สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้ต่อเนื่องในมิติคู่ขนานของ กระทู้ "นั่งรถไฟฟรี ไปเชียงใหม่ รับลมหนาวที่กิ่วแม่ปาน ดูนาขั้นบันไดที่แม่แจ่ม"
http://pantip.com/topic/32849288/
สำหรับข้อมูลต่างๆติดตามได้ในกระทู้ดังกล่าวครับกระทู้นี้จะเน้นรูปภาพจากกล้องฟิล์มครับ
- กล้องฟิล์มที่ใช้บันทึกภาพคือ gaf L-CS (อีกเวอร์ชั่นของ Chinon CX) พร้อมด้วยเลนส์ auto Chinon 55/1.4 หนังคางคก และ Vivitar 135/2.8
- ฟิล์มที่ใช้ในทริปนี้ Paradise 400 และ Fujicolor superia x-tra400
-ภาพจากกล้องฟิล์มที่ลงผ่านการล้างและแสกนเป็นไฟล์
ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/paranphotography
และติดตามเรื่องราวการเดินทางได้ที่
https://www.facebook.com/justfollowmeee
สำหรับผมในช่วงที่เดือนนี้คนอื่นมีงานกันแน่น ผมอยู่ว่างใจก็คิดอยากจะลองลาพักร้อนในเดือนพฤศจิกาดู (จริงๆเป็นฟรีแลนซ์ไม่มีวันหยุดวันลาครับ) โอ๊ะโอ! ประจวบเหมาะกับทริปเชียงใหม่ของคุณแฟนที่จองตั้วเครื่องบินไว้นานนม มีคนแคนเซิลทริปหนึ่งคน มีที่ว่างเราก็อยากไปอยู่เลยขอเสียบซะ 1 ที่ครับ หลังจากคุยกันเรื่องรายละเอียดทริป เรียบร้อยก็ตกลงกันว่า ที่เชียงใหม่เราจะไปไหนกันบ้าง ตกลงกันว่าขึ้นอินทนนท์ ไปสัมผัสหนาวแรกกันแล้วก็ไปเที่ยวนาขั้นบันไดเมืองแม่แจ่มครับ
เราออกเดินทางด้วยรถไฟนัดกันที่หัวลำโพงไอ้เราก็มัวแต่เอาของเข้าๆออกกระเป๋าขึ้นบันไดเลื่อนจาก MRT มาโผล่ที่สถานีหัวลำโพงปุ๊บเสียงระฆังปล่อยรถไฟขบวน 109 กรุงเทพ-เชียงใหม่ (รถไฟฟรี) ดังขึ้นพอดีเราก็รีบจ้ำเอ้าไปถึงชานชลาที่ 10 รถเริ่มเคลื่อนตัวช้าๆ ผมส่งสายตาไปหานายสถานีที่โบกธงเขียวอยู่ เค้ามองหน้าผมแล้วพยักหน้าหนึ่งที พร้อมหลบให้ผมกระโดดขึ้นรถไฟไปในทันใด เหงื่อแตกซิกครับ ในทันใดนั้นคุณแฟนที่ผมบอกให้ขึ้นรถมาก่อน โทรมาบอกว่ารถออกแล้วนะ T T ผมรีบเดินไปถึง โบกี้ที่ 4 พร้อมเซอร์ไพร้ว่าตูมาทัน 555 แต่เกือบเงิบครับ
ยังไม่ทันเมื่อยก็ถึงทางรถไฟช่วง จ.อยุธยา มีหลายรางรถสวนกันได้ ช่วงนี้รถไฟทำเวลาได้ดีมาก ปู๊นๆ
ถึงสถานีชุมทางบ้านภาชี มีไอติมของโปรดมาขายจัดซะหน่อยพร้อมทั้งขอถ่ายภาพแม่ค้าสักหน่อย
ไอติม 5 บาท อร่อยเกินราคา ใครผ่านสถานีนี้อย่าลืมลองชิมนะครับ
หลังจากกินไอติมผลก็หลับๆตื่นๆตลอดทาง แทบไม่ได้ถ่ายภาพเลยจนวาร์ปมาถึงเชียงใหม่ รถไฟถึงเชียงใหม่เวลา 4.10น. เจ้าม้าเหล็กทำเวลาได้ดีมาก ดีที่สุดเท่าที่เคยนั้งรถไฟเมี่ยวนี้เลย (ผมนั่งขบวนนี้บ่อย)
เราทำภาระกิจส่วนตัวแล้วก็นอนรอจนเช้า เพื่อรอรับรถเช่าที่จองไว้มาส่งที่หน้าสถานีตอนเจ็ดโมงเช้า
------------
ละแวกเมืองเชียงใหม่
หลังจากที่รับมอบรถเช่าเราก็บึ่งไปหาอะไรกินกัน ยังนึกไม่ออกว่าจะกินอะไรดีเลย แว๊ปไปอ่างแก้ว มช.ก่อนครับ ตอนเช้าสวยดี
สักแป๊บแดดมาครับแอบแรงนิดๆ หนุ่มน้อยอย่างผมเจอแดดเข้าไปก็สำออย ฮ่าๆ ล้อเล่นครับจริงๆผมชอบแดดมากๆ หลังจากนั้นก็หาอะไรกินแล้วก็ไปที่พักกัน คืนนี้เราพักที่ โอบอุ่น โฮมเสตย์ อยู่แถวคันคลองชลประทาน ใกล้ๆแยกเข้าวัดร่ำเปิง จองห้องใหญ่นอนได้ 5 คนไว้ หลังจากแวะเช็กอินและวางกระเป๋าเราก็ออกไปรับ สมาชิกทริปอีกสามคนที่สนามบิน
หลังจากแวะเช็กอินและอาบน้ำให้สดชื่อชุ่มฉ่ำหัวใจเราก็ออกไปรับ สมาชิกทริปอีกสามคนที่สนามบิน ก่อนออกไปเจอแดดสาดเข้ามาที่ระเบียง จัดไปหนึ่งใบครับ
จากสนามบินเราบึ่งรถขึ้นดอนสุเทพกัน จุดนี้คือจุดชมวิวเมืองเชียงใหม่ ระหว่างทางขึ้นดอย
ถึงแล้วพระธาตุดอยสุเทพ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรให้พรุ่งนี้ได้ภาพรุ่งอรุณที่สวยงามและทะเลหมอกด้วยเถิดดดด สาธุ!
ก่อนหน้านี้ฟ้ายังเป็นสีฟ้าอยู่เลย แว๊ปเดียวเท่านั้นครับ
เหลือบไปเห็นต้นเฟื่องฟ้าต้นใหญ่ออกดอกงามเชียว นักถ่ายภาพเบิ้ล*อย่างเราก็ไม่พลาดหาเหยื่อมาเบิ้ล
*(ถ่ายภาพเบิ้ล = ถ่ายภาพซ้อน = double exposure หรือ multiple exposure)
หลังจากนั้นเปิดวาร์ปลงมากินข้าวในเมืองแล้วบึ่งรถไปยังม่อนแจ่ม ระหว่างทางสวยงาม แต่ผมไม่ได้ถ่ายภาพเลยเพราะขับรถ
บนดอยม่อนแจ่มขับรถขึ้นไปถึงเจอเด็กน้อยกำลังเล่นรอผู้ปกครองมารับ ขอถ่ายไป 1 ใบ
ม่อนแจ่ม ช่วงที่ไปไม่ค่อยมีอะไรสำหรับผมเฉยๆ เพราะเหมือนยังเตรียมปลูกดอกไม้กันอยู่ ช่วงหน้าหนาวน่าจะสวยมากครับ เราถ่ายรูปเล่นกันแล้วก็ลงดอยเข้าเมืองไปหาข้าวเย็นกันกัน
วันแรกรอบๆเมืองเชียงใหม่ ก็ไปแค่นี้ครับ หลังจากกินข้าว กลับที่พักนอนพักผ่อนเพราะวันรุ่งขึ้นเราต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปอินทนนท์
------------
ออกเดินทางสู้อินทนนท์
เช้าวันใหม่ แทบไม่อยากจะลุกหลับสบายเกินไป ฮ่าๆ ผมรีบอาบน้ำเป็นคนสุดท้ายใช้โควต้าคนขับรถตื่นสาย เราออกจากที่พักตอน ตีสี่ครึ่ง เลทกว่าแผนไปครึ่งชั่วโมง โชคดีที่วันนี้ขาขึ้นดอยไม่เจอหมอกเราทำเวลาได้ดี ถึงจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน ก่อน หกโมงไม่ถึงสิบนาที เริ่มเห็นแสงเหลืองๆที่ปลายขอบฟ้า
มาแล้ว เราเปลี่ยนเป็น 135mm เพื่อให้ซูมได้ไกลขึ้น สวยงามจนอยากหยุดยืนดูเฉยๆ
อาทิตย์ขึ้น ทางขวาเป็นดอยหัวเสือ
หลังจากนั้นก็เดินเล่นถ่ายภาพกันไป ชอบมุมตรงนี้มาก
ยามเช้า-สาวผมสั้น-กล้องฟิล์ม
พระธาตุ"นภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ" 2 พระมหาธาตุเจดีย์ แห่งดอยอินทนนท์ มุมนี้เห็นแค่องค์เดียว
ตอนก่อนอาทิตย์ขึ้นแอบมาดู 9 องศานิดๆ
สวยดีมีน้ำค้างเกาะ
หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าเราก็พักตากแดดและกินอาหารเช้ากันตรงจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน
หากต้องการจะเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานควรจะรับประทานอาหารไปก่อนข้างในเดิน 3 กม. เดี๋ยวจะไม่ไหวเอา
------------
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน
ระยะทาง 3 กิโลเมตร เสียค่าผู้นำทางท้องถิ่น 200 ต่อกลุ่มไม่เกิน 7 ท่าน
เส้นทาง เดินง่าย ปลอดภัย ช่วงที่มีความชันจะทำเป็นขั้นบันได และมีสะพานข้ามลำธาร บริเวณหน้าผามีราวกันตก
ช่วงเวลาที่แนะนำ เริ่มเดินก่อน 8 เช้า สำหรับท่านที่ต้องการชมทะเลหมอก และช่วงบ่าย สำหรับชมอาทิตย์ตกดิน (ช่วงบ่ายยังไม่เคยไปครับ)
ลักษณะเป็นป่าดิบอยู้บริเวณเขาสูง พืชระดับพื้นล่างเป็นพวกชอบความชื้น
ไม้ยืนต้นสูงสวยงาม
ช่วงเช้ามีแสงลอดเข้ามา บางวันก็จะขาวโพลนถ้าหมอกจัด
ต้นเฟิร์นและมอสเกาะตามลำต้นของไม้ใหญ่เนื่องจากบริเวณนี้มีความชื้นสูงมาก
เฟิร์น
ดอกกล้วยไม้จำชื่อไม่ได้
หลุดออกมาจากป่าดิบเจอสันเขาเป็นมุมเปิดโล่งเป็นทุ่งหญ้า สวยงามมาก แอบเห็นทะเลหมอกด้วยนะ
ต้นหญ้ายังเขียวอยู่ หลังจากช่วงที่มีอากาศหนาวจัด (น้ำค้างแข็ง) หญ้าจะตายและกลายเป็นสีน้ำตาลแห้งๆ
เจอสาวกำลังคิดสั้น รีบห้ามไว้ด้วยการชวนมาถ่ายภาพ 55
ทะเลหมอกใกล้แค่เอื้อม ช่วงสายๆอากาศยิ่งร้อนขึ้นหมอกจะเริ่มลอยตัวสูงขึ้นและฟุ้งกระจายจนหายไปครับ
พี่จันทร์แก้ว ผู้นำทางและให้ความรู้กับเราตลอดทาง
เหนือเมฆสักใบ
มัวหยุดถ่ายภาพกันซะนาน เอ้าเดินต่อ ตรงนี้จะเดินบนสันเขาลงไป
ผาแง่มน้อยหรือหินคู่รัก ผมเคยไปนอนที่ผาแง่มหลวงมาแล้วช่วงกุมภาที่ผ่านมา ตรงนั้นต้องเดินขึ้นจากทางขุนวางครับ
เบอรี่
เรียกผู้นำทางมาเป็นเหยื่อในการถ่ายภาพซ้อนสักหน่อย
***ในภาพนี้มีกวางผาครับ สังเกตดูดีๆๆใครเห็นแล้วบอกด้วยนะ
ดอกไม้เยอะมาก ครั้งหน้าต้องจัดเลนส์มาโครมาด้วย
หมอกจากเบื้องล่างลอยสูงขึ้นมาปะทะกับหน้าเรา ผมอ้าปากกินหมอกไปหลายคำ ใครเคยทำแบบนี้บ้าง
พระธาตุ"นภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ" 2 พระมหาธาตุเจดีย์ แห่งดอยอินทนนท์ จากจุดชมวิว มุมนี้เค้าบอกว่าจะสวยงามมากช่วงอาทิตย์ตก
สูดหายใจให้ลึกๆ กางปีก นับ 1....2.....3......แล้วกระโดดลงไป เย้ยยยยย
ช่วงหลังจากจุดชมวิว 2 พระธาตุ อีก 1 กม.ที่เหลือจะเดินในป่าอีกครั้ง ขอปิดเฟสนี้ด้วยภาพซ้อนอีกใบครับ รวมใช้เวลาในการเดินจนครบรอบ 4 ชม. (เน้นหยุดถ่ายภาพ)
ในส่วนของเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานผมแนะนำว่าต้องมาเดินให้ได้สักครั้ง เพราะมันสะดวกมากๆใช้เวลาไม่นาน หลายๆท่านไม่รู้ว่ามีด้วย เพราะขึ้นดอยอินทนน์จะโฟกัสไปที่จุดสูงสุด ตรงจุดนี้ไม่ควรพลาดครับ
------------
มุ่งหน้าสู่แม่แจ่ม
ลงเขามาก่อนถึงด่านตรวจที่ 2 จะมีทางแยกไป อ.แม่แจ่ม เส้นทางบนเขาค่อนข้างแคบคดเคี้ยว ผมขับรถด้วยความระมัดระวังพร้อมทั้งคิดว่าตัวเองกำลังเป็นคนส่งเต้าหู้ในตำนานแห่งเขาอากินะ 55 มองดูกระจกหลงทุกคนหลับปุ๋ยทั้งที่ผ่านโค้งพับไปพับมาอยู่เรื่อยๆ สุดท้ายเราก็มาถึงแม่แจ่ม แวะทานข้าวเที่ยงและเข้าที่พัก
ที่พักที่จองไว้ อยู่ห่างจากตัวอำเภอ 5 กม. แต่เห็นวิวท้องนา อ.แม่แจ่มสวยมากครับ
นอนเล่นรอจนบ่ายสามโมงครึ่ง รถกระบะที่นัดไว้ก็มารับพาเราไปยังนาขั้นบันไดบ้านป่าปงเปียง ทางเข้านั้นมีสองทางคือน้ำตกห้วยทรายเหลือง และ ทางฝั่งบ้านตีนผา เราเข้าทางฝั่งบ้านตีนผาเพราะทางแห้งกว่า ทางแอบลุยเล็กๆมีหินเยอะรถเล็ก รถเก๋งเข้าไม่ได้ ต้อง มอเตอร์ไซด์หรือรถกระบะเท่านั้น
นาขั้นบันไดในแถบนี้เก็บเกี่ยวไป 70% แล้วเสียดายจุงมาช้าไป สองวัน แต่เราก็ยังโชคดีได้เห็นชาวนา เกี่ยวข้าวและนวดข้าวอย่างใกล้ชิด
แรงคน ตั้งแต่ภาพนี้จะใช้ ฟิล์ม fujicolor superia x-tra400 ครับ
นวดข้าว
เห็นเมล็ดข้าวอวบๆแล้วหิวข้าวเลยครับ
กว่าจะเป็นข้าวเปลือก
ชาวนาในอำเภอ แม่แจ่มยังมีการลงแขกกันเกี่ยวข้าวอยู่
แปลงต่อไป รอการเก็บเกี่ยว
จัดภาพซ้อนสักหน่อย
เย็นแล้วอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เทเลทับบี้ก็ต้องบอกลา
วัยรุ่นที่เหนื่อยมาทั้งวันก็มานั่งชมวิว พร้อมซดเหล้าต้มที่ทำจากข้าว พวกเขาใจดีให้ผมลองไปสองกริ๊บบบ
บอกลานาขั้นบันไดแล้วจะมาใหม่ปีหน้า เปิดวาร์ปกลับมายังที่พัก คืนนั้นหลับปุ๋ยครับเหนื่อยมาก
ตื่นเช้ามาเปิดหน้าต่างพบกับหมอกขาวโพลน เลยนอนต่ออีกแป๊บ ลุกอีกครั้งตอนสายออกมาถ่ายภาพหมอกลอยตัวสูงขึ้นเปิดให้เห็นวิว ช่างต่างกันกับเมื่อวานตอนเข้าที่พัก
บอกลาแม่แจ่มด้วยภาพสุดท้าย เกี่ยวข้าว
ระหว่างทางกลับแวะน้ำตกวชิรธาร ยังสวยงามเหมือนเดิม
หลังจากนั้นก็บึ่งรถกลับเมืองเชียงใหม่เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพในตอนเย็น
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ ไว้ไปเที่ยวครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังอีก
**รีวิวภาพมือถือ ไปพร้อมกัน เขียนรายละเอียดและค่าใช้จ่ายไว้
http://pantip.com/topic/32849288
สอบถามข้อมูลแและติดตามภาพถ่ายได้ที่
https://www.facebook.com/paranphotography
และติดตามเรื่องราวการเดินทางได้ที่
https://www.facebook.com/justfollowmeee
ขอบคุณและสวัสดีครับ
------------
credit รูปภาพและข้อความ :
http://pantip.com/topic/32867762