคุยอยู่แล้ว
แต่ก็ไม่ยอมบอกผม... สุดท้ายผมต้องเสียใจอยู่ฝ่ายเดียว
ไอห่าผมอุตส่าห์ไว้ใจ เชื่อใจ คุยกันมาตั้งครึ่งปี
เรียกได้ว่า เสียเพื่อนไปด้วยเลย
ส่วนแฟนเป็นตัวเป็นตนจริงๆจังๆ ไม่เคยมี
- เรื่องเงิน อันนี้โชคดีหน่อย ผมมีกินมีใช้ปกติ
- เรื่องสุขภาพ ก็ป่วยเล็กๆน้อย ไม่ซีเรียสครับ แต่ก็ป่วยบ่อยเหมือนกัน
หลักๆก็โรคจากความเครียด
----------------------------------------------------------------------------
แต่เรื่องโชคดีก็พอมีนะ
- เรื่องเงิน อย่างที่บอก ผมไม่ค่อยขัดสน แต่ส่วนตัวไม่ได้ใช้ไรเยอะอยู่แล้ว
- เรื่องการเรียน เทอมไหนผมจะขี้เกียจยังไงก็ไม่เคย F
คือเอาตัวรอดมาได้เสมอ...
- ผมมีโอกาสได้พบ คนดีๆ คนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน
แต่เขายื่นมือมาช่วยเหลือเวลาผมเกิดวิกฤต หรือหยืบยื่นไมตรีจิต
(คือ ไม่ได้เจอแต่คนแย่ๆ คนที่มาหลอกเรา)
- เรื่องครอบครัว ไม่มีปัญหาไร ตรงนี้ก็ลดภาระไปได้เยอะ
ผมก็ไม่ค่อยต้องไปกังวลเรื่องคนที่บ้านมาก
- ไอความชิบหายที่เกิดขึ้น มันดึงให้ผมได้มุมมองใหม่ๆเพียบเลยนะ
อันที่ผมว่าสำคัญสุดคือ ผมเกิดความรู้สึก ยึดติดน้อยลงมากกับทุกสิ่ง
คือเริ่มปลง -*-
ก็หันมาสนใจปรัชญาพุทธมากขึ้น เริ่มรู้จักมองโลกตามจริง (ตามธรรมดาของโลก)
คือวางใจให้เป็นกลาง ไม่ไปคาดหวังอะไรมาก
ถ้าดีใจ ผมก็ไม่ดีใจมาก
ถ้าเสียใจ ผมก็คิดซะว่า เห้ยแม่งเรื่องธรรมดา
กูยังไม่ทันตาย ล้มได้ เดี๋ยวกูทำใหม่
ไอวิธีคิดแบบนี้ ช่วยผมมาได้หลายครั้ง
------------------------------------------------------------------------
ยังไงก็ขอเอาใจช่วยให้จัดการปัญหาได้นะครับ
พยายามผ่อนคลายอารมณ์จิตใจตัวเอง
อย่าเครียดเกินนะครับท่าน ถ้าเครียดเกินสุขภาพจะแย่ (แบบที่ผมเป็นประจำ)
คิดในแง่ดีคือ ท่านไม่ได้พิการ ดวงตาก็ยังมีให้มองเห็นอะไรสวยๆงามๆ
หูก็ยังไม่หนวก ยังฟังเพลงเพราะๆได้
ขาก็ยังมีให้เดินวิ่งเตะบอล มือเราก็มีครับ ยังจิ้มคีย์บอร์ดได้
คนที่ประสบเหตุจนพิการ เขาต้องทำใจยอมรับมากกว่าท่านอีกระดับเลย