ในแง่ของเกมกีฬาฟุตบอลเหมือนกับกีฬาอื่นๆที่สถิติไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคปัจจุบันที่กีฬาและธุรกิจแทบจะเป็นเรื่องเดียวกัน การใช้เพียงความรู้สึกตัดสินผลงานของทีมอาจไม่เพียงพอ การประเมินที่จับต้องได้เป็นสิ่งจำเป็น สถิติจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการประเมินผลงานของทุกทีม ผมเลยอยากจะนำเสนอสถิติในด้านต่างๆของหงส์แดงในฤดูกาลนี้ให้ทุกท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็นกัน (นับถึงวันที่10/4/58)

ยิงประตูขึ้นนำได้มากที่สุดอันดับสองในลีก
จาก 45 ประตูในฤดูกาลนี้ของลิเวอร์พูล เป็นประตูที่เกิดจากการขึ้นนำ คู่แข่งถึง 28 ประตู หรือ 62% เลยทีเดียว ส่วนอันดับหนึ่งคือเชลซีที่ยิงประตูขึ้นนำได้ถึง 31 ครั้ง

เก็บคลีนชีตได้มากที่สุดเป็นอันดับสามในลีก
ปัญหานึงที่ร็อดเจอรส์แก้ไม่ตกมาตลอดฤดูกาลที่แล้วคือเกมรับ แต่เหมือนว่าฤดูกาลนี้เราสามารถมองเห็นพัฒนาการในจุดนี้ได้ จาก 31 นัดลูกทีมของร็อดเจอรส์เก็บได้ถึง 12 คลีนชีต ตามเซาแธมป์ตันและเชลซีที่ทำได้ 14และ13ครั้งตามลำดับ เทียบกับฤดูกาลที่แล้วทั้งปีที่เก็บได้เพียง 10 คลีนชีตเท่านั้น

เก็บคลีนชีตในเกมเยือนได้มากที่สุดในลีก
จากคลีนชีต 12ครั้งในฤดูกาลนี้แบ่งเป็นคลีนชีตจากเกมเยือนได้ถึง 7 เกมโดยเกิดจากเกมกับ สเปอรส์ เบิร์นลี่ย์ ซันเดอร์แลนด์ แอสตันวิลล่า เอฟเวอร์ตัน เซาแธมป์ตันและสวอนซี

นำก่อนแพ้ยาก
จาก 31 นัดลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน 20นัด ชนะไปถึง 15นัด คิดเป็น 75% ขณะที่เซาแธมป์ตันหากนำก่อนชนะไปถึง 93.75%
แมนซิ84% แมนยู85% อาร์เซนอล81% เชลซี75%

โดนยิงตีเสมอมากที่สุดในลีก
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าหงส์แดงฤดูกาลนี้ทำประตุขึ้นนำได้มากถึง 28 ครั้ง มากเป็นอันสองในลีก แต่ขณะเดียวกับดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีปัญหาในการรักษาสกอร์อยู่มากพอสมควร จากสถิติเสียประตูตีเสมอมากถึง 12 ครั้ง ซึ่งมากที่สุดในลีก

คัมแบ็คหลังจากโดนนำไปก่อน
จาก 31 เกมในฤดูกาลนี้ มี 8 เกมที่ร็อดเจอรส์ต้องแสดงความสามารถในการแก้เกมเพื่อพลิกสถานการณ์ของทีม แต่ปรากฏว่า จาก 8 เกมที่โดนนำไปก่อนลิเวอร์พูลแพ้ไปถึง 7 ครั้ง ชนะเพียงครั้งเดียวในเกมที่พบกับเลสเตอร์ซิตี้ ส่วนเกมที่แพ้ประกอบไปด้วยเกมที่เจอกับ แมนซิตี้ แอสตันวิลล่า เวสแฮม นิวคาสเซิล แมนยู2นัด และ อาร์เซนอล คิดเป็นเปอร์เซ็นต์สวยๆคือมีโอกาสแพ้หากโดนนำไปก่อนถึง 87.5% ซึ่งมากที่สุดในบรรดาtop five โดย เชลซี20% แมนซิ50% อาร์เซนอล44% แมนยู37.5%

โดนยิงขึ้นนำน้อยที่สุดอันดับสองในลีก
ลิเวอร์พูลโดนยิงขึ้นนำ 11 ครั้งในฤดูกาลนี้เป็นรองเพียงเชลซีที่โดนขึ้นนำเพียง 6 ครั้งเท่านั้น ตามมาด้วยอาร์เซนอลและแมนยูที่ 12 ครั้งเท่ากัน

ยิงประตูตีเสมอได้น้อยที่สุดในลีก
จากสถิติโดนยิงนำ 11 ครั้งในฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลยิงประตูตีเสมอได้เพียง 2 ประตูเท่านั้นโดยทั้งสองประตูมาจากลูกเซตพีซในนัดที่แซงชนะเลสเตอร์และตีเสมออาร์เซนอล เทียบกับเชลซีที่โดนขึ้นนำ 6 ครั้งแต่ยิงตีเสมอได้ถึง 4 ครั้ง และแมนยูที่โดนขึ้นนำ 12 ครั้งยิงตีเสมอได้ 7 ครั้ง

ทำประตูจากลูกเซตพีซได้น้อยที่สุดในลีก
จาก 45 ประตูที่ทำได้ในฤดูกาลนี้เป็นประตูจากลูกเซตพีซเพียง 3 ประตูเท่านั้น โดยทีมที่ได้ประตูจากลูกเซตพีซมากที่สุดคือ อาร์เซนอล โดยทำได้ถึง 14 ประตู

เก็บได้เพียง 4 คะแนนจาก 24 ในการเล่นกับทีมท็อปโฟร์
ในเกมที่พบกับทีมท็อปโฟร์ เชลซี อาร์เซนอล แมนยู แมนซิตี้ 7 ครั้งในฤดูกาลนี้ หงส์แดงเก็บได้เพียง 4 จาก 24 คะแนน โดยทั้งสี่คะแนนเกิดจากเกมในแอนฟิลด์ที่เสมออาร์เซนอลและชนะแมนซิตี้

สถิติเหล่านี้บอกอะไรเรา
จะเห็นว่าสถิติที่นำมาทั้งหมดสะท้อนความเป็นลิเวอร์พูลและเบรนแดน ร็อดเจอรส์ได้เป็นอย่างดี อย่างที่ทุกคนรู้ว่าร็อดเจอรส์เป็นกุนซือสายบอลระบบ จากสถิติเราจะเห็นว่าวันใดที่ระบบของเขาทำงานลิเวอร์พูลมีโอกาสชนะรวมถึงเก็บคลีนชีตสูงมาก การจะยิงประตูขึ้นนำลิเวอร์พูลไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ขณะเดียวกันความสามารถในการแก้เกมของร็อดเจอรส์ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม หากทีมของเขาโดนนำไปก่อนจะมีโอกาสแพ้ถึง 87.5% มันเป็นเพราะเขาขาดตัวสำรองที่มีคุณภาพหรือเปล่า ? ก็อาจจะมีส่วน แต่อย่าลืมว่าพวกเขาทำประตูตีเสมอได้น้อยที่สุดในลีก แถมทั้งสองประตูที่ทำได้มาจากลูกเซตพีซ นอกเสียจากตัวสำรองของพวกเขาด้อยกว่าทีมอย่างเลสเตอร์หรือเบิร์นลี่ย์

น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถหาสถิติว่าลิเวอร์พูลได้ลูกเซตพีซกี่ครั้งในฤดูกาลนี้ แต่ด้วยข้อมูลที่มีก็พอจะบอกอะไรเราได้บ้าง หงส์แดงทำประตูจากลูกเซตพีซได้เพียง 3 ประตูในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจสำหรับทีมระดับนี้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้วที่ทำได้ถึง 26 ประตู(มากที่สุดในลีก) ชัดเจนว่าการจากไปของหลุยส์ซัวเรสและการหลุดจากตำแหน่งตัวจริงของเจอร์ราดส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเล่นลูกเซตพีซอย่างมาก และดูท่าทางแล้วนี่อาจจะเป็นปัญหาเรื้อรังลากยาวไปจนกว่าลิเวอร์พูลจะหาตัวแทนได้

ถึงแม้ว่าในทางทฤษฎีการชนะทีมเล็กหรือทีมใหญ่มีค่าเท่ากันคือสามคะแนน แต่ในทางปฏิบัติมันมีอะไรมากกว่านั้น การชนะทีมเล็กอาจจะมีค่าแค่สามคะแนน แต่การชนะทีมที่อยู่เหนือกว่าจะให้ทั้งสามคะแนนและเป็นการหยุดพวกเขาไปในตัว ซึ่งอย่างหลังนี่แหละที่เป็นปัญหาของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ 4แต้มจากทีมท็อปโฟร์เป็นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไข อย่างน้อยๆก็ยามเล่นในแอนฟิลด์
*************************************************************************************************
- ข้อมูลจาก www.soccerstats.com, www.whoscored.com
- ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบครับ พยามตรวจสอบข้อมูลดีแล้วแต่หากพลาดอะไรไปขออภัยด้วยครับ
- มีอะไรติชมหรือแสดงความคิดเห็นเต็มที่เลยครับ

คลีนชีตเยอะก็จริง แต่เอายิงมายิงกลับไม่โกงแบบปีที่แล้วดีกว่า

เหมือนจะดี แต่ยังดีไม่พอสินะ

นิดหน่อยนะครับ 4 แต้มที่ได้จากทีมใหญ่น่าจะเป็นจากอาร์เซนอล 1 แต้มมากกว่าเชลซีนะครับ

โอ้วจริงด้วย แก้แล้วขอบคุณครับ

เรื่องเซทพีซ ผมไม่ได้คาดหวังไรมากอยู่แล้ว เพราะเหมือนไม่ค่อยซ้อมกันมาไงไม่รู้ แต่ขออย่าเสียจากเซทพีซได้ก็ดีใจมากแล้ว นั่นคือลูกกลางอากาศดีขึ้น

จากปีที่แล้วมีดาวยิงติดอันดับไป 2 คน ปีนี้ไม่มีเลย มันก็คงบ่งบอกแล้วแระครับ ว่าเราคงลุ้นอันดับดีๆในลีคยากหน่อย ทำใจแต่แรกแล้ว มีใจชิ้นหน่อยคือช่วงปีใหม่ที่ฟอร์มดีขึ้นมาพอสมควร

นอกจากนี้ ประตูได้เสียเรายังจุ๋มจิ๋มมากๆด้วยครับ

ใน 7 อันดับแรก ประตูได้เสียเราเหนือสเปอร์สแค่ทีมเดียว..

แปลว่าเกมส์รุกปีนี้เรามีปัญหาหนักหน่วงมากจริงๆ (เรายิงได้เกิน 3 ลูกต่อเกมส์แค่นัดเดียวคือตอนเจอ สวอนซี)

เวลาโดนนำก่อนมักจะแพ้ นี่คือความสม่ำเสมอของรอดเจอร์จริงๆ

คือผมอ่าน"ยิงประตูขึ้นนำได้มากที่สุดอันดับสองในลีก" ลงมาเรื่อยๆแล้วมาเจอ"โดนยิงตีเสมอมากที่สุดในลีก" เหมือนจะดีเลยนะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับพี่เบค