สาเหตุที่ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ มีวันที่ 28-29
นั่นสิ..สงสัยมาก็นานแล้วก็เลยลองหาคำตอบดู พบว่าเรื่องวันของแต่ละเดือนนี่ที่แท้เกิดจากความเอาแต่ใจของท่านผู้นำนั่นเอง ท่านผู้นำคนนั้นก็คือจักรพรรดิออกัสตัส เพราะในกรุงโรงเก่านั้นถือว่าเดือนที่มีเลขคู่เป็นเดือนอับโชค ส่วนเดือนที่เป็นเลขคี่เป็นเดือนนำโชค
ในภาษาอังกฤษเรียกเดือนที่แปดว่า ออกัสต์ เพราะว่าในเดือนนั้นจักรพรรดิออกัสตัสมีชัยชนะจึงเอาชื่อตัวเองมาตั้งเป็นชื่อเดือน แต่ขณะนั้นพบว่าเดือนสิงหาคมมีแค่ 30 วัน จักรพรรดิจอมเอาแต่ใจก็เลยไปชักตัวเลขจากเดือนกุมภาพันธ์ มาใส่ในเดือนของตัวเองเสียอีกหนึ่งวัน เพราะเมื่อก่อนนี้ในปฎิทินจูเลียน ที่สร้างขึ้นโดยจูเลียส ซีซาร์ เดือนคี่จะมี 31 วันส่วนเดือนคู่มี 30 วัน เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนยกเว้น คือมี 29 ในปีปกติและ 30 ในปีอธิกมาส ออกัสตัสไม่พอใจว่าเดือนเกิดของตัวเอง ซึ่งเป็นเดือนที่ 8 เป็นเดือนคู่อันหมายความถึงโชคร้าย ก็เลยจัดการถอดวันออกมาจากเดือนกุมภาพันธ์มาใส่เดือนสิงหาคมเลยมี 31 วัน
ที่ไหนได้พออ่านดูแล้วก็พบว่า มีเดือนที่มี 31 วันติดกันสามเดือนทีเดียว
คือ กรกฎา สิงหา และกันยา จักรพรรดิเอาแต่ใจตามฟอร์มก็เลยเปลี่ยนอีกแล้ว ให้กลายเป็นกันยามี 30 วันพอ ส่วนตุลาเดือนคู่ที่เคยมี 30 ก็ให้มี 31 พฤศจิกากลายเป็น 30 และสุดท้ายธันวาก็มี 31 ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ก็ถูกยกให้เป็นเดือนของผีสางไป ก็เลยเหลือแค่ 28 วันพอ และจะมี 29 วันในปีอธิกมาส
คำว่ากุมภาพันธ์นั้น ในภาษาอังกฤษมีชื่อว่า February ซึ่งเป็นชื่อเทพเจ้าองค์หนึ่งของชาวอิตาเลียนโบราณ เล่ากันว่าเทพเจ้าองค์นี้มีพระนามว่า “Februus” หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “Februa” เทพองค์นี้เป็นตัวแทนแห่งความตายและความบริสุทธิ์ ว่ากันว่าเทพองค์นี้ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองด้วย จึงไม่แปลกใจเลยที่เดือนนี้จะเป็นเดือนที่มีการจัดเทศการเฉลิมฉลองกรุงโรม แล้วก็แต่เดิมนั้นปฏิทินโรมันจะมีเพียงแค่ 10 เดือน (304วัน) โดยจะนับเอาเดือนมีนาคมเป็นเริ่มต้นปีใหม่ 10 เดือนที่ว่านี้ได้แก่เดือน Martius, Aprilis, Maius, Junius, Quintilis, Sextilis, September, October, November และ December ปฏิทินนี้เป็นที่รู้จักและใช้ต่อกันเรื่อยมาจนถึงประมาณ 738 ปีก่อนคริสตศักราช
ต่อมาก็คือปฏิทินจูเลียตที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ได้ถูกสร้างขึ้นโดย Julius Caesar ซึ่งเป็นผู้นำคนใหม่ของโรมันครับ ผู้นำโรมันคนนี้ได้เล็งเห็นถึงความผิดปกติและความไม่ถูกต้องของปฏิทิน จึงได้ทำการสั่งให้เลิกทำการคำนวณเดือนจากการนับดวงจันทร์เหมือนที่เคยใช้กันมา แต่เดิมนั้นใช้ระบบดวงจันทร์คืออาศัยข้างขึ้นข้างแรม สังเกตความเปลี่ยนแปลงของดวงจันทร์ พอหมดข้างแรมทีนึงก็นับเป็นหนึ่งเดือน พร้อมกับได้เปลี่ยนไปใช้วันที่ 1 ของเดือน January เป็นวันแรกของปี อีกทั้งผู้นำโรมันคนนี้ยังได้ทำการเปลี่ยนชื่อเดือน Quintilis เป็น July ซึ่งมาจากคำว่า Julius Caesar เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ตัวเอง และนอกจากนี้ปฏิทินจูเลียตยังได้กำหนดเอาไว้อีกว่า ให้เดือนคี่มี 31 วันเดือนคู่มี 30 วัน ยกเว้นเดือนกุมภาพันธ์มี 29 วันในปีปกติสุรทิน และมี 30 วันในปีอธิกสุรทิน (คำว่า ปีปกติสุรทิน หมายความว่าเป็นปีปฏิทินที่มีจำนวนวัน 365 และ ปีอธิกสุรทิน หมายความว่าเป็นปีปฏิทินที่มีจำนวนวัน 366 )
ต่อมาในยุคสมัยของกษัตริย์ Augustus Caesar ไม่พอใจที่เดือนเกิดของตนเองซึ่งเป็นเดือน 8 เป็นเดือนคู่ จึงได้ทำการดึงวันออกจากเดือน February ออกมา 1 วัน แล้วนำมาใส่ในเดือนเกิดของตนเอง และได้ทำการเปลี่ยนชื่อเดือนเกิดของตนเองจาก Sextilis เป็น August จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเดือน August ถึงมี 31 วัน และทำไมเดือน February จึงเหลือ 28 หรือ 29 วันนั่นเอง
ระยะเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบนั้น เท่ากับ 365.24224 วัน ถ้า
ในปีไหนที่เดือน February มี 28 วันแล้วล่ะก็ ปีนั้นจะมี 365 วันซึ่งจะขาดไป 0.24224 วัน ในปีไหนที่เดือน February มี 29 ปีนั้นจะมี 366 วัน ซึ่งจะเกินไป 0.24224 วัน ดังนั้นเพื่อที่จะให้ง่ายต่อการเพิ่มหรือว่าลดระยะเวลาที่ขาดหายหรือมากเกินไปนั้น จึงได้มีการกำหนดให้ปีที่มี 365 วันซึ่งจะขาดไป 0.24224 วัน นำไปทดไว้จนครบ 4 ปีก็จะได้วันเพิ่มมาอีก 1 วัน
ส่วนการคำนวณหาว่าปีไหนจะเป็นปีที่มีเดือน February 29 วัน ก็ให้นำปี ค.ศ. มาตั้งแล้วหารด้วย 4 ถ้าเกิดว่าหารลงตัวไม่มีเศษแล้วล่ะก็ปีนั้นจะเป็นปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เกิดในวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ค่อนข้างจะโชคดีเพราะนานทีมีสักครั้ง...
สรุปว่า การเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในโลกนี้เกิดขึ้นเพราะผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยใดก็ตาม ผู้ยิ่งใหญ่ย่อมมีอำนาจทำตามใจตนเองปรารถนา ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือไม่ดีก็เปลี่ยนแปลงได้ แม้แต่วันเดือนปีหรือดวงอาทิตย์พระจันทร์
Spoil
http://www.oknation.net
