เจอร์เก้น คล็อปป์ ออกไปเสือเหลืองกลับมาเป็นเสือสักที

ปีที่แล้วเล่นเกือบตกชั้น

เสียดายสโมสรไม่กล้าไล่เร็วกว่านี้ไม่งั้นอาจได้ไป UCL แล้ว

แต่ก็คงเกรงใจผลงานเก่า ลุ้นแชมป์มันแน่ปีนี้เยอรมัน เสือใต้จะได้ไม่ม้วนเดียวจบ

คล็อปป์ประกาศลาเองหนิครับ สโมสรไม่ได้ไล่

ถ้ากลับมานัดกันเจ็บ ทูเคิ้ลก็ไม่ต่างจากคล็อปหนะผมว่า

ท้ายฤดูตัวหลักกลับมากันครบ ผลงานก็ดีเหมือนเดิมนะครับ ไต่อันดับกระจายเลย

แต่จังหวะเข้าทำยุคทูเคิ่ลดูไวกว่าคล็อปเยอะนะครับ

ถ้าเกิดแผ่วลงเรื่อยๆจะมีคนคิดถึงคลอปมั้ย

โค้ชตอนนี้เค้าขมแล้วชมอีก ที่ทำทีมดีขนาดนี้ได้เพราะระบบที่คลอปสร้างไว้ทั้งนั้น

ก็จริงของท่านนะ แต่อย่าลืมว่า คล๊อปและทูเคิ่ล เติบโตมาด้วยกัน รู้ไส้รู้พุงกันดี ระบบแทบจะอันเดียวกะไมซ์

ทรงบอลดอร์ทมุนด์ก็กลับมาดูดีตั้งแต่ท้ายฤดูกาลก่อนแล้วนะตัวหลักๆ กลับมาจาดเจ็บ

และก็ถือว่ามาต่อยอดของคล็อปป์ละกัน

ผมว่าถ้าคลอปปได้ทีมคุมแล้วลาออกไปอีก ทูเคิ่ลก็ตามไปคุมอีกอะ

ทำไมไม่นึกถึงตอนแกทำแชมป์บุนเดสให้บ้างหละ........

ถ้าทูเคิ่ลเข้ามาระหว่างฤดูกาลคงไม่โหดขนาดนี้หรอก ตอนนั้นนักเตะเจ็บเยอะกว่าจะปรับแทคติคตามโค้ชใหม่อีก พอมาเริ่มฤดูกาลใหม่ตัวเจ็บก็ทยอยหายได้นักเตะใหม่แถมปีนี้เข้าแคมป์เร็วเพราะต้องเตะยูโรป้ารอบคัดเลือกพอถึงฤดูกาลจริงสภาพนักเตะเลยฟิตเข้าที่ แทคติคก็ลงตัวเลยออกตัวได้ไว

ดอร์ทมุนชัดแชมป์2ปัซ้อนก็เล่นแบบนี้แหละครับ แทบจะชิ่งยันหน้าประตู จะใจกว้างกันไปไหน

ก็เพราะตัวหลักๆหายเจ็บกันมาทั้งนั้นไม่ใช่หรอถึงได้ฟอร์มดี?

เอาข้อมูลแม่นๆก่อน คลอปออกเอง

คลอปออกเอง ไม่ได้โดนสโมสรไล่ออก นะจ้ะ

ชอบดูจังหวะเค้าเตอของดอทนะ น่าลุ้นทุกครั้งเลย

โหดขึ้นจริง เหมือนต่อบอล ทำเกมกันมั่นใจขึ้น อันนี้คงอยู่ที่ตัวนักเตะเอง เพราะอย่าง MK ยุคคล็อปนี้ต่างกันแบบเห็นได้ชัดเลย คากาวะยุคคล็อปก็มีช่วงหลุดๆไปเข้าขั้นฟอร์มกากจนหลุดไปสำรอง แต่มาฤดูกาลนี้โหดทั้งคู่ ดอร์ทมุนก็สบาย

แล้วก็ต้องชมคล็อปเพราะระบบที่ทูเคิ่ลใช้อยู่นี้คือระบบของคล็อปเลย ทูเคิ่ลแกก็ให้เครดิตคล็อปตลอด

ส่วนที่ดูจะเหนือกว่าคล็อปตอนนี้คือทูเคิ่ลแกดูฟอร์มผู้เล่นจริงๆนะ กล้าดร็อป กล้าเปลี่ยน ใครไม่ดีก็เปลี่ยน ใครดีก็ให้เล่น อย่างไวเกิ้ลนี้เชื่อว่าถ้าคล็อปคุมทีม คล็อปไม่ให้ตัวจริงแน่ๆ ยังไงก็ต้องให้เบนเดอร์ตัวจริง แต่นี้ทูเคิ่ลกล้าใช้เด็กอายุ 19 เป็นตัวจริง แล้วก็เล่นดีสุดๆด้วย เป็นตัวสำคัญของดอร์ทมุนยุคนี้เลย นัด 1 นัด 2 วิ่งเยอะสุดในทีมสถิติวิ่งประมาณ 12 กิโลได้ นัด 3 นี้ก็น่าจะวิ่งเยอะสุดในทีมอีกเช่นเคย ตัวนี้ ตัวสำคัญเลย

ผมว่าทูเคิ่ลควรได้เครดิตเหมือนกันนะครับ ก่อนเปิดฤดูกาลเคยเห็นมีบทความเกี่ยวกับความ
แตกต่างระหว่างทูเคิ่ลกับคล็อป เช่นทูเคิ่ลเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดยิ่งกว่าคล็อปในการซ้อม
ตอนซ้อมมีกล้องจับความเคลื่อนไหวรอบด้าน รายละเอียดด้านแท็คติคเรียกว่าระเอียดยิบ
และก็อื่นๆอีก อีกคนที่เครดิตน้อยก็เอนริเก้ต่อจากเป๊ป เป๊ปตอนต่อจากไรจ์การ์ดแรกๆก็ไม่
ค่อยได้เครดิต
ผมว่ารอดูยาวๆค่อยๆว่ากันอีกที ไม่แน่ดอร์ทมุนยุคนี้อาจโหดกว่าสมัยคล็อป
ก็เป็นได้กาลเวลาเป็นตัวพิสูจน์ คล็อปเป็นไอคอนคล้ายๆมูผมเข้าใจ แต่ดอร์ทมุนก็ยังเป็นดอร์ทมุน ต่อให้ไม่มีคล็อป

ใช่เลยครับ

ทูเคิ่ลแกเข้ามาปรับใหม่หมด เรื่องกิน เรื่องฟิตเนส เรื่องซ้อม เห็นว่ายุคคล็อปเล่นสั่งพิซซ่ามากินกันเลย

แล้วชิโร่ที่ย้ายออกไปก็ให้สัมภาษณ์ว่าแปลกใจเหมือนกันที่ยุคคล็อปนี้ซ้อมเบามาก

สัมภาษณ์สำคัญๆตอนเปิดฤดูกาลของทูเคิ่ล

ทูเคิ่ล...ผู้แตกต่าง อีกหนึ่งบทความดีๆ อยากให้อ่านกันเป็นบทความก่อนที่จะเปิดซีซั่น

'ตอนที่คล็อปป์เริ่มงานที่นี่ทุกอย่างต่างออกไป'' แฟนบอลเสือเหลืองแสดงความฉุนเฉียวใส่กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ไม่ปล่อยให้เขาได้เข้าชมการฝึกซ้อมหนแรกกับเทรนเนอร์คนใหม่ โธมัส ทูเคิ่ล ที่สนามซ้อมดอร์ทมุนด์-บรัคเคิ่ล

ขณะที่แฟนบอลถูกปิดกั้นจากทูเคิ่ล อดีตเทรนเนอร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำการฝึกซ้อมหนแรกในปี 2008 โดยโยกไปที่สนามแข่งเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้แฟนบอล 9,000 คนเข้าชมได้
ทูเคิ่ลผ่านพ้นการฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการสัปดาห์แรกและทำการปรับเปลี่ยนทุกอย่างไปเลย คำถามสำคัญคือ เขาทำได้ดีกว่าด้วยหรือเปล่า? ที่ไมนซ์ ทูเคิ่ลเคยรับงานต่อจากคล้อปป์ ที่นั่นเขาทำงานได้ยอดเยี่ยมกว่า โดยช่วง 5 ปีที่ทูเคิ่ลอยู่กับไมนซ์นั้นเขาเก็บแต้มได้เฉลี่ย 47.8แต้มต่อซีซั่นบุนเดสลีกา ก่อนหน้านั้นคล็อปป์อยู่สามปีทำได้ 38.3 แต้ม เพียงแต่ว่าที่ดอร์ทมุนด์นั้นคล็อปป์ตั้งมาตรวัดเอาไว้สูงด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสองครั้ง, เดเฟเบ โพคาล หนึ่งครั้ง และเข้าชิงชนะเลิศ ชปล. จากเจ็ดปีที่อยู่ที่นั่น มีเพียงซีซั่นก่อนเท่านั้นที่เป็นปีแห่งความย่ำแย่ อันดับ 7 จบซีซั่นคล็อปป์ขอลาออกจากตำแหน่ง ทูเคิ่ลเข้ามาทำหน้าที่แทน
มาลองดูกันว่าในช่วงสัปดาห์แรกของทูเคิ่ลนั้นเขาเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เพื่อที่ดอร์ทมุนด์จะได้กลับมาอยู่ที่หัวแถวอีกครั้ง

การพูดจา
หลังการทดสอบฝีเท้าเมื่อวันจันทร์สัปดาห์ก่อน ในวันอังคารผู้บริหาร ฮันส์-โยอัคคิม วัทซ์เค่ และ มิชาเอล ซอร์ค แนะนำเทรนเนอร์คนใหม่ในห้องแต่งตัวอย่างเป็นทางการ ทูเคิ่ลกล่าวว่า ทีมต้องเรียกความสนุกสนานกลับมาอีกครั้ง กลับมาหาความแกร่งให้ได้เหมือนเดิม แต่ละคนรู้ว่านี่คือทีมที่ยอดเยี่ยม นักเตะพูดคุยเรียกเขาว่า ''เทรนเนอร์'' หรือเรียกกันอย่างสนิทสนม ''แก'' เหมือนที่นักเตะส่วนใหญ่ทำในช่วงท้ายของคล็อปป์

ในการเปิดซีซั่นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทูเคิ่ลประกาศว่า ''เจาจะขอยืนหยัดในการเล่นฟุตบอลเกมรุกและทำให้สนามเป็นป้อมปราการ'' คล็อปป์ได้กล่าวไว้ตอนที่เขาเปิดตัวในปี 2008 ว่า ''เราอยากกลับมาเล่นฟุตบอลที่แฟนๆ อยากเห็นอีกครั้ง''

การฝึกซ้อม
ผู้จัดการทั่วไปดอร์ทมุนด์ ซอร์คพูดถึงทูเคิ่ลว่า ''เขาเตรียมการฝึกซ้อมแต่ละครั้งด้วยตนเอง ทำทุกอย่างด้วยความละเอียด'' จริงทีเดียวที่ทูเคิ่ลลงมือช่วยในการตั้งอุปกรณ์ในการฝึกด้วย วัดระยะห่างระหว่างเสาที่ใช้ปักและขยับออกจากกันอีก 3 ซม. มีนักวิเคราะห์วิดีโอ เบนจามิน เวเบอร์ บันทึกภาพการฝึกซ้อมทุกครั้ง มีการติดตั้งเทเลสโคปที่เสากลางสนาม ขณะที่คล็อปป์แทบไม่เคยให้บันทึกภาพนักเตะในระหว่างการซ้อมเลย กับทูเคิ่ลนักเตะสวมเสื้อกั๊กติดจีพีเอส ที่วัดและบันทึกการเต้นของหัวใจ ไปจนถึงการเคลื่อนที่เอาไว้ทั้งหมด

ไม่มีการฝึกซ้อมพีเรียดใดของทูเคิ่ลที่เหมือนกับที่ผ่านมาเลย เขาปรับเปลี่ยนขนาดของสนามสำหรับการฝึกผ่านบอลอยู่เรื่อย แก้ไขและคอมเมนต์แทบทุกแอ็กชั่น ''เยี่ยมมาก'' หรือ ''การผ่านแต่ละครั้งต้องเข้าเป้า'' ขนาดที่ช่วงพักดื่มน้ำ เขาก็ยังพร่ำสอนลูกทีม จับที่ไหล่ หรือเข้ามากระแซะ เพื่อจำลองการเป็นคู่แข่ง ในสนามทูเคิ่ลดูหมกมุ่นอย่างมาก แม้ซอร์คจะบอกว่า ''เขาไม่ได้หมกมุ่นหรอกนะ แต่ในสายตาผมคือการมีสมาธิอย่างเต็มที่และเปี่ยมด้วยแพสชั่นอย่างเต็มที่''

เนเว่น ซูโบติช กองหลังของดอร์ทมุนด์บอกว่า ''ในยุคของคล็อปป์ส่วนใหญ่เราดูแลเกมรับ กับทูเคิ่ลต้องทำในเรื่อง เส้นทางการผ่านบอล, รูปแบบการผ่านบอล จะเล่นบอลไปที่ไหน และใช้เท้าไหน ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นอย่างแม่นยำ ในการฝึกซ้อมนั้นเน้นที่หัวคิดและสมาธิอย่างมาก'' ที่สักวันจะทำให้นักเตะบางคนสติแตกไปได้ไหม?

คล็อปป์ให้ผู้ช่วยของเขาจัดวางอุปกรณ์ในการฝึกซ้อมและทำการฝึกซ้อม เฝ้าสังเกตเยอะ ในช่วงท้ายสามารถคาดเอาความหลากหลายของการฝึกซ้อมได้

ความแตกต่างอีกประการคือ ทูเคิ่ลออกสตาร์ตการฝึกซ้อมเมื่อวันจันทร์สัปดาห์ก่อนตั้งแต่ 08.30 น. ส่งนักเตะไปตรวจร่างกายด้วยอุปกรณ์พิเศษที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโบคุ่ม โดยมีการวัดการรับภาระของร่างกายด้วยการวัดลมหายใจ, ปฏิกิริยาของหัวใจ, การไหลเวียนโลหิต, การหายใจ และการเผาผลาญอาหาร ขณะที่คล็อปป์ให้นักเตะผ่อนคลายก่อนทดสอบลัคทาต (Laktat Test) ในตอนบ่าย

ทูเคิ่ลเอางานกลับไปทำที่บ้านด้วย เมื่อวันพุธสัปดาห์ก่อนหลังฝึกซ้อมช่วงเช้าเขาขับรถกับผู้ช่วยไปที่บ้านทำงานต่อจนถึงค่ำด้วยการวิเคราะห์วิดีโอ

กติกา
ทูเคิ่ลกำหนดมุมมองและกติกาเอาไว้อย่างชัดเจน เขาให้นักเตะทานอาหารเย็นร่วมกันตอน 19.30 น. ถ้าทีมมีการฝึกซ้อมหนเดียวในช่วงบ่าย การฝึกซ้อมสองช่วงมีการทานอาหารกลางวันร่วมกันต่อไป อย่างน้อยหนึ่งมื้อที่ทานอาหารร่วมกัน ที่พ่อครัวจากศูนย์ฝึกเยาวชนมาปรุงอาหารให้ตามข้อกำหนดของทูเคิ่ลและฟิตเนสเทรนเนอร์ ไรเนอร์ ชไรย์ ในยุคคล็อปป์มีร้านอาหารอิตาเลียนนำพาสต้ามาส่งให้พร้อมซอสหลากรส แต่ไม่ใช่ว่าทานอาหารด้วยกันทุกวัน นอกจากนั้นทูเคิ่ลเรียกร้องให้นักเตะเข้ามาทักทายด้วยการจับมือกัน แล้วสบตาเขา

การใกล้ชิดกับแฟน
ขณะที่คล็อปป์พำนักที่แฮร์เด็คเกอร์ 20 กม. ทางใต้ของดอร์ทมุนด์นั้น เมื่อสี่สัปดาห์ก่อน ทูเคิ่ลได้เข้าบ้านพักในเมืองดอร์ทมุนด์ตอนใต้ ที่ห่างจากสนามแข่งและสนามซ้อมเพียง 4 กม. เท่านั้น ขับรถแค่ 10 นาที ก็ถึงแล้ว ทูเคิ่ลสลับสับเปลี่ยนให้ผู้ช่วยเทรนเนอร์ของเขาแวะมารับและส่งกลับบ้านด้วย

เมื่อคล็อปป์ออกจากสนามฝึกซ้อมนั้นเขาหยุดรถเพื่อถ่ายรูปและแจกลายเซ็นให้แฟนบอล เมื่อสัปดาห์ก่อนนั้นผู้ช่วยเทรนเนอร์ที่เป็นคนขับและทูเคิ่ลที่นั่งข้างๆ ไม่หยุดรถ แต่ในเกมอุ่นแข้งที่เรห์เด้ (ชนะ 5-0) นั้น ทูเคิ่ลแจกลายเซ็นจนพลาดการที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มเกม

ความสัมพันธ์ภายใน
สามเกลอ คล็อปป์, วัทซ์เค่ และซอร์ค ความถี่ตรงกันอย่างสิ้นเชิง ตัดสินใจด้วยกันเท่านั้นและทานอาหารไปด้วยปรึกษาหารือกันไปด้วยที่ภัตตาคารอิตาเลียน เปียซซ่า โนวาโน ที่ดอร์ทมุนด์ อยู่บ่อยๆ กรณีของทูเคิ่ลพบว่าความสัมพันธ์ภายในถูกเลื่อนออกไปก่อน ในการเจรจาสัญญามีซอร์คเป็นหัวหอกที่สำคัญ นับแต่นั้นมาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ต่อกันที่ใกล้ชิด ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของทูเคิ่ลกับซอร์คแนบแน่นกว่ากับวัทซ์เค่อย่างชัดเจน ภาพที่ปรากฏคือ ในการฝึกซ้อมหนแรก วัทซ์เค่มาดูราว ชม. เดียว ขณะที่ซอร์คอยู่ที่สนามตลอดเวลา

บุคลากร
การซื้อตัวนักเตะรายแรกในยุคของคล็อปป์คือ เนเว่น ซูโบติช ที่เขาเคยทำงานร่วมกันมาแล้วตั้งแต่สมัยอยู่กับไมนซ์ ทูเคิ่ลก็ครุ่นคิดทำนองนี้ ด้วยการดึงตัว โยฮันเนส ไกส์ ที่เคยทำงานร่วมกับเขาที่ไมนซ์ ทูเคิ่ลได้กล่อมให้ผู้เล่นตัวหลักอย่าง มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ หรือ อิลคาย กุนโดกัน อยู่กับทีมต่อไป ก่อนเข้ามารับหน้าที่เขาได้พูดคุยกับผู้เล่นดอร์ทมุนด์หลายคน แม้แต่นักเตะที่บาดเจ็บอย่าง เควิน โกรสส์ครอยท์ซ ด้วย

นายทวาร โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ จะอยู่ต่อไปไหม แม้ว่าเขามีโอกาสอย่างสูงที่ โรมัน เบือร์กี้ จะเบียดเขาไปเป็นตัวสำรอง ซอร์คบอกว่า ''โรมันอยู่กับเรามา 13 ปี และเป็นนักเตะที่มีการยอมรับสูงมาก เขารับมือกับการแข่งขันได้ดี เราสุขใจดีมากในการทำงานรูปแบบนี้''

ในความเป็นจริงนั้น ตอนนี้ทูเคิ่ลเข้ามารับหน้าที่คุมทีมที่มีมูลค่ารวม 336 ล้านยูโร ตอนที่คล็อปป์เข้ามามูลค่าขนาดทีมอยู่ที่ 100 ล้านยูโร ข้อแตกต่างอีกประการคือส่วนใหญ่คล็อปป์ให้เล่นในระบบ 4-2-3-1 ทูเคิ่ลสลับสับเปลี่ยนระหว่าง 4-3-3, 3-5-2 และ 4-2-3-1

แรงจูงใจ

แค่ในซีซั่นที่ผ่านมาคล็อปป์พยายามนำลูกเล่นทางจิตวิทยาสารพัดอย่างมาใช้ อย่างเช่นการนำนาฬิกาปลุกยี่ห้อเพอห์เลอร์-กล็อคเค่ ไปยังห้องแต่งตัวด้วย อีกตัวอย่างหนึ่งคือเขาทำข้อตกลงกับทีมว่า ถ้านักเตะวิ่งมากว่า 118 กม. ต่อนัดใน 10 จาก 12 นัด จะได้รางวัลเป็นการให้พักการฝึกซ้อมสามวัน พวกเขาเกือบทำได้ แต่ก็ช่วยให้ทีมฝ่าวิกฤตที่เกิดขึ้นมาได้

ทูเคิ่ลเองก็มีทีเด็ดตรงนี้อยู่เรื่อยเหมือนกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้ หลังจากที่ไมนซ์ตกรอบคัดเลือกยูโรปา ลีก 2011 ที่โรมาเนีย ในการไปเยือนเมทาน เมเดียส์ อย่างไม่เป็นท่า เขาได้ให้ผู้เล่นลูกทีมเข้าไปที่ห้องฉายวิดีโอ และนำวาทะของตำนานยัดลูกห่วงโลกอย่าง ไมเคิ่ล จอร์แดน มาฉายให้เห็นที่ว่า ''ในชีวิตการเล่นบาสเกตบอลของผม ผมเคยชูตไม่เข้า 900 ครั้ง ผมพ่ายในเกมเกือบ 300 นัด 26 ครั้ง ที่ผมเชื่อมั่นในการชูตชี้ขาดและผมพลาดเป้า ในชีวิตผมมีความผิดพลาดและพ่ายแพ้อยู่เสมอ และด้วยเหตุนี้ทำให้ผมประสบความสำเร็จ'' ที่ตามด้วยภาพสารพัดโทรฟี่ของจอร์แดน เกมนัดต่อมาไมนซ์เอาชนะเลเวอร์คูเซ่น 2-0

จนถึงเกมอย่างเป็นทางการนัดแรกรอบคัดเลือก ยูโรปา ลีก ในวันที่ 30 ก.ค. นั้น (การจับสลากประกบคู่จะมีในวันที่ 17 ก.ค.) เทรนเนอร์ทูเคิ่ลมีเวลาไม่มากเลย ด้วยเหตุนี้ช่วงทัวร์เอเชียเขามีการวิเคราะห์ด้วยวิดีโอและพูดคุยกับทีมทุกวัน

ทูเคิ่ลต้องการพาดอร์ทมุนด์กลับมาสู่ความเป็นหัวแถวอีกครั้งและทำให้แฟนๆ ลืมคล็อปป์ไปได้เลย

''ช่อคูน''

Cr; http://www.siamsport.co.th/Column/150710_117.html

ผมเหนด้วยนะครับ คลอปเค้าเก่งนะครับ วางรากฐานมาดี แต่พอคุมไปเหมือนเริ่มตันๆ จะเล่นแบบเดิมไปตลอดก้อโดนจับทางได้นะครับ ดูปีนี้ทุกคนดูเก่งขึ้นมาเลย โดยเฉพาะคากาวะ คุมเกมรุกดีมาก

เพิ่งมาเชียร์ดอทมุนฯ หรอ ?

เราดูบอลบุนเดสฯ เชียร์ฮันๆ ก็จริง แต่ดอทมุนยุคคร้อปนี่บิลระบบดีจริงๆ
ขัดเกลานักเตะแต่ละคนดีๆทั้งนั้น

มาแปปเดียวอวยช่ะแหละ กะอีคนอยู่ทำทีมแทบตายกลายเป็นหมาเฉย

ปีที่แล้วสงสารคล็อปป์จริงๆ จริงอยู่ที่ฟอร์มแย่มากๆ แต่นักเตะที่มีในมือก็แย่มากๆเฃ่นกัน


กองหน้านัดกันสากตลอดฤดูกาล กองหลางพากันเจ็บไปค่อนฤดูกาล


แบ๊ค หลัง ก็นัดกันเจ็บ เหลือแต่ดาวรุ่ง โดยเฉพาะซ้าย


พอตัวหลักเริ่มกลับมา ก็ผลงานดีอยู่นา จากบ๊วยขึ้นมายูโรป้าได้เนี่ย ไม่ธรรมดานะฮะ



แต่ชุดนี้ ทูเคิ่ลสานต่อได้แบบเยี่ยมจริงๆ แถมรู้สึกว่าเกมส์รุกดูลื่นกว่าคล็อปป์อีกนะ แถมดอร์ทมุนด์ช่วงนี้ ไม่ได้แค่บีบเร็วรอสวนเร็ว แต่ขึงอย่างโหดด้วย ก็ต้องให้เครดิตทูเคิ่ลด้วยในจุดนี้


แต่จะว่าทูเคิ่ลคนเดียวก็ไม่ใช่ คล็อปป์ทำไว้ซัก 70-85% แล้ว