ณ ขณะนี้ผู้หญิงคนนี้คือผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนนึงในวงการฟุตบอลอังกฤษ และเธอคนนี้คือเหตุผลสำคัญของการเปลี่ยนแปลง Chelsea สู่ผู้ชนะทางธุรกิจในการซื้อขายนักเตะ

“มือขวาคนสวย” ของ โรมัน เธอคือ Marina Granovskaia (มาริน่า กราน๊อฟสคาย่า) ออกเสียงนามสกุลผิดมั๊ยน๊า



โรมันเชื่อมั่นในตัวเธออย่างมากกับเวลา 17 ปีที่ทำงานร่วมกันมา และขณะนี้เธอกลายเป็นบุคคลเบื้องหลังที่มีความสำคัญมากในการนำความสำเร็จในการเจรจาซื้อขายนักเตะมาสู่ สแตมฟอร์ดบริดจ์

Chelsea ขาย เชอร์เล่ย์, เบอร์ทาน ซื้อ ควาดราโด้ ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะหน้าหนาวแล้วยังสามารถทำกำไรได้นิดหน่อยที่ 6 ล้านปอนด์ หลังจากผลงานการดีลที่สุดยอดในการนำเข้า เชส, คอสต้า และขาย ดาวิด ลุยซ์, มาต้า

แม้การใช้จ่ายเงินในการซื้อนักเตะของสโมสรจะมากถึง 123.3 ล้านปอนด์ใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่สามารถหารายได้จากการขายนักเตะได้ถึง 127.7 ล้านปอนด์ โดยมีเธอคนนี้เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการทำงาน

หญิงสาววัย 39 ผู้นี้ยังเป็น 1 ใน 3 ไดเร็คเตอร์ของสโมสรอีกด้วยจากข้อมูลบนเว็บไซด์ของสโมสร

หนึ่งในคนวงในของสโมสรได้พูดถึงเธอว่า “เคี่ยว, แฟร์, สวย และสุดยอดมากในงานที่เธอได้รับมอบหมาย”



เธอมีส่วนสำคัญอย่างมากกับแผนการเงินของสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการลาออกของซีอีโอคนดังอย่าง รอน กูร์เลย์ เธอก็มีส่วนสำคัญในการบริหารงานเคียงข้างกับ บรู๊ค บัค เลยทีเดียว

ประวัติการทำงานของเธอที่ปรากฏบนเว็บสโมสรคือ “เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโคว์ด้วยเกียรต์นิยมและเริ่มต้นทำงานในปีเดียวกันที่บริษัทน้ำมัน Sibneft ซึ่งเจ้าของก็คือ โรมัน อบราโมวิช


“17 ปีที่ผ่านมาเธอทำงานอย่างใกล้ชิดกับโรมันในตำแหน่ง ที่ปรึกษาอาวุโส ดูแลเรื่อง ผลประโยชน์ทางด้านสินทรัพย์ของโรมัน”

เธอย้ายจากรัสเซียมายังลอนดอนในระยะเวลาสั้น ๆ ในปี 2003 หลังจากการเข้าครอบครองกิจการ Chelsea ของ โรมัน และตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา เธอก็ได้ทำงานในฐานะ ตัวแทนของเจ้าของสโมสรมีหน้าที่คอยสนับสนุนบอร์ดของสโมสรตั้งแต่นั้นมา

“เธอได้เข้าร่วมบอร์ดบริหารและนั่งเป็น 1 ในบอร์ดบริหารตั้งแต่มิถุนายน 2013 เป็นต้นมา”


Chelsea คือปรมาจารย์ในการต่อรอง - วิเคราะห์โดย Ed Malyon

อังเดร เชอร์เล่ย์ เซ็นสัญญากับ Chelsea เมื่อปี 2013 ในราคา 18 ล้านปอนด์ โดยออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแค่ 20 เกมส์เท่านั้น และต่อมาภายหลังก็ไม่ได้รับความไว้วางใจจากผู้จัดการทีมเท่าไหร่นัก แต่เพราะเหตุใดไม่ทราบได้ เชอร์เล่ย์ ถูกขายในราคา 24 ล้านปอนด์เฉยในปี 2015 ซึ่งทำให้ มูรินโญ่ สามารถนำเงินไปซื้อ ควาดราโด้ ซึ่งเป็นนักเตะที่เค้าต้องการ โดยยังมีเงินทอน (กำไร) เหลือกลับเข้าสโมสรได้นิดหน่อย

มันเยี่ยมและเฉียบแหลมมากสำหรับสโมสร ซึ่งเป็นลางไม่ดีสำหรับคู่แข่งแย่งแชมป์ของ Chelsea เดอะบลูมีพัฒนาการทางธุรกิจในการขายนักเตะได้ในมูลค่าที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการขาย ดาวิด ลุยซ์ ได้ในราคา 50 ล้านปอนด์

ในปีที่ผ่านมาเพียงปีเดียว Chelsea ได้ขายนักเตะที่ มูรินโญ่ ไม่ต้องการอย่าง เชอร์เล่ย์, ดาวิด หลุยซ์, มาต้า และ ลูคาคู โดยมีมูลค่ารวมถึง 140 ล้านปอนด์ นี่เป็นผลงานการทำงานที่น่าอัศจรรย์มาก ไม่เพียงทำให้พวกเค้าได้นักเตะที่ต้องการอย่าง คอสต้า, เชส พวกเค้ายังสามารถรั้งนักเตะที่เป็นตัวหลักของสโมสรไว้ได้อีกด้วย

จากการซื้อขายนักเตะข้างต้น ผู้ที่เป็นส่วนสำคัญแนวหน้าในการเจรจาต่อรองธุรกิจในปีที่ผ่านมาจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก มาริน่า กราน๊อฟสคาย่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอยังเป็นส่วนสำคัญในการกลับมายัง สแตมฟอร์ดบริดจ์ของ มูรินโญ่ อีกด้วย



Chelsea ค่อย ๆ ขับเคลื่อนสโมสรฝ่ากฏการเงินของยูฟ่าไปได้อย่างสวยงามไร้รอยขีดข่วนใด ๆ โดยเน้นที่กุลยุทธ์ 2 ประการคือ

1. มุ่งเน้นไปที่คุณภาพของนักเตะในทีม โดยหลีกเลี่ยงที่จะมีผู้เล่นมากเกินไป แต่ก็ไม่น้อยจนเกินไป การซื้อ ควาดราโด้ จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการจากไปของ ซาล่า และ เชอร์เล่ย์ จากเหตุผลข้างต้นของ มูรินโญ่ การทำออกมาให้ได้ผลเป็นการเท่าทุน จึงเป็นเรื่องที่เฟอร์เฟ็คสำหรับแผนการณ์ของสโมสร ปรับปรุงความสามารถทีมโดยไม่ต้องเสียเงิน

2. การมุ่งหานักเตะวัยรุ่นพรสวรรค์ มาพัฒนา (ส่วนใหญ่ด้วยการปล่อยยืมตัว) แล้วขายหรือโปรโมทขึ้นทีมชุดใหญ่ ตัวอย่างเคสนี้คือ การขาย เควิน เดอ เบรยเน่อ (เป็นตัวจริงแค่ 2 เกมส์) และ การพัฒนาอย่างมากมายของ ธิโบต์ คูตัวธ์ (ซึ่งขณะนี้กลายเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดคนนึงของโลก)

เพราะฉะนั้นจึงสามารถพูดได้ว่า กลยุทธ์ของ Chelsea ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม

และถ้า กราน๊อฟสคาย่า ยังสามารถขับเคลื่อนกำไรให้สโมสรได้อยู่อย่างนี้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะไม่ทำต่อไป

ต้นฉบับ http://www.mirror.co.uk/sport/football/news/meet-marina-granovskaia-chelseas-transfer-5103558

คัดลอกจากแฟนบอลเชลซีในพันทิพมาอีกที ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ขอบคุณสำหรับ ข้อมูล น้องมะม่วง

จากกราฟจะเห็นได้ว่าเราไม่ใช่ทีมที่เอาแต่ทุ่มเงินซื้อความสำเร็จอีกต่อไปแล้ว !!!!

(แม้จะเป็นเช่นนั้นจริงๆเมื่อสี่ปีก่อน 55555555 เห็นกราฟแล้วเขินเล็กๆ)