แท็คติกเดิมๆของ ฟาน กาล และความไร้ซึ่งจินตนาการในเกมรุก (หลังเกม สวอนซี 2 -1 แมนฯยูไนเต็ด)
ก่อนเกมเริ่มวันนี้ยูไนเต็ดมาด้วยตัวผู้เล่นที่ดูมีความหวังและเป็นที่พอใจให้แฟนๆปีศาจแดงพอสมควร เพราะการใส่ชื่อชไวนี่และเอร์เรร่าลงตัวจริงเป็นสิ่งที่หลายๆคนอยากจะเห็นในตำแหน่งตัวคุมจังหวะและตัวทำเกมรุก พร้อมกับผู้เล่นชุดเดิมในจำแหน่งอื่นๆที่น่าจะลงตัวแล้ว
.
เกมเริ่มมาวันนี้ยูไนเต็ดดูเหมือนจะมาดี โหมกระหน่ำบุกใส่สวอนซีตั้งแต่นาทีแรก แต่สักพักหนึ่ง เมื่อไม่ได้ประตู เมื่อสวอนซีเริ่มตั้งเกมได้ รูปเกมก็เปลี่ยนไป
.
เกมช่วงชิงจังหวะและต่อสู้กันในแดนกลาง ทั้ง 2 ทีมพยายามจะครองบอลให้ได้มากกว่าและตั้งเกมของตัวเองให้ได้
.
เมื่อรูปเกมเป็นแบบนี้ สวอนซีเริ่มนิ่งขึ้น เริ่มตั้งเกมได้ ยูไนเต็ดก็กลับมาใช้แท็คติกเดิมเหมือนที่เคยผ่านมาทุกนัด นั่นก็คือการพยายามครองบอลให้ได้มากที่สุด ตั้งเกมอย่างช้าๆ ไปไม่ได้คืนหลัง เน้นความชัวร์ เน้นความปลอดภัยไว้ก่อน
.
นั่นจึงทำให้โอกาสในการจบสกอร์มีน้อยมาก แต่ก็ยังพอมีจากลูกหลุดกับดักล้ำหน้าของรูนี่ย์ แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีพอ
.
ครึ่งแรกจึงจบด้วยการเสมอไป
.
ครึ่งหลังยูไนเต็ดมาได้ประตูเร็วจากจังหวะปั๊มบอลได้ของชอว์ และหลุดเข้ามาเปิดผ่านรูนี่ย์ ทะลุไปถึงมาต้าชาร์จจ่อๆเข้าไป ให้ยูไนเต็ดขึ้นนำ 1-0
.
หลังจากนั้นสวอนซีก็แก้เกมเร็วมากๆ แก้เกมทันที ซึ่งมันได้ผล อาจจะไม่ใช่ผลโดยตรง แต่ก็ทำให้สวอนซีตีเสมอได้อย่างรวดเร็วจากจังหวะตัดบอลได้และโต้กลับเร็ว และแซงขึ้นนำได้สำเร็จในเวลาห่างกันไม่นาน
.
ซึ่งหลังจากที่โดนตีเสมอก็ไม่มีการแก้เกม การเปลี่ยนตัวผู้เล่นจากฟาน กาล และมาเริ่มขยับจริงๆหลังจากโดนนำไปแล้ว
.
ตรงจุดนี้เองที่แสดงให้เห็นว่าฟาน กาลมีการแก้เกมที่ช้ามากๆ อาจด้วยความเพราะว่า เขาอาจจะเชื่อมั่นหรือมั่นใจในผู้เล่นชุดนี้และแท็คติกของตัวเองมากๆ (ซึ่งมันมากเกินไป)
.
เมื่อมาเริ่มขยับมันก็เหมือนกับว่ามันสายไปแล้ว เพราะทางสวอนซีเองก็ไม่ได้อยู่นิ่ง มีการแก้เกมอยู่ตลอดและอ่านออกว่ายูไนเต็ดจะมาไม้ไหน
.
ฟาน กาล ตัดสินใจเก็บรูนี่ย์และเดปาย ที่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในเกมลีกตั้งแต่เกมแรกไว้
.
เปลี่ยน 1 คนยิงประตูออก เปลี่ยนตัวคุมเกมตำแหน่งตามตำแหน่ง และคนสุดท้ายเปลี่ยน 1 คนที่พยายามทำเกมบุกและจ่ายบอลสวยๆออกไป
.
การลงมาของ อ.ยัง แสดงให้เห็นเลยว่าวันนี้เขามีประโยชน์กว่าเมมฟิสขนาดไหน ยัง ลงมาแล้วพยายามจะสร้างโอกาสให้ทีม ทำพยายามทำเก็บ เปิดบอล ส่วนเมมฟิส ตั้งแต่ต้นเกมก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวใดๆเลย ทั้งจังหวะเลี้ยงบอล เปิดบอล หรือการยิงประตู หรือแม้แต่การประสานงานกับชอว์ที่ยังดูไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่
.
ต้องบอกว่า เกมลีกยังเป็นอะไรที่เขาต้องปรับตัวอีกเยอะ ไม่ได้มีพื้นที่ให้เขาเล่นง่ายๆเหมือนเกมยุโรป 2 เกมที่ผ่านมา
.
ส่วนการเปลี่ยนคาร์ริคลงมาแทนชไวนี่นั้นบอกเลยว่าแทบไม่ส่งผลอะไร อาจจะได้เรื่องความสด หรือมิติการจ่ายบอลอีกแบบหนึ่ง แต่นั่นใช่สิ่งที่จำเป็นที่สุดในเวลานั้นมั้ย ใช่สิ่งที่จะเปลี่ยนเกมได้จริงๆรึเปล่า
.
และสำรองคนสุดท้ายอย่างเฟลไลนี่ เป็นคนที่แทบจะเดาได้เลยว่าลงมาแล้วยูไนเต็ดจะเล่นแบบไหน จะต้องกระหน่ำโยนแน่ๆ แล้วคือทุกคนก็รู้ไง สวอนซีก็รู้ไง จึงมีการเตรียมตัวรับมือมาอย่างดีและซ้ำร้ายที่ยูไนเต็ดไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสดีเข้าไปได้มากนัก
.
และสุดท้ายยูไนเต็ดก็ไม่สามารถเจาะเข้าไปได้ ทำให้แพ้ไปเป็นเกมแรกในลีกในปีนี้
.
วันนี้แนวรับของยูไนเต็ดเริ่มแสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดบ้างแล้ว การลงมาตั้งเกมรับไม่ทันในจังหวะโดนสวนกลับ การทดแทนตำแหน่งในเกมรับ ทำให้ทีมต้องเสียประตูเป็นครั้งแรกในเกมลีกและพบกับความพ่ายแพ้ไป
.
ผู้รักษาประตูอย่างโรเมโร่ที่ผมไม่เคยไว้ใจ ก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆบ้างแล้ว จากลูกที่เสียประตูทั้ง 2 ลูก ทั้งในเรื่องการยืนตำแหน่ง การสั่งกองหลัง และอาจรวมถึงเซ็นส์ในการเซฟประตูที่เห็นได้ในลูกที่สอง ที่ถ้าเป็นผ็รักษาประตูคนก่อนคงตัดสินใจได้ไวพอว่าจะใช้ส่วนไหนในการเซฟลูกยิง
.
จริงๆจะโทษเขาคนเดียวก็ไม่ได้และไม่ได้ตั้งใจจะโทษเขาคนเดียวด้วย แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่า ผู้รักษาประตูที่ดูสมาธิไม่ค่อยดีคนนี้เริ่มแสดงความผิดพลาดออกมาบ้างแล้วนะ ซึ่งถ้าโรเมโร่วสามารถปรับตัวปละพัฒนาได้มันก็ได้ แต่ถ้าไม่ดีไปกว่านี้เอาบิคตอร์ บัลเดซมายังน่าจะดีกว่าเลย
.
เมมฟิส เดปาย วันนี้ทำเสียบอลและทำเสียจังหวะบ่อยมาก ดูเหมือนว่าตอนนี้เขายังไม่ใช่ตัวทำเกมที่ดี ที่พอฝากความหวังได้ความสามารถชนิดเดียวที่พอพึ่งพาได้ของเขาคงจะเป็นเรื่องการยิงประตู ซึ่งเขายังไม่สามารถทำได้เลยในเกมลีก ต้องดูกันว่าสไตล์เล่นแบบฝืนจังหวะ เก็บบอลกับตัวไว้นานแบบนี้จะไปรอดรึเปล่า หรือว่าจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมั้ย ก็ต้องรอดูต่อไป
.
ส่วนกัปตันหมูที่วันนี้พอมีโอกาสบ้าง แต่ก็ไม่สามารถจบได้เลย ซึ่งในฐานะกองหน้าตัวความหวังควรจะทำได้ดีกว่านี้ เพราะโอกาสก็ไม่ได้มาบ่อยๆอยู่แล้ว
.
สิ่งที่เห็นได้ชัดอีกอย่างหนึ่งคือ ฟาน กาล ดูเหมือนจะมีความมั่นใจมากๆ หลังจากผลงานยิงไป 4 ประตู ในเกมยุโรปนัดล่าสุด มั่นใจในแท็คติกของตัวเอง จนเหมือนไม่มีแผนสำรองที่ดีกว่าการส่งเจ้าฟูลงไปและบอมบ์ใส่คู่แข่ง
เรียกได้ว่าเล่นบอลรูปแบบเดียวทั้งเกม ยกเว้นหลังจากที่ส่งเฟลไลนี่ลงมานะ
.
คือเสมออยู่ก็ต่อบอล ยิงนำก็ต่อบอล โดนนำก็ต่อบอล และจังหวะในการเข้าทำก็เป็นไปอย่างช้าๆ เนิบๆ แนวรุก 4 คนก็พึ่งพาได้แค่บางคนเท่านั้น
.
ไม่รู้ว่าเกมต่อไปจะมีการปรับเปลี่ยนรึเปล่านะ ในเรื่องของแท็คติก รูปแบบการขึ้นเกม จังหวะการเล่นที่เริ่มโดนจับทางได้แล้ว ในเรื่องการเข้าทำที่ยังเป็นปัญหามากๆของฤดูกาลนี้ ไหนจะปัญหาเกมรับที่เริ่มมีให้เห็นแล้ว ไหนจะเรื่องการแก้เกมที่ยังไม่ได้แสดงออกถึงการมีกึ๋นของฟาน กาล ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว
.
เวลาในตลาดนักเตะยังพอมีอยู่เล็กน้อย ต้องรอดูว่าจะมีการขยับอะไรบ้างรึเปล่า หรือบอสจะมั่นใจในผู้เล่นชุดนี้แล้ว
.
และปีนี้คงจะเป็นปีที่จะพิสูจน์ตัวฟาน กาล อย่างจริงจัง เพราะนี่ไม่ใช่เวลาจะมาลองผิด ลองถูกแล้ว บอสใช้เวลา 1 ปีเต็มๆผ่านไปแล้ว และถ้าจบฤดูกาลไม่มีอะไรดีขึ้น อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้างแล้วล่ะ .
Credit ภาพจาก : Manchester United
ปล.ใครมีไรเสริม ใส่มาได้เลยนะฮะ
ปล.2 ฝากเพจด้วยงับ
https://www.facebook.com/MeMyWord เข้ามาพูดคุยในนี้ก็ได้นะ