ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 05 Jun 2008
ตอบ: 139
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 1:04 pm
[3G Warning !!] 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี
คำเตือน !! กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ใช้ภาพเล่าเรื่องเป็นหลัก ซึ่งตามหัวข้อเลยคือ 100 ภาพ ซึ่งมีจำนวนภาพเท่านั้นจริง ๆ ใครที่เล่นในมือถือและคิดว่าสิ้นเปลืองอินเทอร์เน็ต แนะนำให้ปิดกระทู้นี้ไปก่อน แล้วหาโอกาสเข้าชมใหม่จากอินเทอร์เน็ตที่บ้านคุณ เพราะภาพเยอะมาก และความละเอียดบางภาพสูง นอกจากนี้ผมจะไม่ขอครอบ Spoil เพื่อลดอรรถรสในการรับชมกระทู้นี้ ตามนั้นครับ ขอบคุณมากที่รับชม...








ท้าวความถึง เมื่อปี 2005 เชลซี ทีมที่ในเวลานั้นเพิ่งได้เฉลิมฉลองบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร ได้เปลี่ยนแปลงสิ่ง ๆ หนึ่งที่กล่าวได้ว่า เล็กน้อย หากแต่ยิ่งใหญ่ ...การเปลี่ยนตราสโมสรใหม่เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของสโมสร ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัว ภายใต้การกุมบังเหียนของโจเซ่ มูรินโญ่ และประธานสโมสรชาวรัสเซียอย่าง โรมัน อบราโมวิช ถึงบัดนี้ผ่านมาแล้ว 10 ปี หลายสิ่งยังเหมือนเดิมดั่งวันวาน เช่นเดียวกันที่หลายสิ่งได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา 100 ภาพต่อจากนี้ จะเป็นการย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่เคยเกิดขึ้นกับเชลซีตลอด 10 ปีที่ผ่านมา...







พฤษภาคม 2005
ตราสโมสรใหม่ของเชลซี ในโอกาสครบรอบ 100 ปี และถูกปรับใช้อย่างเป็นทางการในปี 2006 จวบจนปัจจุบัน


เมษายน 2005
ปีเตอร์ เคนย่อน เปิดตัว Samsung Mobile เป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอก แทนที่ Fly Emirates


สิงหาคม 2005
โจเซ่ มูรินโญ่ ชักภาพร่วมกับ มิดฟิลด์ทีมชาติกาน่านาม มิคาเอล เอสเซียง แข้งใหม่จากโอลิมปิก ลีญง


สิงหาคม 2005
เชลซี แชมป์พรีเมียร์ลีก เฉือนชนะอาร์เซน่อล แชมป์เอฟเอ คัพในศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ต้อนรับซีซั่นใหม่


ตุลาคม 2005
การป้องกันแชมป์คาร์ลิ่ง คัพของเชลซี ถูกดับฝันด้วยการพ่ายจุดโทษสุดช็อกให้กับชาร์ลตัน แอธเลติก


กุมภาพันธ์ 2006
อาเซียร์ เดล ฮอร์โน่ แบ็คซ้ายเชลซี เข้าสกัดใส่ ลีโอเนล เมสซี่ ดาวรุ่งบาร์เซโลน่าจนถูกไล่ออกจากสนาม ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย


เมษายน 2006
สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลิเวอร์พูล ออกอาการสะใจสุดขีดหลังพาทีมทะลุรอบชิงเอฟเอ คัพ สวนทางกับจอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซี


พฤษภาคม 2006
เชลซี โชว์ความแข็งแกร่งไร้เทียมทานอีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นที่สองติดต่อกัน


พฤษภาคม 2006
โจเซ่ มูรินโญ่ สร้างสุดยอดโมเมนท์แห่งปี ด้วยการโยนเหรียญแชมเปี้ยนแจกแฟนบอลหน้าตาเฉย


พฤษภาคม 2006
เชลซี สั่นสะเทือนเวทีพรีเมียร์ลีกครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการทุ่มเงินกว่า 30 ล้านปอนด์คว้าตัวอังเดร เชฟเชนโก้ มาเสริมคม


สิงหาคม 2006
แม้เบิกสกอร์ตั้งแต่นัดแรก ทว่า ประตูของเชฟเชนโก้ ไม่เพียงพอที่จะคว้าชัยเหนือลิเวอร์พูล ในศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์


ตุลาคม 2006
แฟรงค์ แลมพาร์ด โชว์ความเยือกเย็นในการทำประตูใส่บาร์เซโลน่า ที่สนามคัมป์ นูว


ตุลาคม 2006
เกมเปลี่ยนชีวิตของปีเตอร์ เช็ก หลังโดนเข่าของสตีเฟ่น ฮันท์ แข้งเรดดิ้ง ปะทะที่กระโหลกอย่างรุนแรง


ตุลาคม 2006
ในเกมเดียวกัน จอห์น เทอร์รี่ ต้องรับบทนายทวารจำเป็น เมื่อคูดิชินี่ ที่เปลี่ยนลงมากลับได้รับบาดเจ็บ และหมดโควต้าเปลี่ยนตัว


กุมภาพันธ์ 2007
วินาทีเสี่ยงตายของ จอห์น เทอร์รี่ เมื่อถูกปลายสตั๊ดของอาบู ดิยาบี้หวดเข้าที่ปลายคาง ก่อนสลบไปพักใหญ่ สร้างความตกตะลึงต่อแฟนบอลในสนามมิลเลนเนี่ยม สเตเดี้ยม


กุมภาพันธ์ 2007
ในเกมเดียวกันนั้น ช่วงท้ายเกมมีการวางมวยกันครั้งใหญ่ระหว่างนักเตะเชลซี และอาร์เซน่อล ร้อนถึงสองกุนซืออย่างโจเซ่ มูรินโญ่ และอาร์แซน เวงเกอร์ที่ต้องลงมาเคลียร์


กุมภาพันธ์ 2007
บทสรุปของการต่อสู้อย่างดุเดือด เป็นเชลซีที่คว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพไปครองเหนืออาร์เซน่อล และเป็นสมัยที่ 2 ของโจเซ่ มูรินโญ่ ในรอบ 3 ปี


พฤษภาคม 2007
“เชิดหน้าขึ้น” สิ่งที่มูรินโญ่ บอกกับแฟนบอลที่ยังรักและศรัทธาต่อเชลซี ในวันที่พวกเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้ หลังทำได้เพียงเสมออาร์เซน่อล เสียแชมป์ลีกให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด


พฤษภาคม 2007
ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กระดกบอลผ่านมือของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ และเป็นประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ ส่งเชลซีเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ


กันยายน 2007
เชลซี ออกสตาร์ทซีซั่นอย่างน่าผิดหวัง และเกมยุโรป ที่ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอกับโรเซนบอร์ก คือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้โจเซ่ มูรินโญ่ถูกปลดสุดช็อก


กันยายน 2007
อัฟราม แกรนท์ กุนซือชาวอิสราเอล ถูกแต่งตั้งขึ้นมาขัดตาทัพ โดยที่สตีฟ คลาร์กเป็นตัวซัพพอร์ทเช่นเดิม


มกราคม 2008
เชลซี เสริมทัพตลาดหน้าหนาว ด้วยการเซ็นสัญญากับศูนย์หน้าพเนจรอย่าง นิโกลาส์ อเนลก้า มาจากโบลตัน วันเดอร์เรอส์


กุมภาพันธ์ 2008
จุดโทษในช่วงต่อเวลาพิเศษของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ศูนย์หน้าของสเปอร์ส ดับความหวังในการป้องกันแชมป์คาร์ลิ่ง คัพของเชลซีลงในทันที


เมษายน 2008
แฟรงค์ แลมพาร์ด ต้องประสบกับเหตุการณ์สุดช็อก เมื่อต้องสูญเสียคุณแม่อันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ


เมษายน 2008
ลูกโหม่งเข้าประตูตัวเองของ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ทำให้เชลซีกลับมามีความหวังเฮือกใหญ่ในการเข้าชิงดำถ้วยยุโรป


เมษายน 2008
แฟรงค์ แลมพาร์ด สังหารจุดโทษ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ พาเชลซีน็อคลิเวอร์พูลกรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศสำเร็จ หลังยิงประตู แลมพาร์ด ชี้ขึ้นไปบนฟ้าเพื่อส่งมอบชัยชนะครั้งนี้แด่คุณแม่ของเขา


พฤษภาคม 2008
11 ผู้เล่นตัวจริงของเชลซี ในนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ณ กรุงมอสโกว ถือเป็นนัดชิงครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย


พฤษภาคม 2008
ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ออกจากจังหวะที่ไปตบหน้า เนมานย่า วีดิช ในช่วงท้ายของการต่อเวลาพิเศษ


พฤษภาคม 2008
เชลซี กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์สโมสรด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทว่า จอห์น เทอร์รี่ พลาดท่าลื่นล้มอย่างเหลือเชื่อในการสังหารจุดโทษปิดกล่อง ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นแมนฯ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ไปครองอย่างชอกช้ำ


พฤษภาคม 2008
กัปตันเทอร์รี่ ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ กับค่ำคืนแห่งฝันร้ายที่ยากจะลืมเลือน พร้อมปิดฤดูกาลอย่างปวดใจด้วยการเป็นทริปเปิ้ลรองแชมป์


มิถุนายน 2008
เชลซีแต่งตั้ง หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม พร้อมการเซ็นสัญญานักเตะคู่บุญอย่าง เดโก้ เพลย์เมกเกอร์จากบาร์เซโลน่า


กันยายน 2008
เรย์ วิลกิ้นส์ ได้รับเลือกในตำแหน่งผู้ช่วยของสโคลารี่ แทนที่การลาออกของสตีฟ คลาร์ก


ตุลาคม 2008
สถิติไร้พ่ายในลีกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์อันยาวนานกว่า 4 ปี ถูกทำลายลงด้วยเงื้อมมือของลิเวอร์พูล จากลูกยิงสุดสวยของชาบี้ อลอนโซ่


มกราคม 2009
เชลซี รอดตายปาฏิหาริย์ จากสองประตูในช่วงท้ายเกมของเบลเล็ตติ และแลมพาร์ด พลิกแซงชนะสโต๊ค ซิตี้อย่างสุดมันส์


กุมภาพันธ์ 2009
โจเซ่ โบซิงวา ปรี่เข้าถีบที่กลางหลังของยอสซี่ เบนายูน มิดฟิลด์ลิเวอร์พูล ที่น่าแปลกใจคือ ช็อตนี้โบซิงวาเอง ไม่โดนแม้กระทั่งใบเหลืองไม่ว่าจะในเกม หรือหลังเกมก็ตาม


กุมภาพันธ์ 2009
เชลซีตะเพิดสโคลารี่ออกจากตำแหน่ง หลังผลงานดิ่งลงเหว พร้อมดึงกุส ฮิดดิ้งค์ เข้ามารับเผือกร้อนในช่วงปลายซีซั่น


เมษายน 2009
ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เชลซีบุกเอาชนะลิเวอร์พูลถึงแอนฟิลด์ 1-3 โดยสองประตูในเกมมาจากการโขกลูกเตะมุมของแบ็คขวาโนเนมที่ชื่อว่า บรานิสลาฟ อิวาโนวิช


พฤษภาคม 2009
มิชาเอล บัลลัค วีนแตกใส่ ทอม เฮนนิ่ง ออฟเรโบ้ ผู้ตัดสินชาวนอร์เวย์ ที่ปฏิเสธให้ลูกจุดโทษในช่วงท้ายเกม ในรอบรองชนะเลิศกับบาร์เซโลน่า


พฤษภาคม 2009
ดร็อกบา ก็เป็นอีกคนที่ฉุนขาดกับการตัดสินที่ค้านสายตาของทอม เฮนนิ่ง ออฟเรโบ้ จนลุกลามไปถึงการด่ากราดต่อหน้าการถ่ายทอดสดทั่วโลก ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกแบนจากเกมยุโรปถึง 6 นัด


พฤษภาคม 2009
ภายใต้การนำทัพของกุส ฮิดดิ้งค์ เชลซีคว้าแชมป์เอฟเอ คัพมาครอง ด้วยชัยชนะเหนือเอฟเวอร์ตัน


มิถุนายน 2009
เชลซี เปลี่ยนแปลงหัวเรือใหญ่อีกครั้ง ด้วยการประกาศตั้งคาร์โล อันเชล็อตติ ยอดกุนซือชาวอิตาเลี่ยนขึ้นแท่นผู้จัดการทีม


สิงหาคม 2009
ขุนพลเชลซี คว้าโล่การกุศล หลังการดวลเป้าชนะแมนฯ ยูไนเต็ด


พฤศจิกายน 2009
ลูกโขกของจอห์น เทอร์รี่กลายเป็นประตูชัยโทน พาเชลซีซิว 3 แต้มสำคัญ เหนือแมนฯ ยูไนเต็ด


พฤศจิกายน 2009
เชลซี เปิดรังถล่มวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอส์ยับ 4-0 โดยในเกมนั้น อันเชล็อตติ ส่งกองกลางดาวรุ่งคนหนึ่งลงสนาม ชื่อของเขาคือ เนมานย่า มาติช


พฤศจิกายน 2009
ร้อนแรงในเกมลีกอย่างต่อเนื่อง เมื่อบุกถล่มอาร์เซน่อลคาบ้าน 3-0 โดยหนึ่งในนั้นคือลูกยิงฟรีคิกสุดสวยของดีดิเย่ร์ ดร็อกบา


กุมภาพันธ์ 2010
เกิดเหตุอื้อฉาวของจอห์น เทอร์รี่ เมื่อลักลอบเล่นชู้กับภรรยาของเวย์น บริดจ์ จนแตกหักกันอย่างหนัก โดยในเกมพรีเมียร์ลีกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ฝ่ายหลังปฏิเสธจับมืออย่างไร้เยื่อใย


มีนาคม 2010
ในรอบ 16 ทีม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โจเซ่ มูรินโญ่ ที่คุมทัพอินเตอร์ มิลาน โคจรกลับมาเจอทีมเก่าอีกครั้ง โดยได้รับการต้อนรับจากแฟนบอลในสแตมฟอร์ด บริดจ์อย่างอบอุ่น


พฤษภาคม 2010
ลิเวอร์พูล พลาดท่าพ่ายคาบ้านให้กับเชลซี ที่ได้ประตูจากดร็อกบา และแลมพาร์ด ทำให้เชลซีมีสถิติสุดโหดด้วยการเก็บแต้มได้ 100% ในการพบกับทีมบิ๊กโฟร์ด้วยกันเอง


พฤษภาคม 2010
คาร์โล อันเชล็อตติ และฟลอร็องต์ มาลูด้า ร่วมเฉลิมฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ห่างหายไปนาน 3 ปี


พฤษภาคม 2010
ประตูชัยโทนของดร็อกบา พาเชลซีครองความยิ่งใหญ่ในอังกฤษ ด้วยการผงาดเป็นดับเบิ้ลแชมป์ครั้งแรกของสโมสร


สิงหาคม 2010
สองผู้นำของเชลซีออกอาการผิดหวัง หลังต้นสังกัดจั่วหัวซีซั่นไม่งดงาม หลังพ่ายให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ในศึกคอมมูนิตี้ชิลด์


พฤศจิกายน 2010
เรย์ วิลกิ้นส์ มือขวาอันเชล็อตติทำช็อกแฟนบอล ด้วยการประกาศขอลาออกจากตำแหน่ง


พฤศจิกายน 2010
เอฟเฟ็กต์จากวิลกิ้นส์เห็นผลในทันที เมื่อเชลซี พ่ายคาบ้านต่อซันเดอร์แลนด์ด้วยสกอร์สุดอัปยศถึง 0-3


มกราคม 2011
เชลซี สะเทือนวงการพรีเมียร์ครั้งยิ่งใหญ่อีกหน ด้วยการทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรและสถิติฟุตบอลลีกถึง 50 ล้านปอนด์ กระชากตัวเฟร์นานโด ตอร์เรสจากลิเวอร์พูล มาในช่วงเดดไลน์ของตลาดหน้าหนาว


มีนาคม 2011
ดาวิด ลูอิซ ปราการหลังบราซิลเลี่ยน เป็นอีกหนึ่งแข้งที่เชลซีดึงมาเสริมในช่วงหน้าหนาว เปิดตัวต่อแฟนบอล ด้วยลูกวอลเลย์สุดงามใส่แมนฯ ยูไนเต็ด


เมษายน 2011
ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ก้มหน้ายอมรับความพ่ายแพ้ เมื่อถูกแมนฯ ยูไนเต็ดเขี่ยตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก


เมษายน 2011
หลังอึดอัดอยู่ร่วมเดือน เฟร์นานโด ตอร์เรส ปลดล็อคประตูแรกในสีเสื้อน้ำเงินครามสำเร็จ ในเกมลีกกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด


พฤษภาคม 2011
เชลซี บุกไปพ่ายแมนฯ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนเสียแชมป์ลีกให้เจ้าบ้านในที่สุด เมื่อสิ้นซีซั่น คาร์โล อันเชล็อตติ ถูกปลดจากตำแหน่ง หลังจบฤดูกาลแบบมือเปล่า


มิถุนายน 2011
อันเดร วิลลาส โบอาส กลายมาเป็นกุนซือรายใหม่ของเชลซี หลังประสบความสำเร็จกับเอฟซี ปอร์โต้


สิงหาคม 2011
โบอาส เปลี่ยนฆวน มาต้า เพลย์เมกเกอร์ตัวใหม่ ลงไปเป็นตัวสำรองในเกมกับนอริช ซิตี้ และเจ้าตัวก็แผลงฤทธิ์ในทันที


กันยายน 2011
เชลซี พ่ายเกมลีกเป็นเกมแรกให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด โดยที่ถูกพูดถึงเหนือผลการแข่งขัน คือจังหวะพลาดหน้าปากประตูของเฟร์นานโด ตอร์เรส ที่น่าจะเป็นฝันร้ายหลอกหลอนเจ้าตัวไปอีกนาน


มีนาคม 2012
ความพ่ายแพ้ต่อ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ส่งผลให้โบอาสถูกไล่ออกในทันที โดยเชลซีได้แต่งตั้งโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ้ มือขวาขึ้นมารับหน้าที่ต่ออย่างทันควัน


มีนาคม 2012
ในรอบ 16 ทีม ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เชลซี ถูกปลุกขึ้นมาจากความตายอีกครั้ง หลังพลิกล็อคเอาชนะนาโปลี แซงเข้ารอบอย่างเหลือเชื่อ


เมษายน 2012
เชลซี โชว์ความเป็นม้าตีนปลายอย่างต่อเนื่อง ด้วยการรัวใส่ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส 5-1 ในเกมรอบตัดเชือกศึกเอฟเอ คัพ


เมษายน 2012
เฟร์นานโด ตอร์เรส สยบเสียงเชียร์เจ้าถิ่นในคัมป์ นูว ด้วยการโซโล่เข้าไปยิงผ่านมือบิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์เซโลน่าเป็นประตูทองในช่วงท้ายเกม ที่ส่งเชลซีเข้าชิงชนะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ


พฤษภาคม 2012
เชลซี ซิวแชมป์เอฟเอ คัพสำเร็จ ด้วยการโค่นลิเวอร์พูลในรอบชิงชนะเลิศ ภายใต้ความสำเร็จนี้ แอชลีย์ โคล เป็นนักเตะประวัติศาสตร์ของรายการนี้ ด้วยการกวาดไป 8 สมัยด้วยกัน


พฤษภาคม 2012
11 ผู้เล่นตัวจริงของเชลซี ในแมตซ์ชิงชนะเลิศ ณ สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ในการดวลกับเจ้าถิ่นอย่างบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ของประวัติศาสตร์สโมสร และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปี


พฤษภาคม 2012
เชลซี โกงความตายอีกครั้ง จากลูกโขกคืนชีพในช่วงท้ายเกมของดีดิเย่ร์ ดร็อกบา


พฤษภาคม 2012
พลพรรคสีน้ำเงินครามจากลอนดอน ฝ่าด่านอันทรหด และสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกสำเร็จ เป็นการลบภาพฝันร้ายอันยาวนานกว่า 4 ปีลง และสิ้นสุดการรอคอยกว่า 107 ปีของสโมสรในที่สุด


มิถุนายน 2012
เชลซี ทุ่มเงินกว่า 32 ล้านปอนด์ ในการกระชากตัวดาวรุ่งอัจฉริยะลูกหนังจากลีก เอิง นาม เอแด็น อาซาร์


กันยายน 2012
เรื่องราวบาดหมางครั้งใหญ่ของ จอห์น เทอร์รี่ กับ อันทอน เฟอร์ดินานด์ ในประเด็นเรื่องการเหยียดผิว โดยในเกมลีกไปเยือนคิวพีอาร์ อันทอน ปฏิเสธที่จะจับมือกับจอห์น เทอร์รี่ก่อนลงสนาม


กันยายน 2012
ออสก้าร์ เพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่งชาวบราซิลเลี่ยน อีกหนึ่งแข้งใหม่ของเชลซี ตะบันลูกยิงสุดสวยในเกมเปิดหัวแชมเปี้ยนส์ลีก ที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของยูเวนตุส


ตุลาคม 2012
เกมลีกกับแมนฯ ยูไนเต็ด เชลซีต้องเหลือ 9 ตัว จากการที่บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และเฟร์นานโด ตอร์เรส ถูกไล่ออก ทำให้แฟนบอลเชลซีทุกคน จดจำชื่อของ มาร์ค แคลทเท่นเบิร์ก ผู้ตัดสินของเกมดังกล่าวได้แม่นยำ


พฤศจิกายน 2012
หลังผลงานไม่ได้รุ่งเรืองดั่งปีก่อน โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ้ ถูกปลดจากเก้าอี้กุนซือ ก่อนเชลซี ทาบทามราฟา เบนิเตซ อดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เข้ามารับงานต่อในทันที


ธันวาคม 2012
ดาวิด ลูอิซ ถึงกับเสียน้ำตา หลังต้นสังกัดอกหักพ่ายให้โครินเธียนส์ ทำได้เพียง รองแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก


มกราคม 2013
ในเกมลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ เอแด็น อาซาร์ ฟิวส์ขาดใส่บอลบอย จากการที่เจ้าหนูคนนี้ ไม่ยอมปล่อยลูกบอลกลับมาสู่เกม


พฤษภาคม 2013
2 ประตูของแฟรงค์ แลมพาร์ด ในเกมลีกกับแอสตัน วิลล่า ส่งให้มิดฟิลด์ชาวอังกฤษ ขึ้นแท่นเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสรแซงหน้าสถิติเก่าของเคอร์รี่ ดิ๊กสัน


พฤษภาคม 2013
แม้ต้องอกหักจากแชมเปี้ยนส์ลีก แต่พลพรรคของราฟา เบนิเตซก็สมหวังในถ้วยยูโรป้า ลีกเหนือเบนฟิก้าในรอบชิงดำ โดยได้ประตูจากเฟร์นานโด ตอร์เรส และฮีโร่ช่วงท้ายเกมอย่างบรานิสลาฟ อิวาโนวิช


มิถุนายน 2013
เชลซีประกาศเซ็นบิ๊กดีลประจำปี ทว่า ไม่ใช่นักเตะ แต่เป็นการเซ็นสัญญาดึงตัวโจเซ่ มูรินโญ่ กลับมาสู่สแตมฟอร์ด บริดจ์อีกครั้ง ซึ่งหลังจากที่ตัวเขาถูกปลดในรอบแรก เชลซีใช้ผู้จัดการทีมไปถึง 7 คนด้วยกัน


สิงหาคม 2013
โรเมอู ลูคาคู พลาดจุดโทษ ในเกมยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ ส่งผลให้เชลซี แชมป์ยูโรป้า ลีก พ่ายให้กับแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอย่างบาเยิร์น มิวนิค


มกราคม 2014
ซามูเอล เอโต้ ซัดแฮทริกในเกมลีก ที่เปิดบ้านอัดแมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคของเดวิด มอยส์


กุมภาพันธ์ 2014
บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เป็นฮีโร่ซัดประตูชัยโทน ในเกมเยือนแมนฯ ซิตี้ ทำลายสถิติสุดโหดของเจ้าบ้าน ที่ไม่แพ้ใครเลยในการเล่นที่เอติฮัด สเตเดี้ยม


กุมภาพันธ์ 2014
โชคชะตา นำพาดีดิเย่ร์ ดร็อกบา อดีตตำนานของแฟนบอลเชลซีกลับสู่สแตมฟอร์ด บริดจ์อีกครั้ง เมื่อจับฉลากพบกับกาลาตาซาราย ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก


เมษายน 2014
ประตูในช่วงท้ายเกมของเด็มบ้า บา ทำให้ เชลซี พลิกแซงชนะเปแอสเช กรุยทางสู่รอบตัดเชือก ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทีเด็ดของเกมนี้คือ อาการดีใจสุดเหวี่ยงของโจเซ่ มูรินโญ่


เมษายน 2014
อีกหนึ่งเกมแห่งความทรงจำของพรีเมียร์ลีก ในจังหวะที่สตีเว่น เจอร์ราร์ด พลาดท่าลื่นล้ม ทำให้เด็มบ้า บาฉวยโอกาสลากเข้าไปยิงประตูขึ้นนำ ก่อนลงเอยด้วยชัยชนะของทีมเยือนเชลซี ที่ก่อนเกมเป็นรองทุกกระบวนท่า


กรกฎาคม 2014
หลังจากมือเปล่าในซีซั่นก่อน เชลซี เสริมทัพด้วยการอิมพอร์ทยอดแข้งจากลาลีกา สเปน อย่างดิเอโก้ คอสต้า, เชสก์ ฟาเบรกาส และเฟลิเป้ หลุยส์


กันยายน 2014
แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ถูกแมนฯ ซิตี้ยืมตัว ถูกเปลี่ยนลงมาและทำประตูใส่เชลซี ต้นสังกัดที่ตัวเขาค้าแข้งมายาวนาน โดยหลังทำประตูแลมพาร์ด เลือกปฏิเสธที่จะแสดงอาการดีใจ


ตุลาคม 2014
โจเซ่ มูรินโญ่ กับอาร์แซน เวงเกอร์ สองกุนซือจอมเก๋า เกิดเหตุฟาดงวงฟาดงากันที่ข้างสนาม ในเกมลีกที่เชลซีเปิดบ้านเอาชนะอาร์เซน่อลไป 2-0


ตุลาคม 2014
ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ในวัย 37 ปี ที่ถูกดึงตัวเข้ามา ยังคงอันตรายไม่เสื่อมคลาย เมื่อสามารถทำประตูแมนฯ ยูไนเต็ดได้ ในเกมลีกที่เชลซีเหลือกองหน้าธรรมชาติเพียงคนเดียว


มกราคม 2015
เชลซี ออกสตาร์ทปีใหม่ไม่สวยนัก เมื่อพ่ายยับให้กับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ภายใต้ความพ่ายแพ้ เกมนี้เกมรับของเชลซีหละหลวมจนแจ้งเกิดศูนย์หน้าชาวอังกฤษชื่อ แฮรรี่ เคน ที่โด่งดังพลุแตกในเวลาต่อมา


กุมภาพันธ์ 2015
เชลซี ประกาศเปิดตัวสปอนเซอร์คาดหน้าอกใหม่ โดยร่วมมือกับบริษัท Yokohama ผู้ผลิตยางรถยนต์ชื่อดังจากญี่ปุ่น


กุมภาพันธ์ 2015
เนมันย่า มาติช น็อตหลุดเล่นนอกเกมใส่แอชลี่ย์ บาร์นส์ กองกลางเบิร์นลีย์ ก่อนผู้ตัดสินแอตกินสัน ชักใบแดงไล่มาติชออกจากสนามในทันที


มีนาคม 2015
หลังว่างเปล่าไป 1 ปีเต็ม เชลซีกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง ในฟุตบอลแคปิต่อลวัน คัพ ที่เฉือนชนะสเปอร์ส จากประตูของจอห์น เทอร์รี่ และดิเอโก้ คอสต้า


มีนาคม 2015
ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย เปแอสเช โคจรมาพบเชลซีอีกครั้ง และเป็นยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศส ที่ล้างแค้นสำเร็จ โดยดาวิด ลูอิซ เด็กเก่าเชลซี เป็นตัวแสบในเกมอย่างแท้จริง


พฤษภาคม 2015
เกาะอังกฤษ กลับมาโรยด้วยสีน้ำเงินครามอีกครั้งในรอบ 4 ปี ภายหลังจากประตูชัยจากจุดโทษของเอแด็น อาซาร์ เพียงพอที่จะทำให้เชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองในชนิดม้วนเดียวจบ


พฤษภาคม 2015
จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซี นำลูกทีมลงสนาม โดยได้รับการปรบมืออย่างเป็นเกียรติจากลิเวอร์พูล ในเกมดังกล่าวเทอร์รี่ ทำประตูได้ และทำให้ตัวเขาก้าวขึ้นเป็นกองหลังที่ทำประตูสูงที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก แซงหน้าสถิติเดิมของ เดวิด อันสเวิร์ธ ตำนานเอฟเวอร์ตัน


พฤษภาคม 2015
ในเกมปิดซีซั่น เชลซี เปลี่ยนตัวดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ออก โดยได้รับการปรบมือจากแฟนบอลอย่างกึกก้อง เป็นการปิดฉากคำรบที่สองของดร็อกบาในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์อย่างสวยงาม


พฤษภาคม 2015
อีกหนึ่งโมเมนท์ที่น่าจดจำ หลังเชลซีเถลิงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 4 ของสโมสรมาครอง เป็นหนที่ 4 ของดร็อกบา และเป็นครั้งที่ 3 ของโจเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งเชลซีปิดฤดูกาลด้วยการไม่เสียตำแหน่งจ่าฝูงให้ทีมใดเลยตลอด 38 เกม และบรรดาแข้งน้ำเงินครามพาเหรดกันติดทีมยอดเยี่ยมมากมาย รวมถึงเอแด็น อาซาร์ที่ผงาดรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีก


สิงหาคม 2015
โจเซ่ มูรินโญ่ พ่ายเกมแรกให้กับอาร์แซน เวงเกอร์ ตลอดการเจอกัน โดยความสัมพันธ์ของทั้งคู่ร้าวฉานขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมูรินโญ่ เมินจับมือกับเวงเกอร์หลังจบเกม


สิงหาคม 2015
เชลซี ออกสตาร์ทซีซั่นใหม่ได้น่าผิดหวัง หลังพ่ายยับให้กับแมนฯ ซิตี้ เละเทะ 3-0 ในเกมนั้น มีชายคนหนึ่งยืนชมเกมอยู่บนสแตนด์ แน่นอนว่าเขาไม่มีความสุขกับผลการแข่งขัน ดังเช่น แฟนบอลคนอื่น ๆ แต่ถึงอย่างไร ความรักของเขาที่มีต่อสโมสรแห่งนี้ยังคงเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย ดังที่เคยเป็นตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และไม่ว่าอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า เรื่องราวของเชลซีจะเป็นอย่างไร สโมสรแห่งนี้ต้องขอบคุณ ชายผู้อยู่เบื้องหลังการเติบใหญ่ทั้งปวงของสโมสร …โรมัน อบราโมวิช !!!






ผมเขียนกระทู้นี้ ใช้เวลาราว ๆ 4-5 วัน ในการคัดกรองเรื่องราว และเลือกสรรรูปภาพที่สื่ออารมณ์ออกมาได้ดีที่สุด จนได้ลงกระทู้ในวันสุดท้ายของเดือนพอดี ซึ่งผมไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใด ๆ เกี่ยวกับการรับแผล่บ แต่ผมมองว่าด้วยสถานการณ์ของทีมรัก ณ ตอนนี้ ไม่ว่าจะเรื่องฟอร์มนักเตะที่หดหาย ความมั่นใจของผู้จัดการทีม และอีกสารพันปัญหาที่ถาโถมเข้ามา ทำให้กระทู้นี้เหมาะสมที่สุด กับการเรียกศรัทธาแฟนบอลกลับคืนมา ผมอยากใช้ 100 ภาพเหล่านี้ เป็นตัวแทนบอกเล่าถึงเรื่องราวความทรงจำในอดีต ว่ากว่าจะมาอยู่ในจุด ๆ นี้ ทีมของเราผ่านร้อน ผ่านหนาวด้วยกันมามากมายจริง ๆ ผมยอมรับว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่รับไม่ได้กับสภาพของทีมในช่วงออกสตาร์ทซีซั่นนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ผมยังคงเป็นอีกหนึ่งคนตรงนี้ ที่ยังเชื่อมั่น ยังศรัทธาในโจเซ่ และลูกทีมว่า ฟ้าหลังฝนครานี้จักสดใสกว่าที่เคย

ขอบคุณทุก ๆ ท่านมาก ที่รับชมกันมาจนถึงภาพสุดท้าย ทั้งที่เป็นแฟนบอลเชลซี หรือแฟนทีมอื่น ๆ ก็ตาม ผมอยู่บอร์ดนี้มากว่า 7 ปี เขียนกระทู้บ่อย (ส่วนใหญ่อยู่ในบอร์ดเก่า ก่อนเว็บโดนปิดชั่วคราว) ยอมรับว่ากระทู้นี้ผมตั้งใจทำมากที่สุดตั้งแต่เคยเขียนมา หากชอบก็กดโหวตกระทู้ให้ด้วยนะครับทุกท่าน






Limp_Bizkit
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 869
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 1:06 pm
[RE: 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
3G Warning ด้วยท่าน


เข้าร่วม: 05 Jun 2008
ตอบ: 139
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 1:10 pm
[RE: 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
Lanoxin พิมพ์ว่า:
3G Warning ด้วยท่าน  


ผมพิมจั่วหัวไว้แล้วนะท่าน หรือว่าในบอร์ดมีวิธีเตือนโดยเฉพาะ กดยังไงสอนผมหน่อย
0
0
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 6266
ที่อยู่: Wall Street SS
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 1:14 pm
[RE: 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
ให้คะแนนความตั้งใจ
0
0

VICTORIA CONCORDIA CRESCIT.
เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 16076
ที่อยู่: On The Top Of The World
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 1:19 pm
[RE: 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
Limp_Bizkit พิมพ์ว่า:
Lanoxin พิมพ์ว่า:
3G Warning ด้วยท่าน  


ผมพิมจั่วหัวไว้แล้วนะท่าน หรือว่าในบอร์ดมีวิธีเตือนโดยเฉพาะ กดยังไงสอนผมหน่อย
 


แก้หัวกระทู้ ใส่คำว่า 3G warning นำหน้าเลยครับ

ปล.ภาพความสำเร็จที่ผ่านมา มีความตื่นเต้น

สนุกสนาน ดราม่า เศร้าสลด แต่ก็มันก็งดงามอยู่เสมอนะ
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 297
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 1:27 pm
[RE: 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
ให้คะแนนความตั้งใจดีครับ แต่มีผิดพลาดบ้าง

เช่น แมตซ์ ที่เทอร์รี่มาเป็นโกล ไม่ใช่ฮิลาริโอ้นะครับ เป็นคูดิชินี่ ที่เจ็บไป จากจังหวะชนกันกลางอากาศ ทำให้หมดสติครับ
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 4212
ที่อยู่: Football CASES เคสลายทีมฟุตบอลที่คุณชอบ.
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 1:47 pm
[RE: 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
บางภาพข้อมูลผิดนะครับ


อย่างภาพนี้ ดูจากชุดแล้ว ไม่ใช่ปี 2006 แน่นอน ซึ่งน่าจะเป็นปี 2005


อันนี้ก็เหมือนกัน นัดนี้แข่งเมื่อตอนปี 2005

0
0
Football CASES เคสลายทีมฟุตบอลที่คุณชอบ: https://www.facebook.com/footballcases






เข้าร่วม: 22 Nov 2009
ตอบ: 1490
ที่อยู่: OPZ .. FM-Thai
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 1:57 pm
[RE: 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
เดล ออร์โน โดนแดง ต้นปี 2006 หรือป่าว รอบน๊อคเอ๊าแล้ว ไม่ใช่แบ่งกลุ่ม
0
0
เข้าร่วม: 07 Mar 2010
ตอบ: 945
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 2:18 pm
[RE: 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]

พฤษภาคม 2012
11 ผู้เล่นตัวจริงของเชลซี ในแมตซ์ชิงชนะเลิศ ณ สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ในการดวลกับเจ้าถิ่นอย่างบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ของประวัติศาสตร์สโมสร และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปี

ยัง งง จนวันนี้ไม่หายว่าชุดนี้มันชนะบาเยินร์ได้ไงวะ คิดดูปีกเรามีมหาเทพกาลู

เบอทราน แต่อีกฝั่งมีปีกโคตรเทพตอนนั้นอย่าง ริเบรี่ ร้อบเบ้น ไหนจะมีแบ็ดขวาอย่าง

โบซิงวาและสุดยอดมหาเทพของมหาเทพอย่างมิกเกล แต่อีกฝั่งมี ชไวนี่ โทนี่โครส

มูลเล่อ ลาห์ม คือตอนนั้นเห็นรายชื่อรอบชิงแล้วแบบ เออแพ้ก็ไม่เสียใจนักเตะแมร่งสู้

เขาไม่ได้เลย แล้วยิ่งก่อนนัดนั้นตอนเจอบาซ่า ใครจะคิดว่านักเตะอย่าง

เมซซี่ที่ตอนนั้นฟอร์มดีมากจะยิ่งจุดโทษไม่เข้า แต่เพราะแบบนี้แหละทำให้

ผมชอบเชลซีมากๆ เป็นสโมสรที่ใช้หลักเกณฑ์อะไรมาวัดไม่ได้เลยจริงๆบทจะชนะ

แมร่งก็ชนะแบบไม่น่าจะชนะ บทจะแพ้แมร่งก็แพ้แบบง่อยๆ
เข้าร่วม: 05 Jun 2008
ตอบ: 139
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 2:27 pm
[RE: [3G Warning !!]100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
ขอบคุณคำคอมเม้น การสังเกตเห็นข้อผิดพลาดจากกระทู้ ของทุกท่านเลยนะครับ คำแนะนำและติชมของทุกท่านจะเป็นสิ่งที่ตัวผมนำไปพัฒนาต่อในอนาคต ตอนนี้ผมได้แก้ไข ปรับเปลี่ยนบางรูปไปแล้วครับ ขออภัยด้วยจริง ๆ บางภาพเก่ามาก บางทีผมหลง ๆ ลืม ๆ

0
0
เข้าร่วม: 05 Jun 2008
ตอบ: 139
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 2:31 pm
[RE: [3G Warning !!]100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
BonnyJung พิมพ์ว่า:
บางภาพข้อมูลผิดนะครับ


อย่างภาพนี้ ดูจากชุดแล้ว ไม่ใช่ปี 2006 แน่นอน ซึ่งน่าจะเป็นปี 2005


อันนี้ก็เหมือนกัน นัดนี้แข่งเมื่อตอนปี 2005

 


แก้ไขเรียบร้อยครับ

ภาพแรก ยอมรับเลยผิดเต็ม ๆ รู้สึกเขิลเลย ทั้ง ๆ ที่สปอนเซอร์คาดหน้าอกก็ชัดเจนซะขนาดนั้น

ส่วนภาพสอง เช็คแล้วเรียบร้อยครับ เป็นปี 2005-06 แน่นอน ไม่มีทางเป็น 2004-05 ด้วยเหตุผลสองประการชัด ๆ คือ
1. สังเกตจากชุดว่าบริเวณไหล่มีเลื่อมทอง ซึ่งเป็นชุดแข่งในปี 2005-06
2. ปี 2004-05 เชลซียังไม่ได้เซ็นสัญญาเดล ฮอร์โน่ครับ

ปล. ภาพนี้ค่อนข้างเป็นประเด็น มีคนทักผมหลายคนอยู่ แม้แต่ตัวผมเองพอมาเช็คอีกทีก็ไม่มั่นใจขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ก็ไม่น่าแปลกครับ เพราะเท่าที่เช็คดูแล้ว เชลซีเจอบาร์เซโลน่าบ่อยมาก ๆ




0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 4212
ที่อยู่: Football CASES เคสลายทีมฟุตบอลที่คุณชอบ.
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 2:50 pm
[RE: [3G Warning !!]100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
Limp_Bizkit พิมพ์ว่า:
BonnyJung พิมพ์ว่า:
บางภาพข้อมูลผิดนะครับ


อย่างภาพนี้ ดูจากชุดแล้ว ไม่ใช่ปี 2006 แน่นอน ซึ่งน่าจะเป็นปี 2005


อันนี้ก็เหมือนกัน นัดนี้แข่งเมื่อตอนปี 2005

 


แก้ไขเรียบร้อยครับ

ภาพแรก ยอมรับเลยผิดเต็ม ๆ รู้สึกเขิลเลย ทั้ง ๆ ที่สปอนเซอร์คาดหน้าอกก็ชัดเจนซะขนาดนั้น

ส่วนภาพสอง เช็คแล้วเรียบร้อยครับ เป็นปี 2005-06 แน่นอน ไม่มีทางเป็น 2004-05 ด้วยเหตุผลสองประการชัด ๆ คือ
1. สังเกตจากชุดว่าบริเวณไหล่มีเลื่อมทอง ซึ่งเป็นชุดแข่งในปี 2005-06
2. ปี 2004-05 เชลซียังไม่ได้เซ็นสัญญาเดล ฮอร์โน่ครับ

ปล. ภาพนี้ค่อนข้างเป็นประเด็น มีคนทักผมหลายคนอยู่ แม้แต่ตัวผมเองพอมาเช็คอีกทีก็ไม่มั่นใจขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ก็ไม่น่าแปลกครับ เพราะเท่าที่เช็คดูแล้ว เชลซีเจอบาร์เซโลน่าบ่อยมาก ๆ




 


ภาพ 2 มันช่วงปี 2005 น่ะแหละครับ แต่จะเป็นช่วงปี 2005/06 ครับผม

0
0
Football CASES เคสลายทีมฟุตบอลที่คุณชอบ: https://www.facebook.com/footballcases






เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 4212
ที่อยู่: Football CASES เคสลายทีมฟุตบอลที่คุณชอบ.
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 2:51 pm
[RE: [3G Warning !!]100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
BonnyJung พิมพ์ว่า:
Limp_Bizkit พิมพ์ว่า:
BonnyJung พิมพ์ว่า:
บางภาพข้อมูลผิดนะครับ


อย่างภาพนี้ ดูจากชุดแล้ว ไม่ใช่ปี 2006 แน่นอน ซึ่งน่าจะเป็นปี 2005


อันนี้ก็เหมือนกัน นัดนี้แข่งเมื่อตอนปี 2005

 


แก้ไขเรียบร้อยครับ

ภาพแรก ยอมรับเลยผิดเต็ม ๆ รู้สึกเขิลเลย ทั้ง ๆ ที่สปอนเซอร์คาดหน้าอกก็ชัดเจนซะขนาดนั้น

ส่วนภาพสอง เช็คแล้วเรียบร้อยครับ เป็นปี 2005-06 แน่นอน ไม่มีทางเป็น 2004-05 ด้วยเหตุผลสองประการชัด ๆ คือ
1. สังเกตจากชุดว่าบริเวณไหล่มีเลื่อมทอง ซึ่งเป็นชุดแข่งในปี 2005-06
2. ปี 2004-05 เชลซียังไม่ได้เซ็นสัญญาเดล ฮอร์โน่ครับ

ปล. ภาพนี้ค่อนข้างเป็นประเด็น มีคนทักผมหลายคนอยู่ แม้แต่ตัวผมเองพอมาเช็คอีกทีก็ไม่มั่นใจขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ก็ไม่น่าแปลกครับ เพราะเท่าที่เช็คดูแล้ว เชลซีเจอบาร์เซโลน่าบ่อยมาก ๆ




 


ภาพ 2 มันช่วงปี 2005 น่ะแหละครับ แต่จะเป็นช่วงปี 2005/06 ครับผม
ถ้าเป็นช่วงเดือนตุลาคม ปี 2006 เชลซี เปลี่ยนเสื้อมาเป็น Adidas แล้วครับ

 
0
0
Football CASES เคสลายทีมฟุตบอลที่คุณชอบ: https://www.facebook.com/footballcases






เข้าร่วม: 15 Sep 2006
ตอบ: 937
ที่อยู่: Nottingham UK
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 4:19 pm
C[RE: [3G Warning !!]100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
Chelski
0
0
Manchester United
EPL 20 Times, UCL 3 Times, FA Cup 12 Times

เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 3238
ที่อยู่: ●Ξ̲̲̲̅̅̅̅CΞ̲̲̲̅̅̅̅HΞ̲̲̲̅̅̅̅EΞ̲̲̲̅̅̅̅LΞ̲̲̲̅̅̅̅SΞ̲̲̲̅̅̅̅EΞ̲̲̲̅̅̅̅AΞ●
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 5:34 pm
[RE: [3G Warning !!]100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
EnJoYzA พิมพ์ว่า:

พฤษภาคม 2012
11 ผู้เล่นตัวจริงของเชลซี ในแมตซ์ชิงชนะเลิศ ณ สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ในการดวลกับเจ้าถิ่นอย่างบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ของประวัติศาสตร์สโมสร และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปี

ยัง งง จนวันนี้ไม่หายว่าชุดนี้มันชนะบาเยินร์ได้ไงวะ คิดดูปีกเรามีมหาเทพกาลู

เบอทราน แต่อีกฝั่งมีปีกโคตรเทพตอนนั้นอย่าง ริเบรี่ ร้อบเบ้น ไหนจะมีแบ็ดขวาอย่าง

โบซิงวาและสุดยอดมหาเทพของมหาเทพอย่างมิกเกล แต่อีกฝั่งมี ชไวนี่ โทนี่โครส

มูลเล่อ ลาห์ม คือตอนนั้นเห็นรายชื่อรอบชิงแล้วแบบ เออแพ้ก็ไม่เสียใจนักเตะแมร่งสู้

เขาไม่ได้เลย แล้วยิ่งก่อนนัดนั้นตอนเจอบาซ่า ใครจะคิดว่านักเตะอย่าง

เมซซี่ที่ตอนนั้นฟอร์มดีมากจะยิ่งจุดโทษไม่เข้า แต่เพราะแบบนี้แหละทำให้

ผมชอบเชลซีมากๆ เป็นสโมสรที่ใช้หลักเกณฑ์อะไรมาวัดไม่ได้เลยจริงๆบทจะชนะ

แมร่งก็ชนะแบบไม่น่าจะชนะ บทจะแพ้แมร่งก็แพ้แบบง่อยๆ
 



ฟุตบอลมีแค่ฝีเท้าไม่พอ ต้องมีดวงด้วย 555 อันนี้พิสูจกันมาเยอะแล้ว

เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 555
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 01, 2015 5:00 am
[RE: [3G Warning !!] 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
ทำได้ดีมากครับ ชื่นชม
0
0
Moscow 2008's memories


เข้าร่วม: 20 Feb 2007
ตอบ: 41
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 01, 2015 4:58 pm
[RE: [3G Warning !!] 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
จำได้ทุกช๊อตเลย
0
0
เข้าร่วม: 03 Oct 2013
ตอบ: 9157
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 01, 2015 5:59 pm
[RE: [3G Warning !!] 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
0
0

เข้าร่วม: 23 Dec 2009
ตอบ: 2743
ที่อยู่: Florence, Italy
โพสเมื่อ: Sun Sep 06, 2015 2:25 am
[RE: [3G Warning !!] 100 ภาพ...ย้อนรอยความทรงจำ 10 ปีผ่านไปของสโมสรเชลซี]
จำได้หมดเลย ทุกตอน ยิ่งตอนเทอรี่ลื่นนะ ไม่ไปเรียนเลย
0
0