ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 12 Mar 2008
ตอบ: 5855
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 12:04 am
การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก
คิดเล่นๆ ควรแก้ไขยังไงครับ เพื่อให้ค้นพบทางที่ตัวเองชอบ

เช่น ม.6 เข้ามหาลัย ไม่รู้จะเอาอะไร วิดวะละกัน (ผมล่ะหนึ่งในนั้น)

เรียนไป + จบมาทำงาน รู้สึกว่ามันเหมือนไม่ใช่ตัวเองเท่าไหร่

ต่างประเทศเค้ามีแนวทาง แนวคิดยังไงครับ

แลกเปลี่ยนความคิด
1
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 5376
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 12:07 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
อยากแลกเปลี่ยนนะ แต่ผมนี่เรียนไทยมาทั้งชีวิต

รุ้ว่าตัวเองชอบไรนะ แต่เสือกอินดี้เลือกอีกทางที่รุ้ตัวว่าไม่ชอบ เพียงเพราะความคิดโง่ๆชั่ววูบ เรียนมาจนจะจบแม้งไม่เคยมีความสุขกับการเรียนซักคาบ กุจะบ้า
0
0
เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 3318
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 12:08 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
เขาปล่อยให้คิดตั้งแต่เด็กแล้วครับ

อยากทำอะไรไปทำ หาเลี้ยงตัวเอง ด้วยสิ่งที่ตัวเองอยากทำ

พ่อ แม่ ครู ทำหน้าที่ชี้แนะและส่งเสริม

แต่ก็ใช่ว่าจะง่ายดายนะครับ เพราะมาตรฐานก็จะสูงตามไปด้วย

แต่เมืองนอกก็มีครับ คนที่ไม่อยากทำ แต่ต้องทำน่ะ เหมือนๆไทยแหล่ะ "ด้วยปัจจัยอะไรหลายๆอย่าง"


สังคมไทย "เราไม่ได้อยากเป็นในสิ่งที่เราอยากเป็น แต่เราต้องเป็นในสิ่งที่คนอื่นอยากให้เราเป็น"

(ต่างประเทศก็เป็น แต่เขาจะให้อิสระทางความคิดมากกว่า)


0
0


#EmenaloOUT
เข้าร่วม: 03 Oct 2010
ตอบ: 1911
ที่อยู่: แอนฟิลด์
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 12:10 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
ค่านิยม สอนให้เด็กคิดเอง ไม่ใช่คิดในสิ่งที่ผู้ใหญ่อยากให้คิด


0
0


เข้าร่วม: 05 Feb 2009
ตอบ: 4699
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 12:16 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
ต้องเลิกให้ผู้ใหญ่กรอกหูเด็กด้วยสิ่งที่ตัวเองอยากให้ลูกเป็นก่อน
0
0

เข้าร่วม: 28 Oct 2008
ตอบ: 6426
ที่อยู่: anfield road
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 12:17 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
ระบบเรียนของไทยก็มีข้อดีของมันอยู่
แต่ข้อเสียก็เยอะ พวกผู้ใหญ่ไทยชอบเปลี่ยน ชอบDesign อะไรใหม่ๆ

เพื่อตัวเองจะได้จารึกว่า ชั้นเป็นคนตัดสินใจสิ่งเหล่านี้นะ
ทั้งที่ผลเสียที่ตามมาก็มีให้เห็น

. . .

เช่น เปลี่ยนเวลาเปิดปิดเทอร์มมหาวิทยาลัย
ทำให้ ครู นักเรียนต้องมาเรียนในหน้าร้อน ซึ่งเปลืองแอร์ และห้องที่ไม่มีแอร์ยิ่งทรมานไปใหญ่ อากาศไม่อำนวย

. . .
ถ้าการที่จะให้รู้ว่าอยากเรียนอะไร
ต้องแนวๆเด็กยุโรป เขาจะไปทำงานก่อนหลังจากจบ มัธยม 1-2 ปี
เพื่อเรียนรู้ว่า อาชีพไหนรายได้ดี อาชีพไหนที่ถนัด

จากนั้นก็มาสอบเข้าเรียน ในม.ที่ชอบ
ต่างจาก การที่พยายามเรียนจบให้เร็วที่สุด สอบเทียบ แล้วไปเรียน 2 ปีครึ่ง

. . .
สิงคโปร์ก็น่าสน สิงคโปร์ไม่มีทัรพยากรมาก
ก็เลยต้องเน้นคน เขาจะมีครูแนะแนว เหมือนSPY สอดส่องว่าใครเก่งมากๆเด่นๆ ด้านไหน

ก็จะสนับสนุน ตย.เช่น ลี กวน ยู นายก เรียนเก่งมาก
พ่อแม่ อยากให้เรียน แพทยศาสตร์ ครูแนะแนวแนะนำว่า เรียนเศรษฐศาสตร์ดีกว่า
เพราะจะทำประโยชน์ได้มาก แล้วก็ให้ครอบครัวและเด็กเลือกด้วยกันเองอีกที

ฟังเขามาอีกที เคยไปสิงคโปร์ครั้งเดียว
0
0
Liverpool Liverpool Liverpool Liverpool

RedMachine : Iron-Team : Heavy Matal Machine

เข้าร่วม: 28 Oct 2008
ตอบ: 6426
ที่อยู่: anfield road
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 12:19 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
อันนันก็น่าสน เห็นข่าวบอกว่า

ญี่ปุ่น สอนแต่ศิลธรรมเด็ก ตอนอนุบาล
แล้วก็กิจกรรมกลุ่มเยอะๆ เน้นๆ

ระเบียบวินัยเน้นๆ แล้วการช่วยเหลือผู้อื่น

ก็ไม่รู้ว่าจริงแค่ไหนหรอกนะคับ แต่ก็ IDEA ดี
0
0
Liverpool Liverpool Liverpool Liverpool

RedMachine : Iron-Team : Heavy Matal Machine

เข้าร่วม: 23 Sep 2013
ตอบ: 536
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 12:35 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
เท่าที่ผมสังเกตุจากการที่อยู่ตปทตอนนี้น่ะครับ
"ผมไม่เห็นโรงเรียนกวดวิชาเลย"
ผมมาเรียนแลกเปลี่ยนของมหาลัยอ่ะครับ
ซึ่งการเรียนที่นี่หินสำหรับผม เพราะคนที่นี่เค้าอ่านหนังสือกันหนักมาก ผมหมายถึงว่า
เวลาผมอยู่ไทยเนี่ย เรียนเสด กลับมานั่งเล่นเกมส์ดูบอล เตะบอล ปั่นจักรยาน ถ่ายรูป
ละผมว่าเดกไทยส่วนใหย่เป็นงี้นะ ยิ่งเวลาใครกลับมาบ้านละอ่านหนังสือจะถูกมองว่าเนิร์ด

แต่เอาจิงแล้ว
ที่นี่เค้าจัดสรรเวลาว่างได้โหดมากครับ วิชานึงอ่านหนังสือนอกเวลา สามสี่เล่ม ไหนมีรายงานอีก แถมเค้ายังไปทำงานพาร์ทไทม์กันด้วย ปาร์ตี้กันทุกอาทิต เที่ยวปีนเขาปีนไร คือผมมองว่าเค้าจัดสรรเวลากันดีมากๆครับ ผมมองว่าเค้าถูกปลูกฝังความคิดให้คิดเองเป็นอ่ะครับ ไม่ได้โดนตีกรอบเหมือนครอบครัวคนไทยส่วนใหญ่ ละชีวิตคนที่นี่เค้ามีทางเลือกเยอะครับลองสังเกตุบ้านเราดู ถ้ากระแสไหนกำลังแรง จะไปทางนั้นหมด เช่น เรียนคอมกำลังมาเเรง พ่อแม่จับลูกไปเรียนละแต่ก็โชคดี ผมไม่เคยโดนบังคับเรียนพิเศษเลย 5555 ละก็รู้ว่าตัวเองชอบไร
แต่ที่นี่เหมือนคนส่วนใหญ่เค้ามีทางเลือกอ่ะครับเหมือนพอเลือกเองได้ไรเองได้ เที่ยวด้วยเรียนด้วย วินัยดี จัดเวลาดี เค้าก็มีเวลาอยู่กับตัวเอง ได้รุ้ว่าตัวเองมาสายไหนด้วยผมว่า ละผมเคยได้ยินจากเพื่อนว่า คนเดนมาร์คส่วนใหญ่เนี่ยเวลาจบม.6 เค้าจะเอาเงินที่เค่าเก็บมาได้จากการทำงานพาร์ทไทม์ช่วง summer มอปลายไปเที่ยวหนึ่งปีครับ ละกลับมาค่อยมาเรียนต่อ
ผมว่ามันเป็นทางที่ดีมากๆในการหาตัวเองน่ะครับ
แต่อย่างว่า ประเทศเรามันกำลังพัฒนาครับ บางทีผมก็ถามตัวเองเล่นๆน่ะว่า
ผู้ใหญ่นักการเมืองเนี่ย เค้าก็มีลูก เค้าก็คงรู้ว่าปัญหาการศึกษาไทยมีอะไร แต่ทำไมเราไม่ค่อยพัฒนาด้านนี้ หรือผู้ใหญ่เค้าไม่อยากให้มีคนฉลาดในประเทศเยอะหรือเปล่า? คิดเล่นๆน่ะครับ 55555


เข้าร่วม: 16 Nov 2009
ตอบ: 1982
ที่อยู่: SS
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 3:16 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
แนะแนวต้องทำงานเชิงรุกและมีความรู้รอบตัวสูงครับ
ให้เปลี่ยนจากฝากให้พ่อแม่ช่วยเลืิอกเป็น นรเลือกเองโดยมีคำปรึกษาจากครูแนะนแวและผู้ปกครอง
ต่อมาการเสริมกิจกรรมชุมนุม หรืออะไรพวกนี้เยอะๆครับ

สุดท้ายการส่งเสริมให้นักเรียนค้นคว้าด้วยตัวเองให้คล่องแคล่ว

ผมคิดได้แค่นี้
0
0

เข้าร่วม: 12 Oct 2013
ตอบ: 3239
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 6:07 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
ผมนี่ลงสายศิลป์ดันสอบติดสายวิทย์ ต้องทำเรื่องย้ายวุ่นวาย เพราะคิดว่าไม่เก่งวิทย์เลย พอจะจบก็รู้ว่าสายวิทย์มันเข้าได้ทุกคณะ แล้วเด็กวิทย์ก็ไม่ได้จำเป็นต้องเก่งวิทย์ อีกอย่างรร.ผม สายวิทย์ได้เกรดง่ายอีก ผมนี่พลาดเลย แต่ก็นะ หลักสูตรไทย บางวิชาก็เฝือเกินไป บางวิชาก็ดีอยู่ แต่เนื้อหาที่เอาไปใช้ประโยชน์มันน้อยมาก อีกอย่างระบบมันก็ทำให้เด็กไปยึดกับเกรดจนเกินไป ทำให้วัดอะไรไม่ค่อยได้ ได้แต่ท่องจำไปสอบ พอเรียนจบไอ้ที่เรียนมาก็จบ อีกอย่างครูสมัยนี้ไม่เก่งเท่าไหร่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ เพราะอาชีพครูในตลาดนี้ขาดแคลนบุคคลากรเป็นอย่างมาก ต้องสมัยก่อน เป็นครูเพราะอยากสงเคราะห์ แต่สมัยนี้เป็นครูเพราะเป็นอาชีพๆหนึ่ง ทำงานแลกเงินเหมือนพนง.บริษัทเท่านั้นเอง จริงๆที่รร.ผมให้นำหนักแค่30-40% ที่เหลืออยู่ที่พ่อแม่ล้วนๆเลย ว่าจะปลูกฝังลูกได้ดีขนาดไหน

0
0
[M]anchester Is Red
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 3405
ที่อยู่: KU
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 6:56 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
ประเด็นคือยุโรป หรือเมกา พ่อแม่เขามีส่วนในการ
จ่ายค่าเล่าเรียนน้อยมาก เขาเลยไม่ได้มาจุกจิกว่า
ลูกเขาจะเลือกทางไหน อีกอย่างฝรั่งที่ได้ทำในสิ่งที่
ตัวเองชอบจริงๆ มีน้อยนะ แต่ก็อย่างว่าแหละสนาม
หญ้าของเพื่อนบ้านมักเขียวกว่าเราเสมอ
0
0
เข้าร่วม: 18 Jan 2015
ตอบ: 488
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 6:59 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
เอาจิงๆ ไม่ต้องซีเรียสคับ ชอบไรก้เรียนไปเลย

ปล ตอนนี้นักการเมืองมันกำลังทำให้เด็กคนอื่นโง่ลงไปเท่าลูกหลานมันคับ มันขี้เกียดอบรมสั่งสอนให้ลูกมันฉลาด
0
0
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 8367
ที่อยู่: แถวๆนี้แหละครับ
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 7:14 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
soccersuckfanfan พิมพ์ว่า:
อันนันก็น่าสน เห็นข่าวบอกว่า

ญี่ปุ่น สอนแต่ศิลธรรมเด็ก ตอนอนุบาล
แล้วก็กิจกรรมกลุ่มเยอะๆ เน้นๆ

ระเบียบวินัยเน้นๆ แล้วการช่วยเหลือผู้อื่น

ก็ไม่รู้ว่าจริงแค่ไหนหรอกนะคับ แต่ก็ IDEA ดี
 


ต้นกำเนิดองค์กรsox มาจากแนวคิดพวกนี้สินะ

0
0


ชมรม pkmn revolution online http://www.soccersuck.com/clubs/detail/129
เข้าร่วม: 06 Oct 2007
ตอบ: 577
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 29, 2015 9:14 am
[RE: การเรียน กับ อนาคต ของเด็ก]
http://pantip.com/topic/33008502


0
0